ไกลแค่ไหนหัวใจก็จะอยู่กับเธอ.... มุกนี้กับ13 ปีที่จากไป Sakai Izumi แห่งวง ZARD.....
ด้วยการปรากฏตัวเพียง 7 ครั้งในชีวิตของเธอ สำหรับในสองหรือสามชั่วอายุคน!
เธอเป็นนิรันดร์ของญี่ปุ่นจริงๆ
บรรเลงตามยุคสมัย
ในประเทศไทยผม ชอบเพลงฮิตอย่าง ส่วนเกิน,ฉันมีค่าแค่ไหน,สุดท้าย,คำว่าเรา,Love Story และเหงา ของ peacemaker เป็นการส่วนตัวเพราะคนร้องหน้าตาดี บุคลิกแข็งแกร่ง เหมือนกับคนที่เขียนบทความตอนนี้ ดูเขาห่วงใยทุกคนรอบตัวเสมอด้วยความรักที่เหมือนพี่ชายที่น่ารัก
![รวมเพลง ย้อนเวลาฟังเพลงฮิต [ เพลงดัง ยุคเทป เพลงฮิต ยุค 2000 ] Chocolate Kit , Hum](https://t1.blockdit.com/photos/2022/01/61e1861a3309f179d087dc6c_800x0xcover_paENdIDp.jpg)
แต่ในช่วงเวลาแห่งยุค 2000 นั้น อันที่จริงในญี่ปุ่นก็มีพี่สาวคนหนึ่งที่เป็นเหมือนพี่ชายเช่นผม...นั่นคือ Sakai Spring Water
บางทีเธออาจอายุมากกว่าที่ผมคิด แต่พวกที่ชอบดูอนิเมะคงเคยได้ยินเธอร้องเพลงมาบ้างล่ะ...เธอแต่งและร้องเพลง OP(OPening theme) และ ED (EnDing theme) ไม่ว่าจะเพลง...
ของอะนิเมะระดับชาติของญี่ปุ่น อันได้แก่
My Friend – Slam Dunk (ED4)
Don’t You See! – ดราก้อนบอล GT (ED2)
DAN DAN Kokoro Hikareteku – ดราก้อนบอล GT (Cover / แต่งเนื้อร้อง)
Ikimo Dekinai – ยอดกุ๊กแดนมังกร (OP2)
Unmei no Roulette Mawashite – ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (OP4)
Hoshi no Kagayakiyo – ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (OP15)
Glorious Mind – ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (OP21)
Ai wa Kurayami no Naka de – ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (OP22)
Ashita wo Yumemite – ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (ED17)
Kanashii hodo Anata ga Suki – ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน (ED24)
Shoujo no Koro ni Modotta Mitai ni – โคนัน เดอะมูฟวี่ 2 คดีฆาตกรรมไพ่ปริศนา (ED)
Natsu wo Matsu Seiru no Youni – โคนัน เดอะมูฟวี่ 9 ยุทธการเหนือห้วงทะเลลึก (ED)
Tsubasa wo Hirogete – โคนัน เดอะมูฟวี่ 12 บทบรรเลงแห่งความตาย (ED)
แต่ละเพลงเป็นผลงานชิ้นเอกของความคลาสสิกเป็นความรักที่ขาดไม่ได้ของผม และในความทรงจำของหลายคนในวัยเยาว์
Detective Conan
และที่สำคัญ....เธอคือ....
ต้นแบบของ Haruko Akagi ใน Slam Dunk ของผมนั่นเอง!!!
ซาไก อิซุมิ (Sakai Izumi )ชื่อเดิมว่า ซาจิโกะ คามาจิ นักร้องสาวชาวญี่ปุ่น และเป็นสมาชิกของวงซาร์ด
อิซูมิเกิดที่จังหวัดฟูกูโอกะ ก่อนจะย้ายไปเติบโตที่จังหวัดคานางาวะ อิซูมิเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงในปี พ.ศ. 2532 โดยเป็นแชมป์โทเอคาราโอเกะ และเป็นเรซควีนของนิชชิน ต่อมาได้ถ่ายอัลบั้มวาบหวิวชื่อ "NOCTURNE"(แฮ๊กๆๆๆๆๆๆ)
กล่าวได้ว่าในฐานะนักร้องและผู้สร้างอนิเมะที่ฮิตระดับชาติ ซาไก อิซุมิ เปิดโอกาสให้ผู้คนจำนวนมากในประเทศของเราได้เพลิดเพลินกับดนตรีญี่ปุ่นผ่านแอนิเมชั่นจนชินหู
อันที่จริงแล้ว ตัวตนที่โด่งดังที่สุดของ Sakai Izumi คือเธอในฐานะนักร้องนำของวงร็อคชื่อดังของญี่ปุ่น ZARD นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2534
ZARD โดยมี Sakai เป็นแกนหลัก ได้สร้างสถิติมากมายในวงการเพลงญี่ปุ่น
ซิงเกิ้ลหกอัลบั้มติดต่อกันได้อันดับหนึ่งในชาร์ตสาธารณะของญี่ปุ่น
เก้าอัลบั้มติดต่อกันมียอดขายนับล้าน
สะสม ยอดขายผลงานทั้งหมด กว่า 37.63 ล้านแผ่น
ยอดขายรวมเกือบ 70 พันล้านเยน...
OK MUSIC
ความสำเร็จแบบนี้ทำให้นักร้องรุ่นต่อๆ มาเทียบคู่ได้ยาก
เพื่ออธิบายในคำพูดของผมในวันนี้ Sakai Spring Water และ ZARD เป็นสตรีมอันดับต้น ๆ ในสตรีมบนสุดจริงๆ
หลังจากเดบิวต์มา 30 ปี แม้กระทั่งตอนนี้ พวกเขายังเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นอย่างมาก
หลายคนตระหนักดีว่าบุคคลสาธารณะ รวมทั้งนักร้องและนักดนตรี ถือว่าการปรากฏตัวต่อสาธารณะเป็นเรื่องธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะมีผลงานออกมาหรือไม่ พวกเขาชอบที่จะรายงานข่าวเพื่อรักษาหรือเพิ่มความนิยมอย่าง BNK48
แต่ซาไก อิซุมิ ของผมกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ในฐานะสตรีมเมอร์ระดับแนวหน้า เธอและ ZARD เป็นคนเงียบขรึมและลึกลับมาก พวกเขากลายเป็น "Tokyo Urban Legends" ชั่วขณะหนึ่ง และถูกลือกันว่าเป็น "นักร้องล่องหน", "วงผี" และ "วงที่ไม่มีอยู่จริง"
จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมของ Sakai ในปี 2550 เนื่องจากการเจ็บป่วย เธอได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเพียง 7 ครั้งในชีวิตของเธอ
นิตยสารญี่ปุ่นเคยทำแบบสำรวจเรื่อง "The Most Wanted to See" ด้วยเหตุที่ไม่มีความสำคัญและลึกลับนี้ โดย Izumi Sakai และ ZARD อยู่ในอันดับที่สองด้วยคะแนนโหวตมากกว่า 50 ล้านเสียง รองจากจักรพรรดิ Akihito เท่านั้นในขณะนั้น
มากันที่คำถาม "ทำไมคุณถึงไม่อยากปรากฏตัว" Izumi Sakai ตอบในเชิงบวกก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
"ฉันไม่เก่งในการเผชิญหน้ากับกล้องและในที่สาธารณะ ไม่ต้องพูดถึงคนโดยตรงในเวลาอันสั้น"
จากนั้นก็ไม่ใช่ เรื่องยากสำหรับเราที่จะเข้าใจว่าทำไม Izumi Sakai จะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยอยู่หน้ากล้องและจะหลบกล้อง
แต่ตอนนี้เราเห็นภาพที่เป็นธรรมชาติ สดใส และสวยงามของเธอที่แอบถ่ายโดยเจ้าหน้าที่รอบๆ ตัวเธอ
เธอไม่ต้องการที่จะปรากฏตัว ไม่ชอบแต่งหน้าจัด และมักจะแสดงตัวเองโดยไม่ต้องแต่งหน้า ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับ "ประวัติศาสตร์ที่มืดมน" บนเส้นทางการเติบโตของเธอด้วย
จากตัวแทนที่หลีกเลี่ยงโซเชียล....
Sakai Izumi เดิมชื่อ "Kamaike Sachiko" เกิดที่เมือง Hiratsuka จังหวัด Kanagawa ในปี 2510 เธอรักดนตรีมาตั้งแต่เด็ก
ดนตรีคือเพื่อนที่เธอรัก เธอชอบร้องเพลงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และทุกครั้งที่เธอร้องเพลง แม่ของเธอก็จะพาเธอไปซื้อหีบเพลง ต่อมาเมื่อแม่ของเธอเห็นว่าเธอสนใจดนตรีมาก เธอจึงขอให้เธอเรียนเปียโน
ปีที่อ่อนเยาว์ของเธอใกล้เคียงกับช่วงเวลาของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่น ในเวลานั้น คนหนุ่มสาวชอบฟัง The Beatles
และถือว่า John Lennon เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ
และเธอยังเป็นแฟนตัวยงคนหนึ่งอีกด้วย
เพราะความรักที่เธอมีต่อจอห์น เลนนอน เธอจึงเข้าร่วมชมรมกีตาร์ในโรงเรียนมัธยมต้น
เมล็ดพันธุ์แห่ง "ความรักและความสงบสุข" ได้หยั่งรากอยู่ในใจของเธอ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ร่ำรวยที่สุดในงานดนตรีของเธอ .
ในขณะเดียวกัน เธอก็ยังเป็นสาวนักกีฬาที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬามากมาย
ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โครงการวิ่งกรีฑาลู่และลานของเธอสร้างสถิติระดับเขต ในโรงเรียนมัธยม เธอเข้าร่วมชมรมเทนนิสและกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังในมหาวิทยาลัย
ในช่วงวัยเยาว์ที่อ่อนไหวและละเอียดอ่อนของเขา อิซึมิ ซาไกยังได้พัฒนาความสนใจในบทกวี และชอบกวี Ishikawa Pecking Wood เป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นมา เธอมักจะพกสมุดจดบันทึกอารมณ์และความรู้สึกในปัจจุบัน
ต่อมา นิสัยนี้ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานเพลงมากมาย
หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Sakai Izumi หวังว่าจะทำให้เกิดความกระปรี้กระเปร่าในวงการเพลง
แต่เธอชนเข้ากับกำแพงในทุกที่และตระหนักถึงความยากลำบากของชีวิตเป็นครั้งแรก
![[ชตระกูล ศรีสวัสดิ์] เมื่อเรื่องของชาวบ้านคือมุก(งาน)ของเรา.... ฉันรู้ว่าฉันต้องการอะไร และฉันรู้ว่าฉันไม่ต้องการอะไร!](https://t1.blockdit.com/photos/2021/12/61bd59781de1240cb2d14635_800x0xcover_54U06SFo.jpg)
ไม่ว่าจะเป็นวงดนตรีหรือฮาร์โมนี่ ไม่มีใครอยากให้เธอเข้าร่วมงาน
ภายใต้แรงกดดันของการเอาชีวิตรอด เธอต้องหางานทำก่อนและทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลาสองปี
ช่วงเวลาชีวิตทางสังคมของ Sakai Izumi เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฟองสบู่ของญี่ปุ่น เธอได้เห็นสภาพสังคมต่างๆ และความสุขและความเศร้าของชีวิตเป็นการส่วนตัว
ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นในผลงานของเธอในภายหลัง
ในปี 2531 หลังจากที่เธอถูกค้นพบโดยแมวมองของบริษัท "Stardust" หลังจากเลิกงาน เธอได้เปิดตัวในฐานะนางแบบภายใต้ชื่อจริงของเธอว่า "Kuraike Sachiko"
ในขณะนั้น เธอคิดว่าสิ่งนี้จะใกล้เคียงกับความฝันทางดนตรีของเธอมากขึ้น แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่ามันจะกลายเป็น "ประวัติศาสตร์ก่นด่า" ที่เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเวลาต่อมา
ระหว่างประสบการณ์การเป็นนางแบบนี้ เธอถูกขอให้ถ่ายภาพชุดว่ายน้ำขนาดใหญ่หลายๆ ภาพ และถูกขอให้มีส่วนร่วมในการเลือกสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอให้เป็นนางแบบวิดีโอคาราโอเกะ และถูกขอให้เป็นราชินีแห่งการแข่งรถในเวลาต่อมา...
เพราะในตอนนั้นเธอยังเด็กและโง่เขลา
เธอจึงเซ็นสัญญาและต้องเชื่อฟังการหลอกลวงของช่างภาพที่ต้องแสดงต่อหน้ากล้องอย่างไม่มีเงื่อนไข ตลอดเวลาจึงไม่มีขาดการจ้องมองของผู้ชาย.....
ดังนั้นจึงเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมเธอถึงดื้อดึงมาก เมื่อเจอะเข้ากับหน้ากล้อง.
