26 ต.ค. 2021 เวลา 07:10 • สุขภาพ
ทำไมเราถึงรู้สึกอ่อนเพลียหลังจากออกกำลังกาย??
ทำไมเราถึงรู้สึกอ่อนเพลียหลังจากออกกำลังกาย อะไรคือสาเหตุ และมีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง??
ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยิน หรือรู้มาว่าการออกกำลังกายจะทำให้เรารู้สึกกระปี้กระเป่า รู้สึกสดชื่น และร่างกายแข็งแรง แถมยังลดไขมันได้ทำให้เรามีหุ่นที่ดีอีกด้วย ถ้าหากว่าเราออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ
แต่ผมเชือว่าก็มีอีกหลายคนที่พึ่งจะเริ่มต้นออกกำลังกาย แล้วหลังจากออกกำลังกายในตอนเช้า หรือว่าตอนเย็น แล้วพอตื่นเช้าในวันถัดไปกลับรู้สึกอ่อนเพลีย หาวนอน หรือมึมงง ซึ่งผมเองก็เคยเป็นครับ และเคยคิดไปเองว่านั่นเป็นเพราะร่างกายเรายังไม่ชิน วันนี้ต้องซ้ำอีกรอบก็คงจะดีขึ้นเอง
แต่พอทำเหมือนเดิมผลลัพธ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย บางวันรู้สึกว่าเพลียกว่าเดิมด้วยซ้ำ จนได้ลองไปหาข้อมูลของสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ขึ้นมา และก็ได้ข้อสรุปมาว่าสาเหตุหลักๆ มีอยู่ 4 ข้อครับ นั่นก็คือ นอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมง การออกกำลังกายมากเกินไป น้ำตาลต่ำ และไทรอยด์ต่ำ ซึ่งเหตุผลหลักนี้มีข้อพิสูจน์ครับ
ข้อที่ 1 นอนน้อยกว่า 8 ชั่วโมง
ข้อนี้ผมเคยเป็นและเป็นบ่อยมากครับ แต่พอเริ่มนอนเร็วขึ้นก็รู้สึกว่าเริ่มมีแรงเพิ่มขึ้นด้วย นั่นเพราะร่างกายเราทุกคนต้องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน หากเรานอนไม่พอร่างกายย่อมอ่อนเพลียอยู่แล้วครับ
ผมขอยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของผมที่เคยเป็นนักฟุตบอลทีมโรงเรียนแล้วกันครับ ตอนนั้นผมอายุ 18 ปี มีหน้าที่คือเรียนหนังสือ และไปซ้อมบอลหลังเลิกเรียนตั้งแต่ 18.00 - 19.30 เท่ากับว่าออกกำลังกายทั้งหมด 1 ชั่วโมง 30 นาที เต็มๆ แต่แทนที่หลังเลิกซ้อมแล้วกลับมาบ้านผมจะรีบเข้านอนในทันทีเพื่อพักฟื้นร่างกาย แต่ผมกลับมัวแต่เล่นเกม ดูการ์ตูน กว่าจะเข้านอนก็ห้าทุ่มเที่ยงคืนนู่นเลย แล้วผมยังตื่นนอนตอนตีห้าครึ่งเพื่อไปวิ่งในตอนเช้าอีก
อ่านแล้วคงรู้สึกว่าผมต้องมีร่างกายที่แข็งแรงแน่นอนเลยใช่มั้ยครับ แต่ผมอยากบอกว่าร่างกายผมในตอนนั้นเพลียมากครับ เพราะตอนซ้อมผมวิ่งแค่ไม่กี่นาทีขาผมก็ปวดแล้วครับ แล้วยิ่งตอนวันแข่งซึ่งแข่งตอนเที่ยงตรงบอกตามตรงครับว่าแค่วิ่งให้ทันคู่แข็งก็เต็มกลืนแล้วครับ แต่ถ้าวันไหนผมเบื่อเล่นเกม เบื่อการ์ตูน แล้วเข้านอนเร็ว วันนั้นผมจะวิ่งในช่วงซ้อมได้แบบเต็มที่ แถมตอนแข็งก็ยังมีแรงวิ่งจนหมดเวลาได้อีกต่างหาก
ดังผมขอย้ำครับว่าการนอนให้ได้ 8 ชั่วโมงต่อวันนั้นมีส่วนทำให้ร่างกายเราฟื้นฟูได้ดี และไม่รู้สึกเพลียจริงๆ ครับ
ข้อที่ 2 ออกกำลังกายมากเกินไป
ข้อนี้ผมค่อนข้างเห็นแย้งอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับเพราะผมเองก็เคยสั่งเกตตัวเองอยู่ช่วงหนึ่ง ว่าทำไมยิ่งผมออกกำลังกายทุกวันโดยเพิ่มจำนวนครั้งขึ้นเรื่อยๆ แทนที่ร่างกายจะมีกล้ามเนื้อมากขึ้น แทนที่จะหุ่นดีขึ้นกลับกลายเป็นว่า หลังตื่นเช้ามากลับอ่อนเพลียหนักกว่าเดิม กล้ามก็ไม่ขึ้น แล้วบางวันยังรู้สึกว่าอ้วนขึ้นอีก ที่เป็นแบบนั้นนั่นเพราะ ผมออกกำลังก็จริง แต่ก็นานเกินไปด้วย และบางวันผมยังนอนตอนตีสาม ตื่นตอนมาช่วยแม่เตรียมของไปขายตอนตีห้า(ช่วงที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาแล้ว) ร่างกายจะเอาเวลาไหนไปฟื้นฟูส่วนที่สึกหรอ??
และที่สำคัญมีงานวิจัยว่าถ้าเราออกกำลังกายแล้วรู้สึกอ่อนเพลียหลังตื่นนอน จะมีผลต่อการลดความอ้วนของเราในทางอ้อมด้วย นั่นเพราะคนเราจะมีอัตราการเผาผลาญที่เรียกว่า BMR และพอออกกำลังกายจะเปลี่ยนเป็น TDEE(การเผาผลาญ + ออกกำลังกาย) สมมุติผู้หญิงถ้าอยู่เฉยๆ ค่าการเผาผลาญ(BMR)จะอยู่ที่ 1,500 ถ้าออกกำลังกายจะเพิ่มขึ้นอีก 300 เป็น 1,800 แต่เราออกกำลังกายมากเกินไปในช่วงเริ่มต้น ทั้งๆ ที่ร่างกายเราอ่อนเพลีย ค่าTDEE จะลดลงเหลือแค่ 1,500 - 1,700 เท่านั้น เพราะร่างกายเราอ่อนเพลีย เลยทำให้ร่างกายขยับช้าลงไปด้วย
ดังนั้นใครที่รู้สึกอ่อนเพลียอยู่ แต่อยากออกกำลังกายผมแนะนำว่าให้ลดเวลาออกกำลังลงครึ่งนึง เช่น ถ้าปกติใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก็ลดลงเหลือ 30 นาที แบบนี้จะทำให้การออกกำลังของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยวัดผลจากความรู้สึกหลังตื่นนอนถ้าไม่มีอาการอ่อนเพลีย รู้สึกสดชื่น กระปี้กระเป่า แบบนี้ถือว่าใช้ได้ครับ
3. น้ำตาลต่ำ
ข้อนี้ผมยอมรับตามตรงว่าไม่รู้มาก่อน แต่พอได้ลองไปหาข้อมูลดูเลยได้รู้ว่า ร่างกายของเราจะมีน้ำตาล ที่เก็บไว้ใช้เป็นพลังานอยู่ 3 ที่ในร่างกาย คือ ใต้ผิวหนัง ตับ และกระแสเลือดตามลำดับ ซึ่งตอนที่เราออกกำลังกายร่างกาย จะดึงน้ำตาลที่เป็นพลังงานจากกระแสเลือดมาใช้จนหมด แต่ร่างกายยังไม่สามารถดีงพลังงานจากใต้ผิวหนัง และตับมาเป็นพลังงานในกระแสเลือดได้ทัน เลยทำให้มีภาวะน้ำตาลต่ำหน่อยๆ เลยส่งผลให้เรามีอาการมึนหัว อ่อนเพลีย ไม่ค่อยสดชื่น หรือบางคนรู้สึกหิว อยากกินอะไรหวานๆ นั่นคืออาการของภาวะน้ำตาลต่ำ ส่วนวิธีแก้นั่นง่ายมาก คือ กินก่อนออกกำลังกาย 1 ชั่วโมง หรือกินหลังออกกำลังกาย 30 นาที แค่นี้ก็แค้ปัญหาภาวะน้ำตาลต่ำได้แล้วครับ
แต่มีหลายคนเคยอ่านได้ข้อมูลมาว่าการออกกำลังกายในตอนเช้า หรือตอนเย็นจะทำให้ตับพัง! เลยเกิดความกลัวขึ้นมา แพทย์บอกว่าตับของเรานั้นเก็บพลังงานไว้เยอะอยู่แล้ว และที่สำคัญคนที่ออกกำลังกายคือที่ค่อนข้างอ้วน มีพลังงานที่ตับมากเกินไป ต้องการจะเอาไขมันออกอยู่แล้ว ดังนั้นตับไม่พังหรอกครับ
แต่ที่ตับจะมีปัญหาคือคนที่ผอมมมากๆๆ แล้วออกกำลังกายด้วยการวิ่งเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง ที่ตับก็ไม่ค่อยมีไขมันอยู่แล้ว แต่ก็ยังออกกำลังอย่างหนักอีกคนแบบนี้จะมีปัญหาที่ตับแน่นอนครับ ส่วนคนมีพุงแบบเราๆ สบายใจได้ครับ
4. ไทรอยด์ต่ำ หรือต่อมหมวกไตอ่อนล้า
ข้อนี้อาจจะต้องให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยนะครับ เพราะต่อมไทรอยด์จะมีหน้าทีผลิดฮอโมนต์บางอย่างที่ทำเราสดชื่น กระปี้กระเป่า เสริมภูมิคุ้มกัน แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ออกกำลังายเป็นเวลานาน หรือว่าผักผ่อนไม่เพียงพอเป็นเวลานานๆ ทำให้มีภาวะไทรอยด์ต่ำแฝงอยู่ อาการคือเราใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราออกกำลังกาย หรือใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น เช่น ทำงานหนักขึ้น นอนดึกขึ้น หรือเริ่มออกกำลังกาย ร่างกายไม่สามารถดึงพลังานไปใช้ได้ทัน ทำให้มรอาการขยับตัวช้าลง อ่อนเพลีย หรือว่าหาวตอนกลางวันนั่นเองครับ
และนี้คือสาเหตุของอาการอ่อนเพลียหลังจากออกกำลังกายที่ผมน้ำมาฝากทุกคน อยากให้ทุกคนสังเกตอาการตัวเองไล่ตั้งแต่ข้อที่ 1 ลงมาเรื่อยๆ เพราะจะได้แก้จากจุดที่ง่ายที่สุดก่อนนั่นเองครับ
Droprich App แอพชอปปิ้งออนไลน์สัญชาติไทย
แจกชุดทดลอง และคอร์สสร้างรายได้ฟรี : https://app.droprich.co/registerlinks/?linkcode=VdqLpOH74R
อ้างอิง
.
ติดตาม tan บนช่องทางอื่นๆ ได้ที่
facebook page : https://bit.ly/3bqUQZf

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา