ผู้หญิงจำเป็นต้องยกเวทจริงหรือ?
ตั้งแต่เกิดมาเรามักมีความเชื่อหรือความรู้ผิด ๆ เกี่ยวกับการยกเวท และ ผู้หญิง
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักคิดว่า
“ถ้าชั้นยกเวท ร่างกายของชั้น จะต้องเป็นแบบผู้ชายแน่ ๆ
ชั้นไม่ได้อยากได้แบบนั้น ”
ซึ่งในความเป็นจริงธรรมชาติของร่างกายของผู้หญิงไม่ได้ถูกออกแบบให้มีกล้ามเนื้อที่ชัดเจนหรือใหญ่แบบผู้ชายขนาดนั้น ทั้งฮอร์โมน และ สรีรวิทยา ของผู้หญิง จะโตหรือใหญ่ขึ้น เท่าของผู้ชายนั้น เป็นไปไม่ได้เลย ในร่างกายของผู้ชาย มีเส้นใหญ่กล้ามเนื้อที่ใหญ่กว่าของผู้หญิง ซึ่งหมายความว่า ผู้หญิงจะไม่มีหน้าอกที่เป็นลูกได้แบบผู้ชาย
ในทางกลับกัน ผู้หญิงจะสร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้นมาแทน แต่ไม่ได้ใหญ่ขึ้น และยังผอมลงอีกด้วย!!!
คุณลองจินตนาการว่า ปกติในตอนที่คุณไม่เคยยกเวท แขนคุณใหญ่และยกของหนักมากไม่ได้เพราะไม่มีกล้ามเนื้อ แต่พอคุณยกเวทแขนคุณกลับกระชับและดูเล็กลง
แถมยังยกของหนักได้มากขึ้นด้วย!! แปลว่าคุณมีแรงที่จะยกของตอนช็อปปิ้งได้มากขึ้นยังไงล่ะ 555555
ซึ่งการยกเวทจะช่วยเรื่องการเผาผลาญให้ดียิ่งขึ้น กระชับสัดส่วนและป้องกันการได้รับบาดเจ็บกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าเดิม (หัวข้อตรงนี้จะมาขยายในบทความด้านล่าง)
“แล้วถ้าชั้นยกเวท หุ่นชั้นจะเป็นแบบนักเพาะกายหญิงเลยรึเปล่า??”
ในกรณีของนักเพาะกายหญิง เป็นกรณียกเว้น เพราะกลุ่มนักเพาะกายหญิง จะเล่นเวทเทรนนิ่ง 2-3 ชั่วโมงต่อวัน และยังต้องพึ่งสารอะนาโบลิกสเตียรอยด์ เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ
ถ้าคุณไม่ได้เล่นเวทนานขนาดนั้นและไม่ต้องใช้สารก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
ในปัจจุบันผู้หญิงที่เข้าใจในการออกกำลังกายจริง ๆนั่น ถือว่ายังไม่มากนัก
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักพุ่งเป้าไปที่การวิ่งบนลู่เพื่อลดน้ำหนัก หรือคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียว
ซึ่งมันให้ประโยชน์คนละแบบกับที่การยกเวทให้ การใช้พลังงานมันเป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องสร้างมันด้วย
ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการยกเวท
ทางด้านจิตวิทยา
หลายคนที่อ่านคงจะงง ๆ ว่ายกเวทจะเกี่ยวกับจิตวิทยาได้อย่างไร
โดยมีผู้ที่เข้าร่วมงานวิจัย ออกกำลังกายโดยการยกเวท หลังจากตื่นนอน 1 ชั่วโมง จะช่วยเพิ่มระดับการรับรู้และความเข้าใจและสมาธิได้ตลอดทั้งวัน
ถ้าเรามาลองคิด ๆ ดูว่าเพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น เพราะว่า สมองและร่างกายของเราจะได้รับเลือดเข้าไปสูบฉีดเร็วกว่าปกติผ่านการออกกำลังกาย การออกกำลังกายตอนเช้า ช่วยให้คุณตื่นตัวและมีพลังงานให้ใช้ตลอดทั้งวัน
ลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักคือเหตุผลหลักที่ทำผู้หญิงส่วนใหญ่ออกกำลังกาย และควรยกเวท
จำไว้การลดน้ำหนักไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขบนตาชั่งเท่านั้น
การฝึกความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อเพื่อเข้าไปแทนไขมัน
ร่างกายของคุณจะ ผอมลง เล็กลง และดูกระชับมากขึ้น กล้ามเนื้อเผาผลาญแคลอรี่จากไขมัน ส่วนเกินได้เร็วขึ้น (แม้ว่าคุณจะทำงานอยู่ที่โต๊ะหรือกำลังขับรถก็ตาม!!) หากเทียบกับคนที่ไม่ยกเวท
ซึ่งมีงานวิจัยที่ชัดเจน โดยการผสมผสานระหว่างการกินอาหารเพื่อสุขภาพและการยกเวท ช่วยให้ผู้สูงอายุที่มีโรคอ้วน ลดไขมันได้ดีกว่า การควบคุมอาหารและคาร์ดิโอในระดับ เช่น การเดิน
การยกน้ำหนัก
จะช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เชื่อมถึงกัน จากกล้ามเนื้อส่วนนึงส่งไปยังกล้ามเนื้ออีกส่วนนึง เช่นการ สควอท คุณจะไม่ใช่ได้แค่กล้ามเนื้อขา แต่กล้ามเนื้อมัดเล็ก ๆ ส่วนอื่นก็ได้รับผลดีเหมือนกัน เช่น หน้าท้อง และ ก้น
ภาพกล้ามเนื้อที่ใช้เมื่อเราสควอท
ความต้านทานการบาดเจ็บ
ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ พอเราอายุมากขึ้น เราก็มีแนวโน้มที่จะบาดเจ็บมากขึ้น
ซึ่งวิธีป้องกันก็คือ ฝึกความแข็งแรงและความทนทานให้กลับกล้ามเนื้อของเรา
ผู้หญิงที่ยกเวทจะได้รับประโยชน์จากความหนาแน่นของหระดูกที่เพิ่มมากขึ้น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจะช่วยป้องกันร่างกายจากการบาดเจ็บ
การป้องกันโรค
การยกเวทช่วยปองกันการเสี่ยงต่อโรคทุกอย่างตั้งแต่โรคหัวใจ โรคอ้วน หลอดเลือด และเบาหวานประเภท 2 ลดลงอย่างมาก
จากการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ เทียบระหว่างผู้หญิงที่ไม่ยกเวท และ ยกเวท
ผู้หญิงที่ยกเวทช่วยลดความเสี่ยง ของโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ถึง 30% และความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ ได้ถึง 17 %
เมื่อปริมาณไขมันในร่างกายลดลง ความเสี่ยงของโรคเหล่านี้ก็จะลดลง
นอกจากนี้มันยังประโยชน์อื่น ๆ อีก คุณจะนอนหลับได้ดีขึ้น และยังช่วยให้คุณควบคุมความเครียดได้ดีขึ้น และยังแก้นิสัยเสียของคุณอื่น ๆ ได้อีก เพื่อป้องกันโรคในอนาคต
การออกกำลังกายมีผลต่อสุขภาพจิตอย่างไร?
ลดอาการวิตกกังวล
ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
ปล่อยฮอร์โมนกระตุ้นอารมณ์
สร้างสัมฤทธิ์ผลที่เป็นรูปธรรม
เพิ่มระดับพลังงาน
พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้หญิงที่ยกเวทจะมีพลังพิเศษด้านสุขภาพจิตทุกครั้งที่ก้าวเข้ามาในโรงยิม
แล้วเราควรเริ่มต้นอย่างไรดี?
ซึ่งเราก็ต้องบอกตรง ๆ ว่าไม่มีสูตรออกกำลังกายหรือวิธีการฝึกใดที่เหมาะกับผู้หญิงทุกคน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหนและต้องการเป้าหมายแบบไหน สุขภาพปัจจุบันของคุณเป็นอย่างไร? และเป้าหายในอนาคตของคุณเป็นอย่างไร?
ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณขอคำแนะนำหรือปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายของคุณได้ ซึ่งเราก็ต้องไปเช็คประวัติของคนที่เราจะปรึกษาก่อน ว่าเขาสามารถช่วยเหลือเราได้จริงหรือไม่ ประสบการณ์ทางวิชาการ ซึ่งการทดสอบผู้ฝึกสอนก็ง่าย ๆ ให้คุณถามคำถามที่คุณอยากรู้ ทำไมเราถึงต้องทำแบบนี้ ทำไมเราต้องทำซ้ำ ๆ แบบนี้ หรือทำไมเราต้องทำท่านี้ หากเขาไม่สามารถบอกได้ ก็แปลว่าเขาไม่ใช่สำหรับคุณ
ดูบันทึกความสำเร็จของเขาว่า มีคนที่เป็นลูกค้าของเขาประสบความสำเร็จในการออกกำลังกายและไปถึงเป้าหมายได้รึเปล่า
หากตารางงานของผู้สอนยุ่ง ถือว่าเป็นสัญญานที่ดี! แปลว่าเขาเป็นที่ไว้วางใจ และ น่าเชื่อถือ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