แม้ว่าเธอจะต่อต้านกล้อง
แต่ Izumi Sakai ก็ยังรักเสียงเพลงและการร้องเพลงมาก
และชีวิตก็ไม่ได้ลบล้างความฝันทางดนตรีในหัวใจของซาไก อิซึมิ
ในปี 2533 BBQUEEN ได้ประกาศคัดเลือกนักร้องเพลง
ราวกับมองเห็นแสงแห่งความหวัง
ซาไก เริ่มลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขัน แม้ว่าเธอจะแพ้การคัดเลือก เช่นเคย แต่คราวนี้ เธอได้พบกับคนที่เปลี่ยนชีวิตและมีความสำคัญในชีวิตของเธอ
Nagato Daiko เขาเป็นโปรดิวเซอร์ของ B'Z และ TUBE และเขาก็ค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการเพลง
ในตอนนั้น นางาโตะ ชื่นชมการร้องเพลงและความสามารถของเธอมาก
"เมื่อฉันพบเธอครั้งแรก ฉันถามเธอว่าอยากทำดนตรีแนวไหน เธอตอบทันทีว่า 'ร็อกแอนด์โรล! เช่นเดียวกับฮามาดะ มารีหรือแอน ลูอิส เธอชอบ ดนตรีร็อค และสามารถร้องคาราโอเกะได้”
ดังนั้นนางาโตะจึงตัดสินใจก่อตั้งวงดนตรีร็อค ZARD โดยมีเธอเป็นศูนย์กลาง จากนั้น "Sakai Izumi" ได้เข้ามาแทนที่ "Kamiike Sachiko" และเริ่มชีวิตที่ยอดเยี่ยมในฐานะนักร้องนำหญิงร็อค
จากนักร้องร็อคหญิงสู่นักร้องระดับชาติ
ในปี 2534 ZARD น้อยได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการด้วยซิงเกิ้ล "GOOD BYE MY LONELINESS" และในไม่ช้าก็สร้างสถิติเพลงเดบิวต์น้องใหม่ ให้ติดอันดับท็อป 10 จากความไว้วางใจสาธารณะ ชาร์ตด้วยยอดขายเดียว 250,000 แผ่น
ภาพจาก Kikuchi
"GOOD BYE MY LONELINESS" เป็นแนวเพลงป๊อปร็อคที่แข็งแกร่งและมีชีวิตชีวามาก
รักธรรมชาติเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น นอกจากนี้ นักร้องนำ Sakai Izumi ยังมีรูปลักษณ์ที่สงบและมีอารมณ์อ่อนโยน ก่อตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แบบร็อค
ในทางตรงกันข้าม ZARD ได้กลุ่มแฟนสไตล์มิจฉาทิฐิจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
ในปี 2535 ZARD ได้รับรางวัล "นักร้องหน้าใหม่แห่งปี" จากงาน Japan Golden Record Awards และยอดขายอัลบั้มแรก "HOLD ME" ก็เกินหนึ่งล้านแผ่น
Sakai Spring Water แตกต่างจากเสื้อผ้าร้องเพลงที่วิจิตรงดงามและการแต่งหน้าที่งดงามในสมัยนั้น มักจะแต่งกายด้วยชุดที่เป็นกลางและไม่ได้แต่งตัวเกินกว่าเหตุ
กับชุดเดนิม เสื้อเชิ้ตผู้ชายของ Armani และผมยาวสีดำ หลังจากที่ได้เป็นนักร้องนำหญิงแนวร็อก ภาพลักษณ์ของเธอดูเรียบง่ายและไม่ค่อยจะทาลิปสติกที่ริมฝีปากเลย
อันที่จริง โปรดิวเซอร์นางาโตะจงใจแสดงลักษณะที่ปรากฏของเธอต่างหาก
เขาคิดว่าแฟนผู้ชายจะอยู่ห่างจากพวกเขาเพราะพวกเขาขี้อายและแฟนผู้หญิงจะหลีกเลี่ยงการซื้อแผ่นเสียง ดังนั้นหลังจากคุยกับ Sakai Izumi และแต่งตัวให้เธออย่างครอบคลุมและทั่วถึง เพื่อให้เธอรู้สึกสบายและสบายที่สุดเธอก็ "อนุรักษ์นิยมมากขึ้น"
“ฉันหวังว่าเธอจะได้เป็น 'สตรีชาวโชวะในสมัยเฮเซ' ได้
เธอไม่ติดตามแฟชั่น ไม่แต่งหน้า เครื่องประดับ หรือเล็มขนคิ้ว และทรงผมของเธอจะไม่มีวันเปลี่ยนตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันคิดว่านี่คือสิ่งที่ เธอสามารถดำเนินการต่อได้ นี้คือเหตุผลในการสร้างเพลงที่ขายดีที่สุด"
นั่นคือ Izumi Sakai ยังทุ่มเทพลังงานทั้งหมดในการแต่งตัวเพื่อสร้างสรรค์ดนตรี
“ทุกคนมีระบบภาษาเป็นของตัวเอง และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ฉันคิดว่าทุกคนเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะสื่อสารออกไปภายนอกหรือซ่อนอยู่ในใจ
คนช่างพูดจะแสดงออกด้วยคำพูด และ คนที่ไม่ค่อยพูดมาก ควรเข้าข้างตัวเองและมั่นใจในตัวเอง ใส่อารมณ์ในงาน และแสดงออกผ่านงาน"
ดนตรีและเนื้อร้องเป็นภาษาและวิธีถ่ายทอดอารมณ์ของเธอ เธอใช้ภาษากับทำนองเหมือนตัวต่อจิ๊กซอว์
Sakai Izumi แสดงความสามารถพิเศษในการเขียนเนื้อเพลงเมื่อก่อตั้งวง ZARD โดยพื้นฐานแล้วคำพูดของ ZARD นั้นเขียนโดยเธอ
เนื้อเพลงของเธอคือจิตวิญญาณของ ZARD และเป็นจิตวิญญาณที่สำคัญในทุกเพลงของ ZARD
เธอจะฟัง DEMO ก่อน แล้วจึงเลือกเพลงที่ไพเราะที่สุดเพื่อแต่งเนื้อร้องเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีความงดงามทางศิลปะเมื่อใช้ดนตรีและภาษาผสมผสานกัน
เพลงต้นฉบับ
เธอให้ความสำคัญกับเนื้อเพลงมาก เนื้อเพลงที่เขียนนั้นละเอียดอ่อนและอบอุ่น แสดงออกถึงความตรงไปตรงมา โดยไม่มีสำนวนโวหารที่ฉูดฉาด อุดมไปด้วยแนวคิดทางศิลปะและการเล่าเรื่อง สามารถให้ความกล้าหาญและความแข็งแกร่งแก่ผู้คนได้ในเวลาอันสั้น
"ไม่มากเท่ากับที่ ZARD อธิบายมุมมองโลกของยุคโชวะตอนปลายในสมัยเฮเซ จะดีกว่าที่จะบอกว่าซาไก อิซุมิกำลังเขียนเกี่ยวกับด้านที่แท้จริง"
กวีนิพนธ์ยุคแรกๆ ของ Sakai Izumi ส่วนใหญ่เป็นการแสดงมุมมองของเธอเอง ความรักในมุมมองของผู้หญิง เล่าถึงกระบวนการเติบโตของสตรีและเปี่ยมชีวิตชีวา ปรัชญาและกวีนิพนธ์
ต่อมา กวีนิพนธ์ขยายไปสู่ความฝันในชีวิต สะท้อนปรากฏการณ์ทางสังคม และภาพในเมืองหลวงก็เต็มไปด้วยพลังงานบวก
ในบทกวีของเธอ เธอยังสะท้อนถึงลักษณะผู้หญิงของเธอเอง
ภาษาญี่ปุ่นมักแสดงลักษณะส่วนบุคคลที่ส่วนท้ายของประโยค ตัวอย่างเช่น "そうだぜ" สำหรับผู้ชาย และ "そうじゃ" มีไว้สำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น และเนื้อเพลงของ Sakai Izumi จำนวนมากเป็นสำนวนเฉพาะผู้หญิง เช่น ในงานที่มีชื่อเสียง "Negative け Nai で" เธอชอบ เพื่อใช้คำว่า "～でしょ" , "～ね", "～わ" เป็นต้น
เนื้อเพลงผู้หญิงของ Sakai และสไตล์ผู้ชายของ ZARD ทำให้วงดนตรีได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายชนชั้นนอกเหนือจากเพศ
นอกจากวงดนตรีของเธอเองแล้ว เธอยังเขียนเนื้อเพลงให้สำหรับนักร้องหลายคนด้วยมากกว่า 150 เพลง รวมถึง "Living With You" ที่เขียนถึง Teresa Teng
วิธีการร้องเพลงของ Sakai Spring Water ยังตรงกับเนื้อร้องเพื่อถ่ายทอดดนตรีไปสู่หัวใจของผู้คนได้ดียิ่งขึ้น
เสียงของเธอชัดเจนและสดใสราวกับชื่อ ราวกับน้ำพุที่ใสสะอาด ช่วงเวลาร้องเพลงของเธอมีเสถียรภาพมากและเธอสามารถเล่นเสียงที่สมบูรณ์แบบภายใต้ความสามัคคีที่ผสมกับดนตรี
ในการร้องเพลงเธอเหมือนมีเซนส์ เหมือนร้องเพลงกระซิบบอกอารมณ์เพื่อให้เสียงเพลงไม่มีวันจางหาย
ตามที่เจ้าหน้าที่ระบุ Sakai Izumi ชอบใช้ไมโครโฟนแบบหลอดสุญญากาศที่ผลิตในปี 1950 และผลิตในเยอรมนีหรือออสเตรียเมื่อทำการบันทึกเสียง เพื่อให้เสียงกระจายตัวอย่างช้าๆ และนุ่มนวล
แม้ว่าเขาจะได้รับความรักจากแฟนเพลงด้วยความสามารถและความแข็งแกร่งของเขาทันทีที่เขาเดบิวต์ แต่เส้นทางดนตรีของ Sakai Izumi ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คนนอกคิด ปัญหาภายในและภายนอกครั้งหนึ่งทำให้เธออ่อนล้าทางร่างกายและจิตใจ
นับตั้งแต่ก่อตั้ง ZARD โดยมีเธอเป็นแกนหลัก สมาชิกก็เปลี่ยนไปยกเว้นเธอ กลุ่มที่กระจัดกระจายไม่ได้ทำให้ความหลงใหลในดนตรีของเธอลดลง เธอเลือกที่จะแบกทั้งวงดนตรีเพียงลำพัง ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน สร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมทีละคน
ในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นอยู่ภายใต้เงาของเศรษฐกิจฟองสบู่ "ตำนานที่ดิน" แตกเป็นเสี่ยง ตลาดหุ้นตกต่ำ เศรษฐกิจตกต่ำ ธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลาง ล้มละลาย อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น และอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น การโจมตีต่อเนื่องทำให้ชาวญี่ปุ่นหมดความมั่นใจในชีวิตโดยสิ้นเชิง
ในปี 2536 ZARD ได้ปล่อยเพลง " 负 けないで" (อย่ายอมรับความพ่ายแพ้) ซึ่งให้กำลังใจผู้คนได้มากที่สุดและบรรเทาความเจ็บปวดภายในของพวกเขา ในการร้องเพลง Sakai Spring Water ที่เร็วและเร่าร้อนทำให้พวกเขามีพละกำลังมากจริงๆ
![[ก็เล่าไปตาม..อำเภอใจ ❤️] จากตองกา ผมยังอินกับเรื่อของภูเขาไฟระเบิดเเละเเผ่นดินใหว เมื่อวานวันที่ 17 เป็นวันที่โลกต้องจดจำอีกวันหนึ่งครับ ไม่ใช่วันหวยออก !!](https://t1.blockdit.com/photos/2022/01/61e6b6b7150628c87427dc19_800x0xcover_7mjQfhYJ.jpg)
"负けないで" กลายเป็นเพลงสร้างแรงบันดาลใจอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เสมือนเป็นเพลงชาติที่สองของญี่ปุ่น และได้รับเลือกให้เป็นหนังสือเรียนดนตรีระดับไฮสคูลในเวลาต่อมา
ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ฮันชินหรือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น การร้องเพลงของSakai ก็สามารถนำความหวังมาสู่ผู้คนที่มีปัญหาได้เสมอ
และที่เรียกว่า "เวลาสร้างฮีโร่"
ZARD ได้กลายเป็นที่นิยมทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วย เชิงลบ " 负 けないで" ไม่ใช่แต่มีคนนิยมมากมาย ในเวลาเดียวกัน Sakai ซึ่งมักไม่ค่อยสนใจและเก็บตัว
ต่อมาก็ถูกสื่อขุดขึ้นมาว่าเป็น "เธอประวัติศาสตร์ที่มืดมน" เพียงด้วยภาพเดียวของภาพถ่ายที่ถ่ายในช่วงเวลาที่เป็นนางแบบ
เธอมีด้านที่ยั่วยวนและเซ็กซี่ด้วยใบหน้าที่ไม่ได้แต่งตัวของเธอ ดาราดังบางคนถึงกับพร่ำในรายการทีวีว่า "น่าเสียดายที่วงการเพลงญี่ปุ่น กลับต้องมาฟังนางแบบชุดว่ายน้ำในฐานะนักร้อง"
![[JAV World ] ว่าแต่ว่า ทำไมนักแสดง AV ส่วนมากถึงกลัวการถูกเปิดเผยตัวตนขนาดนั้นกันล่ะ ในเมื่อตอนแสดงหนังก็เห็นหน้าเห็นตาชัดเจนซะขนาดนั้นแล้ว ??](https://t1.blockdit.com/photos/2022/01/61e6b64b2e105fad01014b65_800x0xcover_cNSIqn4e.jpg)
เธอ...ได้ยินดังนั้นก็เหมือนโดนตบอย่างหนักและ เธอยกเลิกแผนเดิมของเธอทั้งหมด.....
ไม่จ้ด...คอนเสิร์ต อีกเลย......
เธอไม่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงปี 2538 ในอัลบั้ม "FOREVER YOU" ที่ออกในปีนี้ เธอร้องเพลง "ตอนที่ฉันยังเด็ก เธอขี้สงสัยมากกว่าคนอื่นๆ,ไม่เสียใจกับอดีต,เพราะความเยาว์วัยจากไปตลอดกาล"เพื่อคลายความคิกถึงของแฟนเพลง
หลังจากประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก
ครั้งนี้เธอได้นำ ZARD มาสร้างยุคดนตรีของเธอเอง
ในปี 2539 ซิงเกิล "MY FRIEND" ออกวางจำหน่ายในฐานะเพลงจบของ "Slam Dunk" และกลายเป็นเพลงคลาสสิกนิรันดร์ในหัวใจของผู้ชื่นชอบแอนิเมชั่นหลายรุ่น
เนื่องจากความนิยมของ "MY FRIEND" แอนิเมชั่นมากมายจึงเชิญเธอให้สร้างสรรค์
ตั้งแต่นั้นมา ZARD ก็ได้ปล่อยแท็รกอนิเมะฮิตบ่อยๆ
ในปี 2540 "เธอไม่เห็นเหรอ! "กลายเป็นเพลงจบของ "Dragon Ball GT"
ในปี 2541 "Can't Breathe" กลายเป็นธีมเปิดของ "China Little Master"
ในปี 2541 "Turning the Wheel of Fortune" กลายเป็นเพลงประกอบของ "Detective Conan"
ZARD จึงกลายเป็น "วงดนตรีราชินี" ของโคนัน
ZARD ได้สร้างผลงานเก้าชิ้นสำหรับ Conan รวมทั้ง OP และ ED ด้วย.
ในหมู่พวกเขา "การหมุนวงล้อแห่งโชคชะตา" ได้รับการแก้ไข กล่าวได้ว่า Sakai มองว่าแต่ละเพลงเป็นชีวิตใหม่และพยายามอย่างหนักเพื่อมัน
แต่ด้วยวิธีนี้เองที่เธอทำงานอย่างหนักเพื่อดนตรี และร่างกายของ Sakai ได้ฝังอันตรายที่ซ่อนเร้นอย่างที่ร้ายแรงเอาไว้ ตั้งแต่ เมื่อ ZARD เดบิวต์ครั้งแรก
เนื่องจากซาไก อิซุมิยังคงมีงานไม่กี่งานที่ลงนามโดยหน่วยงานด้านการสร้างแบบจำลองในขณะนั้น
![[แม่มณีมีเรื่องเล่า] หลังจากที่เรามัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาวิตามินM(Money)มานานหลายปี จนแทบจะไม่มีเวลาเหลียวแลร่างกายของเราว่ามีอะไรที่กำลังจะฟ้องว่า”ให้หันมาดูแลกันหน่อยซิ”](https://t1.blockdit.com/photos/2022/01/61eb7aa2c831bada2aa7f41d_800x0xcover_1qCMSZxN.jpg)
เธอจึงนั่งรถรางคันแรกในทุกๆเช้าไปทำงาน หลังจากการบันทึกภาพในช่วงเช้าตรู่
สถานการณ์นี้กินเวลานาน เมื่อรวมกับรูปแบบการทำงานของเธอที่เปลี่ยนไปทั้งกลางวันและกลางคืน
ภาระร่างกายก็เริ่มถึงขีดจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆ
ประมาณปี 2542 Sakai เริ่มรู้สึกไม่สบายกาย และสภาพร่างกาย แย่ลงเรื่อยๆ ถึงกระนั้น ในช่วงหกปีระหว่างปี 2542 ถึง 2548 ผลงานที่ยอดเยี่ยมของเธออยู่บ่อยครั้ง ซิงเกิ้ล 14 ตัวที่ปล่อยออกมาทั้งหมดได้บุกเข้าสู่ 10 อันดับแรกของชาร์ท
ในปี 2542 ZARD ได้จัดคอนเสิร์ตครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง
และในปี 2547 ZARD ได้จัดคอนเสิร์ตครั้งที่สองและครั้งสุดท้าย เนื่องจากความนิยม จึงได้เพิ่มจาก 3 เป็น 11 ตามกำหนดการเดิม ในช่วงเวลานั้นร่างกายของSakai ก็ทรุดโทรมลงไปอีก
ในปี 2549 Izumi Sakai ขอให้ Sakai ถ่ายทำ MV เพลงงานแต่งงาน "Halto に火をつけて" ใน MV นี้ เธอสวมชุดแต่งงานเป็นครั้งแรกในชีวิต ตกหลุมรักในเสียงดนตรี และได้แต่งงาน(ปลอมๆ)ในที่สุด....
อย่างไรก็ตาม หลังจากถ่ายทำ MV เธอเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากปวดท้องรุนแรง
ต่อมา เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกและยังคงพักฟื้นหลังการผ่าตัดเพื่อเอามดลูกออกในเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน
ในระหว่างการพักฟื้น เธอยังคงเตรียมอัลบั้มใหม่และการแสดงใหม่ และด้วยการสนับสนุนจากแม่ของเธอ
เธอจึงเสร็จสิ้นการบันทึกเพลงใหม่ บนเตียงในโรงพยาบาล
เธอยังคงยืนกรานที่จะสร้าง เขียนความรู้สึกและความรู้สึกในชีวิตของเธอลงในสมุดจดบันทึก และใช้สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์คำ
ซึ่ง ต่อมา ในศพของเธอ ผู้คนพบคำที่เขียนด้วยลายมือจำนวนมาก
มันมากกว่า 300 คำที่ไม่ได้บันทึกไว้ในสมุดบันทึก
ทุกคนต่างรอคอยการกลับมาของเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมาทำให้ทุกคนใจสลาย
แม้ว่าเธอจะให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับการรักษา แต่เซลล์มะเร็งก็ยังแพร่กระจายไปยังปอด
ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2550 เวลาประมาณตี 5 Sakai ได้ประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงมาจากทางลาดความสูง 3 เมตรของโรงพยาบาล
โดยทางบริษัทต้นสังกัดออกมาเปิดเผยว่า ขณะที่Sakai กำลังเดินบนทางลาดเพื่อกลับไปยังห้องพักผู้ป่วย เธอได้ลื่นล้มจนพลัดตกลงมาศีรษะฟาดพื้นส่งผลให้เลือดออกในสมอง
ในวันนั้นเธอเข้ารับการรักษาทันที แต่ต่อมาในวันที่ 27 พฤษภาคม เวลาประมาณ 15:10 นาฬิกา ได้รับการยืนยันแล้วว่าซากาอิ อิซุมิได้จากไปอย่างสงบแล้วด้วยวัย 40 ปี
การจากไปของเธอทำให้คนทั้งญี่ปุ่นตกใจ และหลายคนไม่สามารถยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้
ยังมีข่าวลืออีกมากว่าเธอฆ่าตัวตาย
ในเรื่องนี้ โปรดิวเซอร์ นากาโตะ กล่าวว่า “ก่อนที่เธอจะตาย 2 วัน เธอมีนัดกับเธอเพื่อบันทึกหลังจากเธอออกจากโรงพยาบาล เธอตั้งตารอ ดังนั้น นี่เป็นเพียงอุบัติเหตุ”
Izumi Sakai ถึงแก่กรรม
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา อัลบั้มสุดท้ายที่เธอเลือกในช่วงชีวิตของเธอพุ่งขึ้นจากอันดับที่ 300 มาอยู่ที่อันดับ 1
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2550 นักดนตรีที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Daikoku Maki และ Oda Tetsuro ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกถึงเธอ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ภายใต้ความโศกเศร้า
แฟนๆ กว่า 40,000 คนเข้าร่วมและคิดถึงความอบอุ่นและความอบอุ่นที่เธอมอบให้กับทุกคน คือ......ความแข็งแกร่ง
หลังจากที่ Sakai เสียชีวิต ผู้คนต่างรำลึกถึงเธอในรูปแบบต่างๆ รวมถึงวงซาร์ดก็ต้องปิดตำนานลงอย่างน่าเสียดาย เพราะก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนั้นได้เตรียมวางแผนจะออกอัลบั้มที่ 12 และจัดทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้งเพื่อแสดงให้แฟนๆ เห็นถึงการยืนหยัดต่อสู้โรคร้ายของเธอ
พิธีศพของเธอจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 มีแฟนเพลง บริษัทต้นสังกัด และบริษัทที่เกี่ยวข้องมาร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยกว่า 5,000 คน
โดยปัจจุบันซาร์ดมีทั้งหมด 45 ซิงเกิลและ 17 อัลบั้ม
เพลงประกอบภาพยนตร์ "โคนัน" เวอร์ชั่นทีวีปี 2557 เป็นผลงานมรณกรรมสุดท้ายที่เธอทิ้งไว้....
"GLORIOUS MIND" โดย อิซึมิ ซาไก นี่คือสิ่งที่เธอเขียนบนเตียงในโรงพยาบาล แม้ว่าเธอจะป่วยหนัก แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นของชีวิต
"ร้องไห้ ...ให้มากที่สุด ลืมทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวาน"
เพื่อนสนิทของเธอ Daikoku Maki กล่าวว่า “ฉันได้รับการสนับสนุนจากเธอเสมอ เธอเป็นคนใจดีและอ่อนโยนมาก”
ตามที่เพื่อนสนิทของเธอบอก เธอเปิดคนเผยและพูดเล่นซะส่วนมาก ฉันชอบดูคำตอบของเธอ และดูจิตวิญญาณที่น่าสนใจนี้
ทุกวันนี้ทั้งงานที่ดีและไม่ดี ...ต่างแข่งขันกันเพื่อสร้างแรงผลักดัน
จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนจะคิดถึง Sakai มากขึ้น เธอมีทั้งเรื่องอื้อฉาวและเรื่องงดงามในชีวิตของเธอ
นับประสาประวัติศาสตร์ที่มืดมน เธอไม่พึ่งพาโฆษณาและการตลาดใดๆเหมือนแฟลตฟอร์มฟ้าม่วง หรือแฟลตฟอร์มอื่นใด และใช้ดนตรีเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนกล้าเผชิญความยากลำบากในชีวิต
เธอคือผู้บรรเลงของยุคสมัย และเป็นพี่สาวที่อบอุ่นในใจผมเสมอ
และเมื่อชีวิตมีปัญหากับปัญหาต่าง ๆ
ทุกคนก็จะเต็มใจที่จะฟังเพลงของ Sakai มากขึ้น ...เพราะในอีกโลกหนึ่งเธอยังคงติดตามเราผ่านดนตรี และทำให้เรามีความแข็งแกร่งในช่วงระบาดแบบนี้....
จงอย่ายอมแพ้เป้าหมายที่อยู่ข้างหน้า
.......ไกลแค่ไหนหัวใจก็จะอยู่กับเธอ.......
- 23
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
