29 ต.ค. 2021 เวลา 11:55 • ธุรกิจ
โลก Metaverse จุดเปลี่ยน อารยธรรมมนุษย์
2
คำว่า Meta แปลว่า “เหนือไปอีกขั้นหนึ่ง” ดังนั้นถ้าถามว่า Metaverse แปลว่าอะไร
คำนี้ก็แปลได้ว่า จักรวาลอีกขั้นหนึ่งที่เหนือกว่า
13
คำนี้ดูเป็นคำสั้น ๆ แต่ความหมายของมันลึกซึ้ง จนลงทุนแมนหยุดคิดไปนาน ในตอนที่ได้รู้ว่า เฟซบุ๊กเลือกคำว่า Meta เป็นชื่อใหม่ของบริษัท
9
ก่อนหน้านี้ ทุกคนน่าจะพอรู้เรื่อง Metaverse แบบคร่าว ๆ
แต่ทุกคนอาจจะไม่ได้ตระหนักว่า โลก Metaverse มันจะเหนือกว่าที่เราคิด
3
แล้วมันเป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
ถ้าจะให้แบ่งยุคของนวัตกรรมของโลกที่ผ่านมา
มันจะเปลี่ยนผ่านเป็นรอบ ๆ แต่ละรอบใช้เวลา 30-60 ปี
1
จุดเปลี่ยนที่สำคัญก็คือยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
แต่ถ้าจะให้นับจุดเริ่มต้นจริง ๆ มันจะเริ่มตั้งแต่ มนุษย์เริ่มรู้จักการใช้ประโยชน์จากพลังงานไฟฟ้า
ในสมัยเทสลา และเอดิสัน เมื่อยุคปี 1900 หรือ 120 ปีที่แล้ว
4
จุดเปลี่ยนผ่านอีกรอบหนึ่ง ก็คือการเริ่มเข้าสู่ยุคเซมิคอนดักเตอร์
ในสมัย Fairchild Semiconductor ช่วงปี 1960 บริษัทนี้ต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น บริษัท Intel, HP, Apple, Microsoft ในเวลาต่อมา
2
และการเปลี่ยนผ่านรอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้ระบบอินเทอร์เน็ต ในช่วงปี 1990 ซึ่งได้ทำให้เกิดนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน ทั้งโซเชียลมีเดีย อีคอมเมิร์ซ หรือแม้แต่ระบบบล็อกเชนที่เป็นพื้นฐานของคริปโทเคอร์เรนซีในปัจจุบัน บริษัทในยุคนี้ที่เกิดขึ้นก็คือ Amazon, Tesla, Facebook
2
นับจากวันแรกที่มนุษย์รู้จักคำว่า Facebook เมื่อ 17 ปีที่แล้ว
ในวันนี้ก็มีคนครึ่งโลก ที่เป็นสมาชิกของบริษัทนี้โดยไม่รู้ตัว
และล่าสุด Facebook ได้ประกาศว่าจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta
ซึ่งเรื่องนี้เป็นสัญญาณอีกครั้งหนึ่งว่าเรากำลังจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง
2
การเปลี่ยนผ่านในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับ Metaverse และ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่สามารถเชื่อมโลกจริงเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมันจะทำให้เกิดนวัตกรรมในแบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อน
5
ถ้าเป็นในมุมของการที่คอมพิวเตอร์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกจริง
ก็ตัวอย่างเช่น รถขับเคลื่อนอัตโนมัติที่สมบูรณ์แบบ โดยคอมพิวเตอร์จะประเมินสภาพแวดล้อมทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งหลายคนคงคุ้นเคยกับเรื่องนี้ในบริษัท Tesla ที่มีอีลอน มัสก์ เป็นผู้บริหาร
7
ในทางกลับกัน..
มนุษย์เราก็จะสามารถไปอยู่ในโลกเสมือนที่คอมพิวเตอร์ได้สร้างไว้เช่นกัน
ซึ่งภาพที่ทุกคนเข้าใจแบบง่าย ๆ ก็คือ Virtual Reality แบบในภาพยนตร์ที่คนจะสวมแว่นตาและได้เข้าไปเล่นในโลกนั้น
6
แต่จริง ๆ แล้ว สำหรับคำว่า Metaverse มันจะมีรายละเอียดที่มากกว่านั้น
มันจะเป็นระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ที่ถูกสร้างขึ้นในทุกรายละเอียด ที่มากกว่าภาพ ไม่ว่าจะเป็น สภาพสังคม การใช้ชีวิต หรือแม้แต่ การปกครองรูปแบบใหม่ และระบบการเงินที่จะสร้างเศรษฐกิจใหม่ในโลกใบนั้น..
7
“การมีสภาพสังคมใหม่” ที่เพื่อนสนิทของเราไม่ได้ถูกจำกัดแค่ ต้องอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันบนโลกจริง
3
“การใช้ชีวิตใหม่” ที่ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยการเดินทางแบบเดิม มันอาจจะเป็นรูปแบบใหม่แม้แต่ลอยได้ในอากาศ
6
ในอนาคต
ทุก ๆ สัมผัสในโลก Metaverse มันจะผสานสิ่งที่เป็นจริงและสิ่งเสมือนเข้าด้วยกัน จนในบางครั้งเราก็อาจลืมตัวไปว่าเรากำลังมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งไหน
7
การมีสิ่งเสมือนเข้ามา ในตอนแรกมนุษย์จะรู้สึกแปลก ๆ
แต่ในที่สุดมนุษย์จะชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันจะช่วยลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นอยู่แล้วบนโลกจริง
2
สิ่งที่เคยเป็นปัญหา สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้
Metaverse จะช่วยให้เป็นไปได้
- สิ่งที่เราอยากทำได้ในวัยเด็ก
- เพื่อนในจินตนาการที่เราอยากมี
- ชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่เราอยากเป็น
15
ความสุขทุกอย่างที่เราอยากได้จะเป็นไปได้ จนมนุษย์จะมีตัวตนแทบใกล้เคียงกับพระเจ้า ที่คนในโลกยุคก่อนไม่เคยได้สัมผัส
7
จนถึงตอนนี้ หากเราคิดว่าโลกในตอนนี้ ยังดูห่างไกลจากเรื่องพวกนี้
2
ลองมองสิ่งรอบ ๆ ตัว จริง ๆ แล้ว หลายคนอาจจะเริ่มเข้าสู่ในโลกนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2
- ใครที่ก้มหน้าเล่นโซเชียลมีเดีย และหลงใหลไปกับเรื่องราวที่เป็นดราม่าอยู่ในโลกนั้น
3
- ใครที่ชอบเล่นเกมทุกวัน เพราะมันสนุกกว่าการทำกิจกรรมอย่างอื่น
4
- ใครที่หลงใหลในคริปโทเคอร์เรนซี หรือ NFT เพราะเราวาดฝันว่าจะได้เป็นเศรษฐี และเจ้าของทรัพย์สินในโลกนั้น
1
ทุกคนกำลังมีตัวตนทางสังคม มีสิ่งแวดล้อม มีทรัพย์สิน ในโลกที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา มากขึ้นเรื่อย ๆ
4
ใช่แล้ว ในตอนนี้ เราทุกคนกำลังเริ่มทดลองเข้าสู่ Metaverse เป็นที่เรียบร้อยแล้ว..
และที่สำคัญในบางครั้งเราก็อาจจะควบคุมตัวเองให้ออกจากโลกนั้นไม่ได้
3
อย่าว่าแต่ออกมา แต่คนเหล่านั้นยังไม่รู้ตัวเลยว่าถูกทำให้หลงใหลเข้าไปอยู่ในโลกที่ไม่มีจริงเหล่านั้น ไปเรียบร้อยแล้ว
3
นอกจากนั้น คนที่ลองเข้าไปแล้วมีความสุข เห็นว่าดี ก็เริ่มชักชวนเพื่อน ๆ คนรอบข้างให้เข้าไปตาม
ถ้าไม่ทำตาม จะถูกกล่าวหาว่าตกยุค
ถ้าไม่ได้มีสิ่งนั้นมาครอบครอง คุณก็จะเหมือนไดโนเสาร์
1
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับมนุษย์ที่มีประสบการณ์ชีวิตมากในโลกเดิม ซึ่งอาจต่อต้านกับโลกใหม่
แต่ก็คงต้องทำใจว่า มนุษย์ในยุคถัดไปจะเริ่มเข้าสู่ Metaverse เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ
2
..
1
ย้อนกลับไป
จากโลกที่มนุษย์เริ่มรู้จักการใช้พลังงานไฟฟ้าเมื่อ 120 ปีที่แล้ว
มนุษย์ได้ก้าวมาไกลถึงขนาดนี้ในระยะเวลาที่สั้นมาก
เมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อ 100,000 ปีก่อนหน้านั้น
2
ลองจินตนาการไปข้างหน้านับจากจุดนี้ว่า
ในอีกสัก 10,000 ปีข้างหน้า อารยธรรมมนุษย์จะเป็นอย่างไร มันจะล้ำกว่า 120 ปีที่ผ่านมาแค่ไหน
4
และในจุดนั้นเราอาจจะแยกไม่ออกเลยว่าตัวตนที่เราใช้ชีวิตอยู่ มันจะอยู่ในโลกจักรวาลขั้นไหนที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
4
เคยสงสัยไหมว่า
จักรวาลของเรามีดาวมากมาย แต่ทำไมเราไม่เคยเจออารยธรรมบนดาวดวงอื่นแม้แต่น้อย
หนึ่งในคำตอบนั้นก็อาจเป็นไปได้ว่า
แท้จริงแล้ว
รากฐานจักรวาลที่เป็นจุดเริ่มต้นของมนุษย์ และจุดจบของมัน อาจจะเป็นสิ่งเดียวกัน..
12
“เราอาจจะอยู่ในจักรวาลทดลองของใครบางคน ที่มีอารยธรรมสูงกว่าเรา”
- อีลอน มัสก์
14
โฆษณา