26 พ.ย. 2021 เวลา 12:01 • ไลฟ์สไตล์
🔥 เอาตัวรอดในที่ทำงานแบบง่ายๆ
ชีวิตคนทำงานหาเช้ากินค่ำ คงไม่มีอะไรหนักหนาไปกว่าการประคองตัวให้อยู่รอดตลอดรอดฝั่งนี่ละสำคัญสุด เพื่อต้อนรับหลายๆ คนที่กลับเข้าไปทำงานในออฟฟิศกันแล้ว ขอเล่าเรื่องการเอาชีวิตรอดตามวิถีคนทำงานกับคนหมู่มากหน่อยแล้วกัน
1
การทำงานกับคนเยอะๆ วิธีการง่ายๆ ที่ส่วนมากเขานิยมใช้ในการประเมินผู้คนกัน คือ วัดจากผลงานของบุคคลหรือทีม วัดจากความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน วัดจากความคุ้มค่า หรือวัดจากการขาด ลา มาสาย ตัวอย่างพวกนี้มีปัจจัยทั้งนั้น
คำถามคือ แค่ไหนที่เรียกว่าดี ที่เรียกว่ารอด อะไรที่ต้องวางแผนบ้าง อะไรจำเป็นที่ต้องรู้ในการทำงานให้ตรงเกณฑ์กำลังดี และต้องได้มาตรฐานเข้ากับระบบได้ มาคะ ถ้าอยากรู้ จะเล่าให้ฟังค่ะ
1
1. วางแผนการปล่อยของให้ถูกจังหวะ
1
เอาว่าคุยกันง่ายๆ เลยละกัน ตอนนี้คุณดูคุ้มค่ากับการจ้างงานไหม?
มีผลงานไหม หาลูกค้าได้เพิ่มบ้างไหม ได้ยอดขายเพิ่มไหม ถ้าไม่เกี่ยวกับเงินงั้นก็เป็นเรื่อง บทบาทในออฟฟิศ คุณทำได้ดีแค่ไหน ติดต่อประสานงานได้ดีหรือเปล่า ช่วยบริษัทประหยัดได้ไหม อะไรคือผลงานของคุณลองคิดดูหน่อยซิ อะไรก็ได้ที่ทำให้คุณมีผลงาน มีความโดดเด่นอยู่บ้าง ลองคิดดู
5
ถ้าจะให้ดี คุณควรมีผลงานต่อเนื่อง รู้จักเว้นวรรคบ้าง ควรรู้ว่าไม่ต้องรีบปล่อยของ วางแผนการแสดงผลงานให้ถูกจังหวะพอ เพื่อให้ตัวเองไม่ดูว่างงานและเติบโตได้เป็นขาขึ้นเสมอ แบบนี้สิ บริษัทก็จะยังสนใจอยากจ้างงานคุณต่อไป เพราะคุณยังมีคุณค่ากับบริษัทอยู่นั่นเอง
3
2. ลำดับงานตามการมอบหมาย
1
มันก็ดีอยู่หรอก ที่จะคอยพูด 'ได้ครับพี่ ดีครับผม' ปัญหาคือ คุณมีเวลามากแค่ไหนที่จะคอยทำทุกอย่างให้กับทุกคนที่ร้องขอ คนขอความช่วยเหลือก็อยากได้ทันทีกันทั้งนั้น อยากได้แบบด่วนๆ เพราะใครๆ ก็อยากทำงานตัวเองให้เสร็จทั้งนั้น แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะสนองตอบให้กับทุกคนได้ทันท่วงทีตลอดเวลา
1
ดังนั้น คุณควรหยุดซักนิด ลองมองดูปฏิทิน หรือตารางงานว่าติดงานใครอยู่ มีนัดหมายส่งงานใครบ้าง และที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่เรียงลำดับงานก่อนหลัง
คุณต้องเรียนรู้ว่าคำพูดใครมีน้ำหนักที่จะออกคำสั่งกับคุณได้ ใครที่คุณต้องช่วยเหลือเร่งด่วนสุด ถ้าขืนชักช้าหรือขัดใจคุณอาจมีปัญหาทางหน้าที่การงาน แต่อย่าลืมอธิบายดีๆ ด้วยเหตุผล กับคนอื่นๆ ที่รองานคุณด้วยว่า เพราะใคร ตำแหน่งไหน ที่ทำให้เขาต้องรอก่อนเป็นต้น
3
3. จำไว้เสมอ เราเป็นแค่พนักงานคนหนึ่ง
1
การทำงานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพนักงาน พนักงานคือ คนที่เอาเหงื่อ เอาแรงเข้าแรก คนที่เช้ามา เย็นกลับบ้าน เราไม่ใช่คนในครอบครัวของผู้ก่อตั้ง ไม่ใช่ญาติฝั่งไหนของท่านผู้บริหาร ที่จะได้ประโยชน์หรือสิทธิพิเศษใดๆ ดังนั้นอย่าทำงานจนลืมตาย อย่าทุ่มเทจนเกินกำลัง
