8 ม.ค. 2022 เวลา 08:00 • ประวัติศาสตร์
เรื่อง : Aeroméxico เที่ยวบิน 498 ตกลงกลางหมู่บ้านใน Los Angeles
12
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดยประมาณ : 10นาที
Part 1 : เริ่มเรื่อง
สนามบินนานาชาติ Los Angeles หรือ LAX เป็นหนึ่งในสนามบินที่มีความวุ่นวายและมีการจราจรคับคั่งมากที่สุดในโลก โดยในปี 2019 มีผู้โดยสารกว่า 88ล้านคน และเที่ยวบินกว่า 700,000 เที่ยวมาใช้บริการที่สนามบินแห่งนี้
4
วันที่ 31 สิงหาคม ปี 1986 Aeromexico เที่ยวบิน 498 พร้อมผู้โดยสาร 58 คนมีกำหนดการออกเดินทางจากกรุง Mexico City มุ่งหน้าสู่มหานคร Los Angeles ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพวกเขาใช้เครื่องบินแบบ Mcdonnell Douglas DC-9 ซึ่งมีอายุการใช้งาน 17 ปี โดยในเที่ยวบินนี้มี Arturo Valdes Prom อายุ 46ปี เป็นกัปตันในเที่ยวบิน เขามีประสบการณ์บินในเครื่อง DC-9 กว่า 4,632 ชั่วโมง และมีชั่วโมงบินรวม 10,641 ชั่วโมง ขณะที่ผู้ช่วยของเขา Jose Hector Valencia อายุ 26 ปี ซึ่งมีประสบการณ์บินในเครื่อง DC-9 กว่า 1,245 ชั่วโมง และมีชั่วโมงบินรวม 1,463 ชั่วโมง
2
Mcdonnell Douglas DC-9 ที่ถูกใช้ในเที่ยวบินนี้
ในเวลา 11นาฬิกา 40นาที Aeromexico เที่ยวบิน 498 กำลังเดินทางเข้าใกล้เมือง Los Angeles ซึ่งในขณะนั้นผู้ช่วยนักบิน Valencia กำลังทำการควบคุมเครื่อง โดยมีกัปตัน Valdes เป็นผู้ควบคุมการสื่อสาร
ห่างออกไป 22 กิโลเมตรทางใต้จากสนามบิน LAX มีสนามบินอีกแห่งหนึ่งชื่อ Zamperini Field ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ให้บริการสำหรับเครื่องบินส่วนตัว รวมถึงนักบินสมัครเล่น และมีผู้ใช้บริการมากกว่า 6,000รายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งในขณะนั้นชายคนหนึ่งชื่อ William Kramer กำลังพาครอบครัวของเขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ด้วยเครื่องบิน Piper PA-28 Cherokee โดยพวกเขาตั้งใจที่จะบินไปที่ทะเลสาบ Big Bear โดย William Kramer นั้นเป็นผู้บริหารบริษัทด้านวิศกรรมแห่งหนึ่ง และซื้อเครื่องบินลำแรกของเขาเมื่อ 6ปีก่อน
2
เครื่องบิน Piper PA-28 Cherokee
สนามบิน Zamperini Field
ที่หอบังคับการบิน LAX เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ Walter White กำลังปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการจราจรขาเข้า ซึ่งต้องรักษาระยะห่างของเครื่องบินแต่ละลำที่กำลังบินเข้าสนามบิน
ในเวลา 11นาฬิกา 47นาที Aeromexico เที่ยวบิน 498 ได้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ ซึ่งในขณะนั้นพวกเขาได้เข้าสู้พื้นที่ Terminal Control Area (TCA) หรือพื้นที่ควบคุมการบินจากทางสนามบินแล้ว เจ้าหน้าที่ได้สั่งให้เที่ยวบิน 498 รักษาความเร็วเอาไว้ที่ 180 knot และลดระดับความสูงลงสู่ 6,000 ft. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่ William Kramer กำลังนำเครื่อง Piper ของเขาไต่ระดับขึ้นจากสนามบิน Zamperini
ภาพแสดง Terminal Control Area
เจ้าหน้าที่ Walter White ซึ่งกำลังติดตามเที่ยวบิน 498 ได้สังเกตุเห็นความผิดปรกติบนจอเรดาร์ของเขา นั้นก็คือเครื่องบินอีกลำหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง มันคือเครื่องบิน Grumman Tiger ซึ่งบินเข้ามาในพื้นที่ TCA โดยที่พวกเขาไม่ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศไว้ก่อน ทำให้ Walter White ต้องละความสนใจจากเที่ยวบิน 498 เพื่อมาจัดการกับเครื่อง Tiger นี้ก่อน
1
เครื่องบิน Grumman Tiger
เที่ยวบิน 498 ซึ่งไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศอย่างเต็มที่ ได้เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงและไม่สามารถควบคุมได้ นักบิน Valencia พยายามควบคุมเครื่องอย่างสุดความสามารถ ก่อนที่เครื่องบินจะตกลงกลางหมู่บ้านในย่าน Cerritos ของ Los Angeles โดยชิ้นส่วนลำตัวของเครื่องบินตกใส่บ้านเรือนในบริเวณนั้น ทำให้เกิดไฟไหม้และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ในขณะที่ส่วนหางของเครื่องบินนั้นตกห่างออกไปหลายช่วงตึก
3
หน่วยกู้ภัยรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ พวกเขาพบชิ้นส่วนเครื่องบินกระจายอยู่ทั่วบริเวณนั้น และยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์กระจายอยู่เต็มถนนอีกด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งดำเนินการดับไฟ และค้นหาผู้รอดชีวิตภายใต้เศษซากปรักหักพัง แต่พวกเขาก็ไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม นอกจากนี้พวกเขายังพบซากเครื่องบิน Piper ตกอยู่ที่สยามเด็กเล่นของโรงเรียนประถมในย่านนั้น โดยเครื่องบินยังอยู่ในสภาพที่ดีพอสมควร แต่ฝาครอบห้องผู้โดยสารฉีกขาด พบร่างผู้โดยสาร 3 คนซึ่งเสียชีวิตทั้งหมด ยังรัดเข็มขัดอยู่บนที่นั่ง ซึ่งพวกเขาก็คือ William Kramer และครอบครัว
5
สภาพสถานที่เกิดเหตุ
สภาพเครื่องบิน Piper ที่พบในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนแห่งหนึ่ง
Part 2 : เริ่มการสืบสวน
จากการที่ทีมสืบสวนเริ่มสืบสวนจากซากเครื่องบินทั้งคู่ สามารถสรุปได้ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจากการชนกันกลางอากาศ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 82คน โดยเป็นผู้โดยสารบนเที่ยวบิน Aeromexico 64 คน ประชาชนในหมู่บ้าน 15 คน และครอบครัว Kramer อีก 3 คน
1
รอยใบพัดที่หางของเครื่อง DC-9 และสีบริเวณปีกเครื่องบิน Piper ทำให้รู้ว่าเครื่องบินทั้ง 2 ลำชนกันอย่างไร จากหลักฐานดูเหมือนว่าเครื่อง Piper จะชนเข้ากับส่วนหางของเครื่อง DC-9 โดยชนกันที่มุมปะทะ 90 องศา ด้วยความเร็ว 450 km/h แรงกระเทกทำให้ส่วนหางของเครื่อง DC-9 หลุดออก จึงทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการหาสาเหตุว่าทำไมเครื่องบินทั้ง 2 ลำถึงชนกันกลางอากาศได้
2
ทีมสืบสวนตรวจสอบรอยชนของเครื่องบินทั้ง 2 ลำ
ทีมสืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลจากกล่องดำของเครื่อง DC-9 ซึ่งมันจะช่วยระบุตำแหน่ง ความสูง และทิศทาง รวามถึงความเร็วของเครื่องบินก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ โดยจากข้อมูลในกล่องดำพบว่าเครื่อง Aeromexico กำลังอยู่ในเขต TCA ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกต้องตามแผนการบิน แต่เครื่อง Piper ก็อยู่ในพื้นที่ TCA เช่นเดียวกัน ซึ่งตามปรกติแล้วเครื่องบินเล็กจะต้องขออนุญาตก่อนที่จะเข้ามาในเขตนี้ แต่จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ Walter White เขายืนยันว่าเขานั้นไม่เห็นเครื่อง Piper อยู่บนจอเรดาร์เลย
3
ทีบสืบสวนยังพบอีกว่า William Kramer ไม่คุ้นเคยกับเมือง Los Angeles แต่ยังไงเขาก็น่าจะรู้ถึงข้อบังคับการบิน ซึ่งทีมสืบสวนก็ได้พบกับแผนที่ TCA บนเครื่องบินของ Kramer ด้วย โดยเมื่อดูจากแผนการบินของเขาแล้ว เขาไม่จำเป็นที่จะต้องนำเครื่องเขาสู่เขต TCA เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น, William Kramer ได้นำเครื่องบินของเขาเข้าไปยังเขต TCA และชนเข้ากับเครื่อง DC-9 ของ Aeromexico
ทีมสืบสวนยังพบอีกว่า William Kramer นั้นป่วยเป็นโรคหัวใจ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาการของเขาจะกำเริบในขณะที่เขานั้นกำลังขับเครื่องบิน ทำให้เครื่องบินเสียการควบคุม และไม่มีใครบังคับเครื่องแทนเขาได้ โดยตัวอย่างเนื้อเยื้อหัวใจของ William Kramer ได้ถูกส่งไปตรวจสอบยังสถาบันพยาธิวิทยาเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิฐานนี้ ซึ่งต่อมาผลการวินิจฉัยก็บอกว่า ถึงแม้ William Kramer จะป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่เขาไม่มีอาการหัวใจวายก่อนการชนกันของเครื่องบินทั้ง 2 ลำ ทีมสืบสวนจึงต้องหาสาเหตุใหม่ว่าทำไม Kramer ถึงได้นำเครื่องเข้าไปในเขต TCA
ทีมสืบสวนได้ตั้งข้อสันนิฐานใหม่ว่า Kramer ซึ่งไม่คุ้นเคยกับ Los Angeles นั้น อาจทำการบินโดยใช้ถนนเป็นจุดสังเกตุ แต่เพราะความไม่คุ้นเคย อาจทำให้เขานำเครื่องเข้าไปในเขต TCA โดยไม่รู้ตัว โดยทีมสิบสวนนั้นเชื้อว่า เครื่องบินของ Kramer น่าจะต้องปรากฎขึ้นบนจอเรดาร์ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ Walter White ถึงไม่เห็นมัน และจัดการกับเครื่องบินลำนี้
พวกเขามุ่งประเด็นไปยังเครื่องบินอีกลำหนึ่ง ซึ่งก็คือ Grumman Tiger ที่ลุกล้ำเข้ามาให้พื้นที่ TCA โดยไม่ได้ขออนุญาตซึ่งเป็นไปได้ว่า Walter White ที่กำลังติดต่อกับเครื่อง Tiger ไม่ได้สังเกตุเห็นว่ามีเครื่อง Piper กำลังมุ่งหน้ามายังเครื่องบินของ Aeromexico
3
จากการตรวจสอบเรดาร์ยังพบว่า เครื่องบินทั้ง 2 ลำนั้นชนดันโดยไม่มีการหักหลบเลย เป็นไปได้ว่านักบินทั้ง 2ลำนั้นไม่ทันได้ระวังตัว ทั้งที่วันนั้นอากาศปลอดโปร่ง และมีทัศนวิสัยกว่า 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นไปได้ว่าในขณะที่ Kramer กำลังขับเครื่องบินโดยใช้ถนนเป็นจุดอ้างอิงอยู่นั้น เขาอาจกำลังพยายามมองลงมายังที่พื้นดินเพื่อมองหาถนนผ่านหน้าต่างทางด้านซ้ายมือ ทำให้เขาไม่สงเหตุเห็นเครื่อง DC-9 ของ Aeromexico ที่กำลังบินเข้ามาทางด้านขวา และสำหรับนักบินเครื่อง DC-9 เครื่องบิน Piper นั้นมีขนาดเล็กเกินไป ทำให้พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลที่พอจะหักหลบ
1
ภาพแสดงการชนกันของเครื่องบินทั้ง 2 ลำ
Part 3 : บทสรุป
จากสภาพของเหตุการณ์และหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมมาได้ ทีมสืบสวนจึงได้สรุปว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจากความประมาทของครอบครัว Kramer ที่บินเข้ามาในเขต TCA โดยไม่ได้ตั้งใจ จนทำให้เกิดเหตุหายนะนี้ขึ้น
2
ในขณะเดียวกัน FAA หรือหน่วยงานควบคุมการบินของสหรัฐ ก็มีส่วนในความผิดพลาดครั้งนี้ พวกเขาจึงต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยศาลฎีการัฐ California ได้สั่งให้ครอบครัว Kramer และ FAA จ่ายค่าเสียหายแก่ผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนเงินกว่า 100 ล้าน USD แต่ครอบครัว Kramer มีทรัพย์สินเพียง 1.2 ล้าน USD เท่านั้น ทำให้ FAA ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเกือบทั้งหมด
ในขณะที่นักบินของเครื่อง Grumman Tiger ก็มีความผิดเช่นกัน เขาถูกแจ้งข้อหาในการบินเข้าเขต TCA โดยไม่ได้รับอนุญาตทำให้เขาถูกปรับและโดนพักใบอนุญาตการบินไป
1
สำหรับ Walter White เขาไม่สามารถทำใจที่จะทำอาชีพของเขาต่อไปได้อีก โดยหลังเกิดอุบัติเหตุได้ 1 เดือน เขาตัดสินใจเลิกทำงานนี้ และขอที่จะไม่ติดต่อกับเครื่องบินอีกเลย
อุบัติเหตุเหนือน่านฟ้า Los Angeles ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของการควบคุมจราจรทางอากาศในยุคนั้น ทำให้พวกเขาต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก โดย FAA ได้กำหนดให้เครื่องบินขนาดเล็กทุกลำจะต้องติดตั้ง Transponder แบบใหม่ ซึ่งจะต้องระบุความเร็ว ความสูง และทิศทางของเครื่องบิน ซึ่งจะทำให้เราดาร์ของหอบังคับการบินมองเห็นเครื่องบินขนาดเล็กเหล่านี้ได้ชัดเจนขึ้น และแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ได้อย่างทันท่วงที
1
นอกจากนี้ยังมีกฏข้อบังคับใหม่ที่ระบุด้วยว่า เครื่องบินทุกลำที่บินเหนือน่านฟ้าของสหรัฐจะต้องติดตั้งระบบ TCAS ซึ่งจะช่วยเตือนนักบินเมื่อมีเครื่องบินลำอื่นบินเข้ามาใกล้ อีกทั้งยังช่วยคำนวณเส้นทางการหลบหลีกให้ ซึ่งจะสามารถป้องกันการเกิดอุบติเหตุการชนกันกลางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปัจจุบันเครื่องบินที่มีการติดตั้งระบบนี้ ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุในลักษณะณะนี้อีกเลย
4
TCAS ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุชนกันกลางอากาศ
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
7 มกราคม 2022
2

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา