20 ต.ค. 2021 เวลา 00:13 • ประวัติศาสตร์

พิษณุโลก เมืองสองแคว

2525-2564/1982-2021
🎉3️⃣9️⃣ปี#เส้นทางช่างศิลป์
ถิ่นกำเนิดพระนเรศวร
สองฝั่งน่านล้วนเรือนแพ
หวานฉ่ำแท้กล้วยตาก
ถ้ำและน้ำตกหลากตระการตา
คำขวัญประจำจังหวัดพิษณุโลก
พิษณุโลก หรือ 彭世洛 Péngshìluò แพ ซี ลก ในสำเนียงแต้จิ๋ว
เป็นอีกจังหวัดที่ได้มาบ่อยครั้ง ในช่วงปี 2527-2535 ทั้งในนามช่างศิลป์แอร์โรว์และไนกี้
ห้างท็อปแลนด์อาเขต เป็นห้างหนึ่งที่แอร์โรว์ใช้เป็นที่จัดงาน Trade in for Charity หรือแลกเสื้อเพื่อการกุศล โดยการนำเสื้อเก่ายี่ห้อใดก็ได้มาแลกซื้อเสื้อแอร์โรว์ในราคาพิเศษ จัดตามห้างในหัวเมืองใหญ่ๆ ผู้เขียนได้รับมอบหมายให้อยู่ stand by เผื่อมีงานเขียนป้ายราคาต่างๆเพิ่มเติม เนื่องจากผู้เขียนเติบโตมาจากช่างศิลป์ห้างคาเธ่ย์ 👉 https://www.blockdit.com/posts/610e5db2a46ddd0ff4f11404
เลยเขียนป้าย(ตัวริบบิ้น)ได้คนเดียวในแผนก และคอยตรวจตราซ่อมแซมอุปกรณ์ตกแต่งทั้งหมดของงาน ให้อยู่ในความเรียบร้อยสวยงาม ตั้งแต่เริ่มจัดงานจนเก็บงาน ประมาณครึ่งเดือน จนสนิทกับช่างศิลป์ของห้างเพราะเข้าไปขอความช่วยเหลือหยิบยืมเครื่องมือบ่อยๆตามประสาคนอาชีพเดียวกัน จึงเป็นห้างที่คุ้นเคยกับผู้เขียนเป็นอย่างมาก รวมทั้งทุกยี่ห้อที่ผู้เขียนไปเป็นช่างศิลป์ จะมีจำหน่ายและต้องเข้ามาตกแต่งในห้างนี้ทั้งสิ้น
ชุดฟอร์มของพนักงานขายแอร์โร่ว์ ที่ทั่วไปจะเรียก Pc(Product Consultant) แต่ของเราจะเรียก Ac(Arrow Consultant) ในช่วงระหว่างปี 2527-2529 กับบรรยากาศงาน Trade in for Charity หรือแลกเสื้อเพื่อการกุศล ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ห้างท็อปแลนด์อาเขต จ.พิษณุโลก *ขออนุญาตน้องๆพนักงานในภาพด้วยครับ
พูดถึงห้างท็อปแลนด์ เป็นห้างท้องถิ่นประจำจังหวัด เช่นเดียวกับเวลาไปเชียงใหม่ ต้องนึกถึง ห้างตันตราภัณฑ์ เพียงแค่ห้างตันตราภัณฑ์ล้มหายตายจากไป แต่ห้างท็อปแลนด์ ซึ่งมีทั้งห้าง โรงแรม และลานโบลิ่งระดับมาตรฐาน ยังดำรงคงอยู่หลังปรับทัพรับการเข้ามาของยักษ์ใหญ่ เซ็นทรัลพลาซ่า จากส่วนกลาง
ยกตัวอย่างอีก 1 จังหวัดในภาคเหนือยังมี อุตรดิตถ์ ที่มีห้างประจำจังหวัดคือ ห้างฟรายเดย์ (แต่ผู้เขียนเคยไปจัดดิสเพลย์ที่ห้างแสงฟ้า ไว้จะเขียนถึงในลำดับต่อไป) ที่ยังยืนยงคงกระพันมาถึงทุกวันนี้ อาจจะโชคดีที่เป็นจังหวัดขนาดกลาง เลยไม่มีวี่แววของห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จาก กทม เข้ามากล้ำกราย
บรรยากาศภายในแผนกกีฬา ของห้างท็อปแลนด์อาเขต จ.พิษณุโลก ในภาพ*ถ่ายระหว่างช่วงปี 2532-2535 เพิ่งนำมาสแกนแล้วเปิดขยายภาพในคอมฯ ถึงได้สังเกตเห็นตัวเองกำลังยืนเท้าสะเอวอยู่ด้านหลัง มองผ่านๆทีแรกนึกว่าผู้หญิง *ถ่ายภาพหลังเสร็จงานติดโมบายบนฝ้าเพดานห้าง เพื่อส่งเสริมการขายรองเท้าไนกี้รุ่นใหม่ Cross Training
ภาพถ่ายเมื่อ 20 ก.ย.2560 ของห้างท็อปแลนด์อาเขต ทางเข้าฝั่งถนนบรมไตรโลกนารถ ต้องปรับตัวจับสินค้าไอที ให้เข้ากับยุคสมัย
ภาพถ่ายเมื่อ 20 ก.ย.2560 ของห้างท็อปแลนด์อาเขต ทางเข้าฝั่งถนนนเรศวร ต้องปรับตัวจับสินค้าไอที ให้เข้ากับยุคสมัย ผู้เขียนคุ้นเคยกับทางเข้าฝั่งนี้เพราะมักจะเดินมาจากวงเวียนรถไฟ
กลับมาที่พิษณุโลก หรือเมืองสองแคว เป็นเมืองอกแตก หมายถึงเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมืองนั่นคือแม่น้ำน่าน นับเป็นจังหวัดที่เดินทางสะดวกทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน ผู้เขียนเคยเดินทางมาครบทั้ง 3 พาหนะ มีรถทัวร์ประจำจังหวัด ที่บริการดีมากๆ บัสโฮสเตสเดินแจกน้ำแจกของกินตลอดทาง จนผู้เขียนหลับไม่ลง อิอิ เป็นจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ติดกับนครสวรรค์ ซึ่งเป็นภาคกลางตอนบน มีโรงแรมใหญ่ๆมากมาย สมัยมาแรกๆยังงงว่าทำไมถึงมีโรงแรมใหญ่โตหรูหราหลายแห่ง
ผู้เขียนเคยพักในยุคแอร์โรว์ ตั้งแต่ระดับโรงแรมเซลล์ ค่าห้องพัก 100 ชื่อโรงแรมศิวะเทพ ถ.ประสงค์ประสาท ตรงข้ามหอพักไอซีซี จนมาถึงยุคไนกี้ที่ระดับดีขึ้นมา เช่น โรงแรมช้างเผือก และหรูสุดที่ โรงแรมเทพนคร(ได้บัตรลด 50%จากร้านค้า) ชั้น 1 ข้างล็อบบี้ของโรงแรมจะมีค็อกเทลเล้านจ์ ชื่อ เอราวัณ (ถ้าจำไม่ผิด) เคยลงไปนั่งพักผ่อนยามค่ำคืนหลังเสร็จงาน บรรยากาศดี ดนตรีไพเราะ และที่ลืมไม่ได้คือ สาวนั่งดริ๊งก์ สวยๆทุกคน
การเดินสายทำงานภาคเหนือ แน่นอนเชียงใหม่ต้องเป็นศูนย์กลางของภาคเหนือตอนบน ส่วนภาคเหนือตอนล่าง ศูนย์กลางการทำงานคือ พิษณุโลก เนื่องด้วยมีห้างร้านที่ต้องเข้าตกแต่งเยอะ และเดินทางต่อไปจังหวัดอื่นๆได้สะดวก
ภาพปัจจุบันของ โรงแรมศิวะเทพ ถ.ประสงค์ประสาท ที่มาภาพ Google Map
ภาพโรงแรมช้างเผือก ถ.ธรรมบูชา ที่มาภาพ Google Map
บัตรลดพิเศษค่าที่พัก 50% ได้รับความกรุณาจากร้านค้าที่ไปจัดดิสเพลย์มอบให้
ภาพโรงแรมเทพนครในยุครุ่งเรือง เป็น 1 ในโรงแรมชั้นนำของเมืองสองแคว ขอบคุณภาพประกอบจาก FB โรงแรมเทพนคร พิษณุโลก
โรงแรมเทพนคร สภาพเดิมๆเหมือนในอดีตที่เคยไปพัก สถานะปัจจุบัน : ปิดกิจการ ที่มาภาพ Google Map
พิษ'โลก เป็นเมืองที่จะว่าใหญ่ก็ไม่ถึงขั้นเชียงใหม่ จะว่าเล็กก็ใหญ่กว่าอีกหลายๆจังหวัด ค่าครองชีพถูก ตอนนั้นมีร้านผัดไทย 3 บาท ผู้เขียนมาทำงานและพักอยู่หลายวันได้ฝากท้องทั้งอร่อยและราคาน่าคบ ปริมาณ 2-3 จานอิ่ม เศรษฐกิจในยุคนั้นเฟื่องฟู ผู้คนมากมายต่างยิ้มแย้มแจ่มใส บางครั้งได้มาอ่านเรื่องราวในอดีต ทำให้เราหวลระลึกนึกถึงวันวาน เพื่อเติมพลังใจให้กับปัจจุบัน เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
ขอบคุณสำหรับการติดตาม มาลุ้นกันว่าทริปหน้า เส้นทางช่างศิลป์ จะพาทุกท่านท่องไปในอดีต ณ จังหวัดใด
หมายเหตุ : เรื่องราวต่างๆมาจากชีวิตจริง หากพาดพิงถึงใครหรือข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อน ขออภัย🙏ไว้ ณ ที่นี้ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอื่นใด นอกจากเล่าย้อนอดีตความทรงจำที่เคยตระเวนทำงานไปทั่วทุกสารทิศ
เรากลับไปแก้ไขอดีต..ไม่ได้
แต่
เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ได้
Linxikun
#เส้นทางช่างศิลป์
#ช่างศิลป์แอร์โรว์
#ช่างศิลป์ไนกี้
#ช่างศิลป์ยุคทำมือ
#ช่างศิลป์ในตำนาน
โฆษณา