1
ถ้าคุณทำงานหักโหมไป ทำงานจนไม่ได้พักผ่อน ถ้าคุณป่วย อย่างมากเขาอาจช่วยเงินมาซักก้อน แล้วก็แค่หาคนที่อายุน้อยกว่าคุณ ทำงานเก่งเท่าคุณมาทำงานแทนในตำแหน่งของคุณ
1
ดังนั้น คุณควรทำตัวเองให้อยู่ในที่ๆ เหมาะสม กับคำว่า ลูกจ้าง ซึ่งยังไงซะ คุณก็ไม่มีวันเกินกว่าการเป็นลูกจ้าง เป็นแค่คนๆ หนึ่ง ที่ลาออกไป เขาก็แค่หาใหม่ ทำงานให้พอดีน่าจะเหมาะกว่า
3
4. รับผิดชอบในขอบเขตของงานให้ดีที่สุด
1
แน่นอนหน้าที่ของคนทำงานคือ ต้องทำงานให้เต็มที่ และให้สำเร็จลุล่วง ไม่เห็นต้องมา
บอกเลย แน่นอนคุณรู้แบบนี้อยู่แล้ว แต่เชื่อไหมบางทีคุณก็ลืมเสียดื้อๆ แทนที่จะโฟกัสงานของตัวเองให้ดี พอมีอะไรมาชวนเขวก็แกว่งไปซะอย่างนั้น
ถ้าจะให้ดี สอดคล้องกับข้อ 2 ดูหลักความจริงด้วย ว่าอะไรที่ควรทำที่สุด และ อะไรควรทำก่อนหลัง สุดท้ายก่อนที่จะรับผิดชอบงานของคนอื่นขอให้แน่ใจด้วยว่า งานของเราเรียบร้อยดีและเสร็จตรงตามเวลานัดส่งงาน
5. มีสิทธิลาก็ใช้ไป เป็นสิทธิ์ของทุกคน
1
มันมีเคสแบบนี้มาเยอะมาก แบบว่าจะหยุดงานแต่ที่ทำงานไม่ให้ลา ทั้งที่มันเป็นสิทธิ์ของเราเองแท้ๆ อยากบอกมากว่าไม่ต้องคิดมาก หากคุณมีธุระจำเป็นจริงๆ และก็มั่นใจว่า ถ้าหยุดงานไปงานคุณจะไม่เสียหายอะไร คุณอาจสลับวันหยุดกับเพื่อนก็ได้ หรือ อาจจะลาหยุดปกติก็ได้ คนมีธุระจะห้ามยังไงได้
2
อย่าลืมเรามีกฏหมายแรงงานคุ้มครองนะ ยกตัวอย่างเคสที่เคยพบบ่อยๆ เวลาลาป่วยวันเดียวที่ทำงานจะชอบตู่ขอใบรับรองแพทย์ด้วย จริงๆ ตามกฏหมาย ต้องลาป่วยเกิน 3 วัน ถึงต้องมีใบรับรองแพทย์แนบกับใบลา เพราะฉะนั้น ต้องแอบศึกษากฏหมายไว้บ้างก็ดีจะได้รู้ทัน จะได้วางตัวถูกเวลาอยู่ที่ออฟฟิศ
2
🥢 และนี่ละ วิธีง่ายๆ มี่จะทำให้คุณลอยตัวในที่ทำงานได้แบบง่าย ต้องรู้จังหวะจะโคน จะทำอะไรตอนไหน คิดให้ดีให้รอบคอบ อย่าพลาดจะลำบาก กฏหมายแรงงานอย่างที่ว่ารู้ไว้หน่อยก็ดี แต่ก็ไม่ต้องขนาดทำตัวเป็นพวกหัวหมอนะ มันไม่ค่อยน่ารักน่ะ
1
อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ อย่าลืมว่าบริษัทเดินงานต่อได้เสมอ ถึงเขาจะมีคุณหรือไม่ มีแต่คุณนี่ละต้องการงานนี้หรือไม่ ถ้าต้องการ ที่กล่าวมาทั้งหมด ถือเป็นมาตรฐาน อาจต้องทำเกินขึ้นมาอีกซักนิด น่าจะเซฟขึ้นนะ ลองดูค่ะ
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
• ติดตามและรับฟังผ่านแอป blockdit
• ติดตามและรับฟังผ่านช่องยูทูป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
หนังสือ: ทำงานยังไง ไม่ให้บ้าไปซะก่อน!
ผู้เขียน: เจสัน ฟรีด และเดวิด ไฮเนอไมเออร์ แฮนส์สัน
หนังสือ: Work Life Balance ด้วยการหยุดพักจริง ๆ
ผู้เขียน: นายแพทย์มาซากิ นิซิดะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา