12 ธ.ค. 2021 เวลา 05:48 • ปรัชญา
มีอยู่ทางเดียว คือ สร้างบุญกุศลสร้างบารมีหนีกรรม อารมณ์ความนึกถึงอะไรต่างๆนั้นล้วนไหล ออกมาจากธาตุสี่ดินน้ำลมไฟ เป็นลักษณะของกรรมดีกรรมชั่วที่เคยกระทำไว้ ในอดีตชาติ มาชาติปัจจุบันก็ใช้กายวาจาใจไปรับรู้ เรียนรู้ ทำมาหากินด้วยอารมณ์อยากทะเยอทะยาน เอามายึดมาถือ เรามองวัตถุปัจจัยทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตเป็นของภายนอกกายก็จริง แต่เราไม่ได้ หรือ ไม่เคยเรียนรู้เรื่องราวที่เกืดในตน ไม่รู้จักแม้กระทั้งจิตของตนเองนั้นที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร จิตเรามันก็ยึดสิ่งที่เกิดขึ้นในตน อารมณ์พอใจไม่พอใจ ขอบไม่ชอบ นั้นเหมือนเป็นตัวเป็นตนของเรา เอาที่เรายึดถือโดยไม่รู้ตัว มันก่อเกิดเป็นพฤติกรรมที่ดีและไม่ดีโดยไม่รู้ตัว เผลอสติไม่ดูแลควบคุมอารมณ์ที่เกิดในตน
แล้วเราก็บอกว่าเรามีสติดี แต่ก็ไม่เฉลียวใจว่า สติที่เราทำกิจกรรม เคลื่อนไหวไปมา อยู่นิ่งไม่ได้นั้น ที่จริงแล้วไม่ไม่ใช่สติ มันเป็นสติของอารมณ์ไป สติติดตามอารมณ์ ไม่ใช่สติของจิตที่จะไปพิจารณาอารมณ์ต่าง หรือยับยั้งอารมณ์ต่างๆ อารมณ์นั้นที่เราใช้ชีวิตใช้วิญญาณหก หูตาจมูลิ้นกายใจ เคลื่อนที่ไป ไปตามสถานที่ต่างๆ เอาตาไปดูหูฟัง
อย่างเราเคลื่อนกายไป ไปถูกใครเค้าติเตียน รูปไม่สวยไม่งาม อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ไม่พอใจ เพราะเรามันยึด รักตัวเองด้วยอารมณ์ พอใครติเตียนมาก็ไม่ชอบไม่พอใจ แล้วมันก็ไม่หยุดแค่นั้น มันก็ยังเกิดเป็นกรรม อารมณ์กรรมปรุงแต่งจิตอีก เอามาคิดมานึกรำพึงรำพัน แก่มาติเตียนทำไม มันก็เหมือนจิตเราไปเก็บก้อนหินหนักมาใส่ มาใส่ทับจิตของตัว อย่างที่สมมุติให้ดู เราก็ไปพิจารณาเองว่า วันๆจิตเราไปเก็บก้อนหินกี่ก้อนมาทับจิตของตัวเอง แล้วจิตมันหนักถูกทับ กรรมมันทับจิต อารมณ์ทับจิต มันจะมีความสุขไปได้อย่างไร มันทับมากขึ้นก็ยิ่งดิ้นทุรนทุราย อยู่เฉยไม่ได้ กรรมก็ปรุงส่งอารมณ์มาให้ไปสร้างกรรม ต้องหาวิธีเอาคืน ล้างแค้นกัน หักล้างทำลายกันให้ได้ มันก็มีเรื่องราวมากมายให้เราไปพิจารณา
คราวนี้ เราบอกว่า อยากทำจิตให้สงบ เราเองชอบความสบาย ชอบอยู่ในที่สบายๆ อย่างริมหาด หรือจะเป็นยอดเขา เราก็ลองหันกลับมาดูของเจ้าชายสิทธัตถะ ทำไมท่านถึงเสียสละอะไรออกไป ไปอยู่กลางป่า เท่าที่เคยฟังมา เราก็อยากรู้ว่าจริง กิริยาที่ท่านนั่งสมาธินั้น ท่านนั่งแบบไหน ขัดสมาธิ หรือ นั่งพับเพียบ ก็ได้คำตอบมาว่า ท่านนั่งพับเพียบ ด้วยท่านก็สะสมบุญบารมีมาแต่อดีตชาติ ท่านมีการสะสมกิริยาที่นอบน้อม เป็นมหาบุรุษ ที่ทั้งทวยเทพ และคนธรรพ์ นอบน้อมในธรรมที่ท่านสอน แม้แต่การกราบพระ เค้าเอาจิตมากราบ ก็ต้องมาฝึกหัดเรียนรู้ การกราบด้วยจิตนั้นทำอย่างไร เคยเห็นคนที่เค้าเอาจิต มากราบมันบอกไม่ถูกว่าสวยงาม นอบน้อมมากๆ เห็นแล้ว มันเหมือนใจเราก็พลอยสุขไป กับการกระทำของเค้า
ท่านปฏิบัติด้วยความนอบน้อม เห็นว่ากิริยาของคนที่สร้างกรรม กระทำในกิริยาใดบ้าง คนสร้างกรรม ก็ใช้กิริยายืน เดิน นั่ง นอนไปสร้างกรรม ท่านก็กลับเอากิริยานั้นมาอยู่ในรอยที่เค้าว่า รอยของการหนีกรรม ยืนนิ่ง นั่งนิ่ง เดินนิ่งๆ นอนนิ่งๆ เมื่อกายนิ่ง จิตก็นิ่งตามกาย ท่านทำด้วยความขันติอดทน เพื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น พิจารณาเรื่องราวอารมณ์ต่างๆ เมื่อกายนิ่งจิตนิ่ง มันก็ยังมีอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายในกาย เหมือนกับ ลมพัดพาจิตไปตรงนั้นตรงนี้ จิตมันก็ไหลไปกลับอารมณ์อีก ความสงบมันก็ไม่เกิด เมื่อกายจะนิ่ง อารมณ์ต่างๆ ก็คือกรรม ก็จะไหลออกมา เราก็เพียรรักษากายให้นิ่ง บางครั้งอารมณ์มันร้อง ทนไม่ไหวแล้ว จะตายอยู่แล้ว จะขาดใจตายอยู่ ทุกข์ทรมานเหลือเกิน เราก็ต้องมีสติรักษากายนิ่ง จิตนิ่ง ไปจนครบเวลาที่กำหนดของการฝึก เรื่องกายนิ่งจิตนิ่ง มีอานิสงส์มากมาย นิ่งไปจนเหมือนกายที่ตาย จิตก็ได้ไปเรียนรู้เรื่องเราต่างๆมากมาย
การที่ฝึกหัดไปเรื่อย ทำด้วยความนอบน้อม ขยันหมั่นเพียร กายนิ่งจิตนิ่ง ก็จะเกิดมีอีกสิ่งหนึ่งขึ้น เค้าเรียกว่าจิตของพระ สอนจิตให้ เรียนในเรื่องราวหมวดโลก หมวดธรรม หมวดกรรม หมวดจิต เรื่องราวอะไรอีกมากมายทีเรามองไม่เห็นเหมือนกับคำว่าดินฟ้าอากาศ ดินน้ำลมไฟ เรื่องราวนรกเป็นยังไง เทพยดาแท้จริงเป็นอย่างไร อะไรทำนองนี้ เรียนไปก็จะสนุก สนุกตรงที่อะไรนะมาทำให้จิตเราไม่สงบ หาความสุขไม่ได้เลย ไอ้ตัวที่ทำใจจิตเราสร้างแต่เวรกรรม สร้างทุกข์ในตัวตนของเรา มันอยู่ตรงไหนบ้าง จะได้ชำระสะสางขจัดออกไป ขจัดได้มันก็สงบได้ยาวนาน กายก็เป็นสุขอยู่ในเรือนกายที่เป็นบุญ จิตอยู่เรือนกายที่เป็นกายของบุญ จิตก็มีความสุขสนุก อารมณ์ที่จะมาปรุงแต่งกายก็เบาบางลงไปๆเรื่อย จิตก็พลอยได้อานิสงส์ที่มีกายบุญเกิดขึ้น สงบจากเรื่องราวของอารมณ์กรรมที่จะปรุงให้เคลื่อนไหว ไปมีกายกรรมวจีกรรม จิตก็อยู่เฉยๆสุขสงบ
เมื่อเรารู้ตัวว่า เรามีบุญบารมีมาน้อย เราไม่มีปัญญา สละเรื่องราวต่างอย่างท่าน เราก็สะสมสร้างบุญสร้างกุศลไป ฝึกหัดเดินตามรอยของท่านด้วยจิตที่นอบน้อม เพราะเรามาเดินตามท่าน ท่านเป็นเยี่ยงอย่างของผู้ที่ที่จะเดินทางไปที่ที่มีความสุข ไม่ต้องกลับมาทุกข์ เพื่อเดินไปสู่แดนพระนิพพาน อีกยาวไกล แต่ก็หัดเดินก้าวเดิน นิดหน่อยก็ยังดี ดีกว่าไม่เดินหนีเวรกรรม
โฆษณา