29 พ.ย. 2021 เวลา 16:35 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง : จะรัก…แล้วไง? 🤫
ตอนที่ 2 ใจดี อบอุ่น
“ซีนายทอล์ก”
เลิกเรียน
วันนี้เลิกเรียนเร็วกว่าทุกวัน บีมล๊อคตัวฉันไปบ้านของมันด้วย ทั้งที่ฉันปฏิเสธไปแล้ว เพราะฉันมีความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นในใจ เมื่อก่อนไม่เคย
แต่วันนี้ ใจมันเต้นแรกผิดปกติ เมื่อได้ยิน “ไปติวบ้านกูกัน” ใจของฉันมัน… “ลิงโลด”
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องร่วมโต๊ะกับครอบครัวของบีม
ฉันร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับบ้านนี้บ่อยจนแทบจะเป็นลูกสาวอีกคนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ของบีมใจดีมาก รวมถึงน้องๆของมัน เพียงแต่ว่าเธอแทบจะไม่ได้เจอหรือร่วมโต๊ะกับพี่เมย์เลย อาจเป็นเพราะต้องอยู่โรงพยาบาล ไม่ค่อยกลับบ้าน หรือจังหวะที่พี่เค้ากลับบ้านฉันไม่ได้มาที่นี่
บ้านนี้เริ่มมื้อค่ำตอน 18.00 น.ตรง ไม่รอให้ครบคนก่อน เพราะถือว่าทุกคนทราบแล้วว่าเวลานี้คือเวลาทานข้าว หรือหากไม่สามารถมาร่วมได้ก็จะไม่ต้องเสียเวลารอ ถามหา โทรตาม หรือโทรบอก
หรือถ้าหิวกลางดึก ป้านวลก็จะเก็บไว้ในตู้เย็น สามารถเอามาอุ่นและทานเองได้เลย
มาก่อนกินก่อน มาช้าก็กินทีหลัง
“มึงเป็นอะไร?” บีมถาม
“พี่รัตน์ข้างห้อง จะย้ายออกสิ้นเดือนนี้ พี่เค้าจะย้ายไปประจำที่อุดร”
“งั้นก็แย่เลยล่ะสิ ร้านอาหารตามสั่งชั้นหนึ่งก็ออกสิ้นเดือน มึงบอกว่าย้ายของกันแล้ว”
“ก็ใช่ วันนี้เค้าถ่ายรูปมาให้ดูว่าย้ายเสร็จหมดแล้ว สิ้นเดือนจะมารับเงินประกันคืน กูเพิ่งโพสหาคนเช่าอยู่ แค่เรื่องเช่าร้านก็หายากอยู่แล้ว นี้จะต้องหาคนเช่าห้องต่ออีก” นี่อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนแถมเดือนนี้เป็นเดือนที่วันน้อยที่สุดอีก
จะบ้าตาย \~0~/
และดูเหมือนว่าปัญหาของฉันจะกลายเป็นปัญหาของครอบครัวนี้ไปแล้ว
“ให้พ่อกับแม่ช่วยมั้ย เรื่องคนเช่าร้านกับเช่าห้อง” คุณประวิทย์ ประมุขของบ้านเสนอ
คุณพ่อเป็นชายสูงวัยร่างผอมเพียว สูงสมส่วน ใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงเกล่า ราวกับผู้หญิง และริ้วรอยตามวัย และหน้าของท่านเหมือนจะยิ้มตลอดเวลา
“แม่ก็มีเพื่อนในสมาคมเยอะ จะถามให้นะว่ามีใครต้องการเปิดร้าน และเช่าห้องหรือเปล่า” คุณวีนาก็ช่วยอีกแรก
คุณวีนาเป็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กสูงไม่ถึง155 หน้ารูปไข่ ตาจะดุ โฉบเฉียว มีลักยิ้ม ริ้วรอยตามวัยและความสุข
เรียกว่าบ้านนี้เป้าหน้าดี และความสูงได้มากจากพ่อทั้งหมด
“ขอซีลองพยายามดูก่อนค่ะ เกรงใจค่ะคุณพ่อคุณแม่”
“อุ๊ย!! อย่าเกรงใจกันเลย เราก็เหมือนลูกสาวแม่อีกคน ปัญหาของลูกก็เหมือนปัญหาของแม่ แม่เต็มใจจ้ะ”
“ขอบพระคุณค่ะคุณพ่อคุณแม่ที่เมตตาหนู”
ฉันรู้สึกซาบซึ้งกับเมตตาของทั้งสองท่านจนไม่รู้จะตอบแทนอะไรได้ นอกจากตอนนี้คือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับลูกชายของท่าน หลายครั้งก็ช่วยสอนการบ้านน้องๆของบีม
ตอนบิวจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยฉันก็มาช่วยด้วย เพราะบิวเก็บคะแนนไม่ถึงเกรณ์ ไม่เล่นกีฬาที่จะชิงโควต้า จึงต้องลงสนามสอบตรง จนมีชื่อติดสำรองและก็ได้เรียนคณะครุศาสตร์สาขาชีวิวิทยา ในที่สุด
เส้นทางเป็นอาจารย์นักวิทยาศาสตร์ของบิวช่วยขรุขระเหลือเกิน แต่ฉันก็พร้อมจะช่วยเหลือ
“แล้วนี้ ลูกเมย์จะมาทานข้าวมั้ยคะ แล้วลูกเบนกับลูกแบมล่ะ” คุณวีนาถามของลูกสาวและลูกชายฝาแฝด นึกคิดถึงลูกๆทั้งสามคนขึ้นมาตอนไม่พร้อมหน้า
“เดี๋ยวคงมาครับ พี่เมย์ไปรับฝาแฝดครับ” บิวเป็นคนตอบ
มื้อเย็นของวันนี้เริ่มได้ไม่นาน ฉันก็ได้ยินเสียงรถเข้ามาจอด คนรับใช้ประจำห้องอาหารก็รีบเข้ามาจัดวางจาน ช้อนและส้อม รวมถึงแก้วน้ำสามชุด
เสียงเอะอะก็ดังมาก่อนตัว
“ไอ้เบน ทีหลังถ้าเรียนไม่รู้เรื่องก็บอกติวเตอร์สิ นั่งหลับทำไม เสียดายเงิน” เสียงพี่เมย์โวยวายใส่น้องชาย
“ผมก็บอกแล้วว่าผมไม่อยากเรียนพิเศษ แค่พี่เมย์ติวให้ผมก็รู้เรื่องแล้ว อีกอย่าง ผมก็ไม่ชอบติวเตอร์คนนี้ แล้วที่นี่ก็ไม่สามารถเลือกติวเตอร์ที่ถูกใจได้อีก ผมจะไปเหมือนไอ้แบมนะครับที่สามารถปั้นหน้าตั้งใจเรียนทั้งที่ไม่ชอบติวเตอร์คนนั้นน่ะ”
“แกนี่มัน…สักทีดีมั้ยเนี่ย” พี่สาวง้างมะเหงกจะลงหัวน้อง แต่น้องหลบหลีกว่องไวด้วยความเร็วแสง
"แม่ครับ ช่วยด้วย!"
“อะไรกันคะ ลูกๆ เสียงเอะอะเชียว ทานข้าวกันก่อนนะคะ มีกับข้าวหลายอย่างเลย” คุณวีนาบอกลูกๆทั้งสาม
“ก็น้องมันกวนประสาท มาให้เขกกระโหลกสักทีดิ๊”
“คุณแม่ช่วยด้วยยยยย” มันรีบหาคนช่วยทันที “อ้าวพี่ซี วันนี้จะค้างที่นี่หรือเปล่า พี่ซีติวฟิสิกส์ให้ผมหน่อย” เบนส่งยิ้มให้ฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ
เมื่อลูกชายของผู้มีพระคุณขอ ฉันก็พร้อมที่จะติวหนังสือให้
“ดีเหมือนกันนะ หนูซีค้างที่นี่เลย แม่นวลๆ ให้เด็กๆไปเตรียมห้องให้คุณซีด้วยนะ” คุณแม่กุรีกุจอสั่งให้คนตระเตรียมที่นอนให้ฉัน และการค้างคืนที่นี่ของฉันคือความสุขของท่าน เพราะอะไรนะหรือ?
“นี่หนูซี แม่มีชุดนอนน่ารักๆที่เหมาะกับหนูด้วยนะ คืนนี้แม่จะเอาไปให้”
คุณแม่ชอบมีชุดสวยๆในวาระต่างๆมาให้ลูกๆใส่ และดูเหมือนว่าจะเป็นชุดของผู้หญิงเสียมากกว่าชุดของผู้ชาย
คืนนี้น่าจะเป็นชุดนอน และถ้ารู้ว่าฉันไม่มีเสื้อผ้ามาด้วย คุณแม่ก็จะมีชุดชั้นในใหม่เอี่ยมให้ฉันด้วย
“จะค้างที่นี่เหรอ ดีๆ คืนนี้ฝากติวเจ้าแฝดด้วยนะ” พี่เมย์จะเห็นดีเห็นงามไปกับคุณแม่ด้วย
ยิ้ม! พี่เมย์ยิ้มให้ฉันด้วย น่ารักเป็นบ้าเลย!!
“พี่เมย์ไม่ติวให้ผมเหรอ” ดูเหมือนว่าแบมชอบให้พี่สาวคนโตติวหนังสือให้มากกว่า
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวมีปาร์ตี้กับพวกถาปัด ไม่รู้จะกลับเมื่อไหร่ เลยจะนอนที่หอข้างนอก”
“แล้วผมล่ะ จะไปรถคัดเดียวกัน” บีมมันถาม เพราะคืนนี้ตั้งใจว่าจะไปไม่นานสักสามทุ่มก็จะกลับมาติวหนังสือ ส่วนฉันก็จะอยู่รอที่นี่ และเหมือนจะต้องติวฟิสิกส์ให้เบนด้วย
“ตอนกลับค่อยคิดแล้วกัน” พี่เมย์เหมือนจะเป็นคนง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอะไร ยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา
“จะไปปาร์ตี้กัน ยังไงก็กินข้าวรองท้องก่อนนะคะลูกเมย์ ลูกบีม”
คุณวีนาไม่ได้ห้ามปรามลูกๆคนโตทั้งสอง แต่จะคอยเตือนเรื่องอาหารการกินเสียมากกว่า
“แล้วมีชุดใส่ไปหรือยัง แม่เตรียมให้มั้ย”
“อย่าเลยค่ะแม่ เมย์มีแล้ว ถ้าขืนใส่ชุดของคุณแม่มีหวังไปไม่ทันกันพอดี”
“ใจร้ายจัง” คุณวีนาหน้างอ งอนที่ลูกสาวสุดที่รักขัดใจ
แต่ดูเหมือนว่าพี่เมย์จะมีมุกใช้ง้อเอาใจแม่ด้วย
“คุณแม่ก็มีซีนายอยู่แล้วนี่คะ คืนนี้นอนที่นี่ไม่ใช่เหรอ” นั่นไงโยนมาที่ฉันแล้ว
“จริงด้วยสินะ”
พี่เมย์กับบีมทานข้าวจนหมดจานก็ขอตัวไปปาร์ตี้ที่นัดกับเพื่อนไว้ คุณพ่อคุณแม่ก็อิ่มเหมือนกัน ก็แยกออกไปคุณพ่อเหมือนจะมีรายการข่าวที่ต้องดูก่อนนอน ส่วนคุณแม่นั้น คงไม่ต้องบอกซ้ำว่าท่านไปไหน
ส่วนบิว เบน และแบมก็ยังทานข้าวอยู่อย่างเอร็ดอร่อย เจริญอาหารกันเหลือเกิน
“วันนี้เป็นไงบ้างเบน แบม ทำอะไรป่วนพี่เมย์” ฉันหาเรื่องคุยกับน้องๆ ประเด็นจริงๆคือ ฉันอยากรู้เรื่องของพี่เมย์มากกว่า ฉันเริ่มเป็นตั้งแต่เจอพี่เมย์แบบจังๆตอนนั่งรถรางวันนั้น
และจากนั้นเรื่องของพี่เมย์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสองแฝดก็ถูกถ่ายถอดออกมาอย่างออกรสออกชาติ ถึงฉันจะรู้ว่ามันถูกแต่งเติมเสริมจนเกินจริง ฉันก็ตั้งใจฟัง
หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ ฉัน บิว เบนและแบม ก็เปลี่ยนโต๊ะทานข้าวเป็นโต๊ะติวหนังสือ บิวจะมีรายงานของตัวเองที่ต้องทำ เปิดโน๊ตบุ๊ค ใส่หัวฟังแล้วก็ไม่สนใจอะไรอีกนอกจากงานตรงหน้า มีหนังสือเล่มเก่าๆสองสามเล่มวางอยู่ ใช้หาข้อมูล
ส่วนสองแฝดก็เอาการบ้านขึ้นมา วันนี้เป็นฟิสิกส์ที่อาจารย์ของน้องๆให้คำตอบมาแล้วให้หาวิธีแก้ บอกเลย มึนเลยจ้า ตอนที่ฉันเรียนฟิสิกส์ยังไม่ขนาดนี้เลย
ก็ไม่แปลกที่เด็กมันจะไม่เข้าใจ พยายามเรียนพิเศษก็ยังไม่เข้าใจ และแอนตี้ครูหรือติวเตอร์ในที่สุด
เกือบสามทุ่ม ฉันกับน้องๆ ยังคงไม่ไปไหน ฉันเพิ่งจะมีเวลาทบทวงหนังสือของตัวเอง เงยหน้าขึ้นมาก็เกือบสามทุ่มครึ่งแล้ว บีมมันก็กลับมาพอดี
“พี่เมย์ล่ะ” แบมถามหาพี่สาวทันที
“ไปต่ออีกร้านนึง”
“เหรอ จะกลับมานอนที่นี่มั้ย หรือนอนข้างนอน”
“บอกว่าจะนอนที่หอนะ”
แบนมันจะผิดหวังมากที่สุด
แต่มันก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาก่อนที่จะพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่างลงในมือถือ
“หรือว่าผมจะย้ายไปอยู่กับพี่เมย์ที่หอดีมั้ย เบนมึงว่าไง”
“ก็ดี เอาด้วยๆ”
ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่ของบ้านเป็นต้องการของน้องๆ ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่เคยเห็นว่าจะพูดถึงพี่คนนี้เท่าไหร่ จนลืมไปเลยว่าบ้านนี้มีพี่สาว หรืออาจจะเป็นเพราะ พี่สาวรักษาตัวเลยไม่อยากพูดถึงให้ไม่สบายใจ
“อย่าเลยพวกมึง แค่เรียนก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว จะไปวุ่นวายทำไม” บีมไม่เห็นด้วย
“เออจริง กูก็ว่างั้น พวกมึงน่ะไปหาได้ แต่อย่าไปอยู่รบกวน” บิวเห็นด้วยกับพี่ชาย
“ไม่สนุกเลย” สองแฝดพูดพร้อมกัน เบ้ปากไม่ได้ดั่งใจ พี่เมย์จะตามใจ ส่วนพี่ชายสองคนนี้จะคอยขัดตลอด
ฉันเห็นแบมให้เบนดูมือถือของตัวเอง แล้วหันหน้ามองกันแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ก่อนจะเก็บสมุดหนังสือกลับห้องของตัวเอง
“ถ้ากูเป็นพี่เมย์ กูจะบีบคอมัน วุ่นวายดีนัก”
“อย่ามาพูด มึงเป็นยิ่งกว่าพวกมันอีก ที่นั่งอยู่นี่ก็รอพี่เมย์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
บิวอ้าปากค้างเถียงไม่ออก แต่ตีมึนใส่
“อะไร? ใครรอ?”
“ปกติมึงจะทำการบ้านในห้องที่เงียบๆ เปิดเพลงฟังคนเดียว ไม่มานั่งที่นี่หรอก วุ่นวายจะตาย”
“ก็…ก็…”
ไม่ทันตอบ บิวมันก็รีบเก็บของแล้วหนีไป “ไม่ได้รอนะ พี่อย่ามั่ว”
“กูเพิ่งเคยเห็นพวกน้องมึงเป็นแบบนี้นะ”
“ก็พี่เมย์เป็นพี่ที่ใจดีสุดๆ พวกมันก็เลยติดแจ"
“รวมถึงมึงด้วยว่างั้น กูว่ามึงน่ะเป็นหนักกว่า 3 คนนั้นนะ เด็กติดพี่แน่ๆ”
บีมยักไหล่ไม่แคร์ที่ถูกฉันว่า
"กูเป็นน้องพี่เมย์ก่อนพวกมันเกิดเสียอีก แค่กูยอมให้พี่เมย์ได้ดูแลพวกมัน ดีแค่ไหนแล้ว”
คนหวงพี่มี 1 อัตรา แม้แต่น้องในไส้มันก็ไม่เว้น
บีมขึ้นไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน และลงมาช่วยติวให้ฉัน ซึ่งเป็นวิชาที่จะต้องอ่านล่วงหน้าก่อนเข้าเรียน ด้วยความที่อาจารย์เป็นชาวต่างชาติ สำหรับบีมแล้วมันเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับฉันไม่! ดังนั้นจะต้องรู้เนื้อหาก่อนที่จะไปฟังอาจารย์ เป็นสิ่งที่ฉันต้องทำทุกวัน
เที่ยงคืน
ฉันกับบีมแยกย้าย มันบอกว่า “คืนนี้จะบุกอารีน่า”
ห้องนอนประจำของฉันถูกจัดให้ในส่วนของห้องรับรองแขก ลงท้ายด้วยว่า แขกประจำ
เรื่องหาคนมาเช่าทั้งห้องและร้าน ยังเป็นปัญหากวนใจฉัน ทำให้นอนไม่หลับ จึงออกมาเดินเล่น คืนนี้อาการเย็นพอสมควร
ฉันกำลังจะไปนั่งเล่นที่ชิงช้าหน้าบ้านหลังใหญ่ บ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ปนวุ่นวาย ฉันมาที่นี่กี่ครั้งก็ยังสัมผัสได้ถึงความรักที่มากมายจนเผื่อแผ่มาถึงคนนอกด้วย
และชิงช้าตัวนั้นคืนนี้มีคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“พี่เมย์”
ไหนบีมมันบอกว่าไม่กลับไง ทำไมมาอยู่ที่นี่?
พี่เมย์นั่งอ่านอะไรบางอย่างในมือถือ นั่งกึ่งเอนกับพนักพิงข้างหลัง ตั้งแขนขวาที่จับมือถือไปกับพนักพิงหลัง อีกข้างหนึ่งเท้ากับที่นั่งไว้
“อ้าว ซีนายเหรอคะ”
แอบดีใจที่พี่เมย์จำชื่อฉันได้ เสียงพี่เมย์เพราะมาก นุ่มโทนต่ำ คล้ายๆคุณพ่อของพี่เมย์มากๆ แต่บ้านนี้ยิ้มเก่งทุกคน
“มาทำอะไรตรงนี้คะ ไหนว่าจะไม่กลับ”
อยากตบปากตัวเองที่ถามอะไรไม่เข้าท่า ที่นี่บ้านของเค้า เขาจะมาหรือไม่มาก็เรื่องของเขาสิ
“ไอ้แบนบอกให้กลับมาน่ะค่ะ”
“พี่เมามากเลยนะคะ” กลิ่นเหล้าครุ่งเลย
พี่เมย์หัวเราะตาหยี่ มีสะอึกน้อยๆ อากาศเย็นตอนกลางคืนพอช่วยให้ส่างเมาได้
“แล้วทำไมซีนายถึงยังไม่นอนล่ะคะ มานั่งนี่ก่อนมา” มือเรียวยาวของพี่เมย์ตบข้างๆตัวเบาๆ บอกให้ฉันไปนั่งได้
อยู่ๆ หน้าของฉันก็ร้อนขึ้นมา สมองสั่งให้เท้าเดินเข้าไปนั่งตรงที่พี่เมย์บอกซึ่งใกล้มาก ทั้งที่จะปฏิเสธก็ได้
“นอนไม่หลับน่ะค่ะ”
“เรื่องหาคนเช่าห้องกับเช่าร้านใช่มั้ยคะ”
“พี่เมย์รู้ด้วยเหรอคะ? ทำไม?” ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องของเธอจะได้รับความสนใจจากพี่ใหญ่ของบ้าน
“เห็นสีหน้าของซีนายตอนเย็น เลยถามบีมมันดู พี่ช่วยรีโพสของซีนายด้วยนะ ก็มีคนเห็นหลายพันอยู่”
ฉันรีบดูเฟสบุคของตัวเองทันที จริงด้วย \•0•/
“เมษาหน้าร้อน เมยาวีน่า…” คือชื่อเฟสของพี่เมย์ แม้จะไม่ได้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหน้าตัวเอง แต่รูปดวงอาทิตย์ที่ใช้นั้น ก็ทำให้ใจรู้สึกอบอุ่น
“แล้วถ้ามีคนมาเช่า แล้วซีนายจะตรวจสอบยังไงว่าเป็นคนแบบไหน มีภูมิหลังยังไงหรอ?”
“ทุกทีคุณพ่อกับคุณแม่เป็นคนตัดสินใจค่ะ ตอนนี้ท่านย้ายไปบ้านนอกแล้ว กว่าจะถามจะตอบคงใช้เวลา ซีคิดว่าน่าจะให้เช่าอยู่เลย”
“ได้ยังไง แล้วถ้าเป็นคนไม่ดีมีประวัติลักเล็กขโมยน้อยล่ะ หรือพวกขี้ยาจะทำยังไง อันตรายแย่ แถมมาอยู่ห้องข้างๆด้วย เราก็อยู่คนเดียว” ฉันรับรู้ได้ว่า พี่เมย์ห่วงความปลอดภัยของฉัน ดีใจจังเลย
แต่ก็จริงที่พี่เมย์พูด ฉันลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิท
“แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาเลยค่ะ”
“ไม่เคยมี แต่ไม่ใช่ว่าต่อไปจะไม่มีนี่”
“ทำไงได้ล่ะคะ ยังไงซีต้องหาคนมาเช่าต่อภายในเดือนนี้ ไม่งั้นซีก็คงไม่มีเงินใช้ ไหนจะค่าเรียนอีก ซีไม่ได้มีรายได้จากทางอื่นด้วย”
ฉันเองก็อย่างจะทำงานพิเศษเพื่อหารายได้เพิ่ม แต่แค่เรียนก็แทบจะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว ไหนปีสามปีสี่ ไหนจะเป็นเอ็ซส์เทินอีก
“เอางี้ เดี๋ยวพี่จัดการให้ดีกว่า พี่เป็นห่วง”
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ แค่ช่วยแชร์โพสก็เกรงใจมากอยู่แล้ว”
“เอาเถอะ พี่จะช่วยแล้วกัน”
ฉันกำลังจากบอกปฏิเสธน้ำใจ ก็ถูกขัดเสียก่อน
“พี่เมย์กลับมาแล้ว” ฝาแฝดเบนกับแบมก็โผล่มา เหมือนเจ้าแสบทั้งสองคนจะรอการกลับบ้านของพี่สาว
"ไปครับหัวหน้า พวกเราพร้อมแล้ว"
“ไปๆเราจะไปบุกอารีน่าฝ่ายนั้นกัน” ถ้าฟังไม่ผิด เหมือนจะเป็นเกม และไอ้บีมก็บอกว่ามีบุกหลังเที่ยงคืน
พี่เมย์ลุกขึ้นเต็มความสูง เซเล็กน้อยแต่ก็ประคองตัวได้
“รีบๆนอนนะคะซีนาย” พี่เมย์ตบไหล่ฉันเบาๆก่อนที่จะถูกฝาแฝดลากเข้าบ้านไป ทั้งที่ยังเดินโซเซ ถูกลากกึ่งจูง ก็พยายามประคองร่างให้ไม่ล้ม กลิ่นเหล้าฟุ้งกระจาย แต่พวกน้องๆสนใจเกมมากกว่ากลิ่นเหล้า
ฉันเผลอยิ้มออกมา แค่นั่งคุยกับพี่เมย์ไม่เท่าไหร่ก็สัมผัสได้ถึงความเอาใจใส่คนรอบข้าง ไม่แปลกใจใช่มั้ยคะ ที่น้องชายบ้านนี้จะติดพี่สาวคนนี้มากๆ
ติ๊กๆ ติ๊กๆ 6.00 น. นาฬิกาปลุก ฉันรีบอาบน้ำ จัดการธุระส่วนตัวให้เสร็จ เพื่อที่จะไม่ให้ถูกตำหนิได้ว่ามานอนบ้านคนอื่นแล้วยังตื่นสายจนเจ้าของบ้านมาปลุก
ที่ห้องอาหาร ป้านวลกำลังคุมคนรับใช้สามคนตั้งโต๊ะให้ทันคุณๆตื่น
“อ้าวคุณซีนาย ตื่นแล้วเหรอคะ รับทานข้าวต้มก่อนมั้ยคะ วันนี้เป็นข้าวต้มกับปลาแห้ง เมื่อวานคุณผู้หญิงบอกว่าอยากให้ทำให้คุณๆทาน”
“เดี๋ยวรอทานพร้อมกันก็ได้ค่ะ ให้ซีช่วยอะไรมั้ยคะ”
“เอางั้นเหรอคะ คุณซีนายช่วยปลุกคุณๆทั้งห้าที่ห้องนั่งเล่นดีกว่าค่ะ เมื่อคืนนอนข้างล่าง ขนมเต็มไปหมดเลยค่ะ สงสัยจะเล่นเกมกัน”
จริงอย่างที่ป้านวลบอก คุณๆทั้งห้านอนระเกะระกะให้ห้องนั้น พี่เมย์นั่งหลับบนโซฟาตัวยาว และตักของพี่เมย์ถูกแบมครอบครองหนุนนอน ไล่ลงมาเป็นไอ้บีม ที่มีบิวนอนหนุนท้องอยู่ และมีเท้าของแบมพาดมาที่คอ ในมือยังมือจอยเกมอยู่
“อ้าว ยังไม่ตื่นกันหรือคะคุณลูกๆ” คุณแม่ลงมาจากชั้นสองผ่านมาพอดี เห็นลูกๆยังนอนอยู่ คุณแม่ไม่ได้ตกใจอะไรที่เห็นลูกๆนอนกองรวมกันแบบนี้
“สายแล้วนะคะ ตื่นๆค่ะทุกๆคน” คุณแม่ปลุกพี่เมย์ก่อนเป็นคนแรก เพราะถ้าพี่ตื่น น้องๆก็จะตื่นตาม
“ลูกเมย์คะ ลูกเมย์ตื่นค่ะ เช้าแล้วค่ะ อุ้ย กลิ่นเหล้านี่คะ นอนทั้งอย่างนี้แน่ๆ ตื่นค่ะคุณลูก”
“มอร์นิ่งค่ะคุณแม่” พี่เมย์ตื่นคนแรก ก็จริงตามคาด น้องๆอีกสี่คนก็ตื่นตาม “มอร์นิ่งครับคุณแม่” อรุณสวัสดิ์คุณแม่พร้อมเพรียงกันราวกับนัดไว้
“ไปค่ะ ไปอาบน้ำแต่งตัว เดี๋ยวลงมาทานข้าวกัน เอ…วันนี้ลูกบิวมีเรียนเช้านี่คะ เร็วค่ะจะไปเรียนไม่ทันนะคะ”
ส่วนฉันกับไอ้บีมมีเรียนตอนสิบโมง แต่พี่เมย์ฉันไม่รู้ และอยากรู้มากๆ
“ค่ะ/ครับ” พี่น้องเสียงยานคาง งัวเงียเมาขี้ตา
“แม่คะ เดี๋ยวให้คุณบดินทร์มาทานข้าวด้วยนะคะ เมย์มีเรื่องจะคุยด้วย” พี่เมย์บอกความต้องการให้แม่ฟัง ทั้งที่หาวไปด้วย
“ได้ค่ะ เดี๋ยวแม่ให้คนไปตามให้ค่ะ”
พี่เมย์หอมแก้มของแม่ฟอดใหญ่ ก็จะมาหาฉัน
“เดี๋ยวพี่มีเรื่องจะคุยกับซีนายนะคะ”
พี่เมย์ทิ้งท้ายไว้แล้วนั้นก็ตามน้องๆขึ้นชั้นสอง ส่วนฉันก็ช่วยเก็บของ กับคนรับใช้อีกสองคน จัดห้องที่ระเกะระกะให้เรียบร้อย
คุณพ่อบ้านบดินทร์ มาร่วมโต๊ะอาหารเช้าในวันนี้ บีมบอกกับฉันว่า ปกติคุณพ่อบ้านจะรับทานในครัวหลังบ้าน ซึ่งจะมีโต๊ะอาหารประจำ เจ้าตัวเลือกที่จะทานที่นั้น และจะทานข้าวเช้าเสร็จก่อนเจ้านายทุกคนเพื่อจะมาสรุปกิจกรรมประจำวัน การนัดหมาย ให้กับเจ้านายทุกคน หลักๆจะเป็นคุณพ่อกับคุณแม่มากกว่า
ข้าวต้มกำลังจะเข้าปาก แต่ต้องชะงักมือเมื่อพี่เมย์พูดขึ้นมา...
“คุณพ่อคุณแม่คะ เดี๋ยวเมย์จะย้ายไปเช่าห้องของซีนายนะคะ ร้านชั้นหนึ่ง จะให้คุณบดินทร์ไปทำร้านกาแฟกับเบเกอรี่”
พี่เมย์ทำให้ฉันอึ้งจนพูดไม่ออกได้ตลอด
“พี่เมย์คะ…ซีว่า…” แต่บีมมันสะกิตห้ามฉัน มันบอกว่า
“อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้”
“เรื่องเช่าห้องข้างๆหนูซีนายแม่เข้าใจนะคะคุณลูกขา แต่เรื่องร้านทำไมต้องเป็นกาแฟกับเบเกอรี่ละคะ” คุณแม่ถาม
“ก่อนที่คุณบดินทร์จะมาทำงานกับคุณพ่อ เคยเปิดร้านมาก่อน เบนอยากเป็นบาริสต้า ส่วนแบมมันชอบทำขนม ถึงจะเร็วไปหน่อย แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดีที่ฝาแฝดจะเรียนรู้”
ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่เมย์จะรู้ใจน้องๆ ก่อนที่น้องๆจะรู้ใจตัวเองด้วยซ้ำ
“เบนกับแบมว่ายังไงลูก” คุณพ่อหันไปถามลูกชายทั้งสอง
“ผมแล้วแต่พี่เมย์ครับ” แบมเป็นคนง่ายๆ อะไรๆก็แล้วแต่พี่เมย์
“ไม่สิ แบมไม่ตอบพ่อแบบนี้” คุณพ่อไม่ยอมปล่อยผ่าน เพราะมันคืออนาคตของลูกๆ ซ้ำท่านจะได้เข้าใจความต้องการลูกๆมากขึ้นในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยมีลูกสาวคนโตเป็นตัวเชื่อม
“ผมคิดว่าชอบทำขนมครับพ่อ จะต่อมหาวิทยาลัยคหกรรมครับ” แบมตอบ
“ผมจะไม่ต่อมหาวิทยาลัยครับ ผมจะไปลงคอสบาริสต้า และจะเดินทางทำงานที่ร้านกาแฟดังๆ ที่อเมริกากับออสเตรเลียครับ”
เบนจะมีความชัดเจนเรื่องเป้าหมายมากกว่า
“แต่ลูกๆ เรียนสายวิทย์นะ จะไม่มองที่ทางวิศวะ วิทยาศาสตร์ หน่อยหรือ”
“ผมคิดว่าเรียนสายไหนก็เป็นบาริสต้าได้ครับ เพราะไม่ได้ใช้ต่อมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว”
พ่อกับแม่พยายามทำความเข้าใจลูกๆ แต่อาจจะไม่เข้าใจเร็วเท่าพี่เมย์ แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางอะไร ซ้ำยังหันมาขอความช่วยเหลือและความคิดเห็นจากพี่เมย์ ที่เป็นทั้งพี่และเพื่อน ที่ไว้ใจมากที่สุดของน้องๆ
เรียกว่าควบคุมน้องๆได้อยู่หมัดจะถูกกว่า
“เมย์คิดว่าไงลูก”
“ยังพอมีเวลาที่จะให้ฝาแฝดค้นหาตัวเองค่ะ ส่วนบิว… “ พี่เมย์หันไปคุยกับน้อง “เมื่อวานพี่เห็นประกาศ นักศึกษาแลกเปลี่ยนไปเยอรมันนะ ต้องสอบแข่งขัน พี่ว่าเราน่าจะเขียนจดหมายแนะนำตัวส่งไปเองนะ เงินทุนเรามี ไม่จำเป็นต้องใช้ทุนนี้ ให้คนที่เหมาะสมดีกว่า เค้าน่าจะโอเคนะ แล้วถ้าเรียนที่นั่นมันดีกว่าที่นี่ จะเรียนจนจบเลยก็ได้ อยากเป็นอาจารย์นี่ หาโอกาสเป็นผู้ช่วยสอน หรือช่วยทำวิจัยเอานะ”
“ได้ครับพี่เมย์ ผมกำลังเล็งเลย”
“อุ๊ย! ถ้าได้บอกคุณแม่นะคะ คุณแม่จะได้ไปเที่ยวเยอรมันสักเดือน ถือไปส่งลูกบิวด้วย ดีมั้ยคะคุณ” คุณแม่ตื่นเต้นมากกว่าใครเพื่อน
“ก็ดีนะ เราไปเที่ยวกันสักเดือน” และก็มีคุณพ่อที่เห็นดีเห็นงามด้วย ความจริงคุณพ่อคุณแม่บ้านนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกชายได้ทุนต่างประเทศหรืออะไร ท่านก็สามารถไปเที่ยวได้เลย
นี่มันอะไรคะเนี่ย เรื่องของฉันกลายเป็นเรื่องอนาคตของลูกๆบ้านนี้ได้ยังไงกัน
“แล้วเมย์กับบีมล่ะลูก งานของพ่อที่อยากให้ลูกทั้งสองสานต่อ ลูกโอเคมั้ย”
“ผมโอเคครับ ไม่ได้หนักหนาอะไรครับ” บีมมันรู้ว่าควรพูดอะไรให้พ่อแม่สบายใจ
ฉันรู้ว่าบีมมันไม่ได้ชอบเรียนหมอเลย แต่เพราะต้องสืบทอดกิจกรรม มันจำเป็นต้องทำในฐานะพี่ มันบอกว่าอยากเห็นน้องๆเป็นเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเอง
ซึ่งฉันคิดว่าพี่เมย์ก็ไม่ต่างกัน และไอ้ความเสียสละของมันน่าจะได้มาจากพี่เมย์
“เมย์ทำได้ค่ะพ่อ มีเรื่องไหนที่เมย์ทำไม่ได้บ้างคะ”
“พ่อได้ยินแบบนี้แล้วพ่อก็สบายใจ แต่อยากให้ทุกคนตั้งใจทำให้ดีที่สุดนะ ความสำเร็จของลูกๆ คืออนาคตของธุรกิจของเรา ที่จะทำให้เดินหน้าต่อไปได้”
“ค่ะคุณพ่อ เอาเป็นว่าวันเสาร์นี้เราจะดูสถานที่กัน คุณบดินทร์จัดการเรื่องย้ายออกให้ด้วยนะคะ”
“คุณหนูใหญ่ครับ เรื่องการย้ายหอ เราต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนนะครับ ถ้าออกปุบปับจะต้องเสร็จค่าปรับหลายเท่า” คุณพ่อบ้านที่เป็นเลขาประจำบ้านชี้แจงรายระเอียด
“อ้าวเหรอ ถ้าโดนปรับก็เสียดายเงินแย่เลย งั้นก็เช่าต่อจนครบกำหนดแล้วค่อยทำเรื่องย้ายออกแล้วกัน ส่วนเมย์จะไปอยู่ที่ห้องเช่าของซีนายตั้งแต่เดือนหน้า”
“ได้ครับ”
สรุปคือฉันก็ได้คนเช่าห้องและคนเช่าร้านในเวลาอันรวดเร็ว ต้องขอบคุณพี่เมย์จากใจจริง ที่ช่วยเหลือครั้งนี้ ฉันจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้เลย
“ขอบคุณพี่เมย์ คุณพ่อ คุณแม่ และทุกๆคนมากนะคะที่ช่วยซี ซีจะไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลยค่ะ ถ้ามีเรื่องอะไรให้ซีช่วย บอกซีได้เลยนะคะ”
“แหม เป็นบุญเป็นคุณอะไรกันจ๊ะ แม่บอกกี่ครั้งแล้วหนูก็เหมือนลูกสาวแม่คนหนึ่ง ลูกกำลังมีปัญหามีหรือที่แม่จะไม่ช่วย”
ซาบซึ้งใจจริงๆค่ะ ฉันไม่เคยเจอใครที่ใจดีเหมือนคนบ้านนี้มาก่อนเลย
โดยเฉพาะ พี่เมย์ .///.
“จบซีนายทอล์ก”
จบตอนที่ 2
แนะนำตัวละคร
ซีนาย ศิรกัลยา
พี่เมย์ เมยาวี
บีม อาทิตยพล
บิว อาทิตยพงษ์
เบน อธิวรา
แบม อธิวัฒน์
คุณพ่อ ประวิทย์
คุณแม่ วีนา
พ่อบ้าน บดินทร์
แม่บ้าน แม่นวล
เพื่อนเมย์
ดีดี้ อดีตคนรัก
ได๋ เพื่อนถาปัด
เพื่อนบิว
ลม คนที่บอกชอบบิว
ที เพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยม
เดย์ เพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยม
เต๋อ เพื่อนที่เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยม

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา