4 ก.พ. 2022 เวลา 05:47 • การศึกษา
ร้องไห้โดนหัก 3 คะแนน!!
นี่คือกฎเกณฑ์ในการทดสอบประเมินผลเด็กอนุบาลในโรงเรียนสาธิตแห่งหนึ่งในประเทศไทย
เป็นบ้าอะไรกันไปหมดแล้วคะเนี่ย?? เด็กอนุบาลอายุ 3-4 ขวบ ต้องเข้าไปอยู่ในห้องกับคนแปลกหน้า ทำการทดสอบถูกกดดันซักถาม โดยไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย ร้องไห้ไม่ได้จะให้ทำอะไร? ออกกฎเหมือนไม่เคยมีลูก ออกกฎเหมือนไม่ใช่ครูของเด็กเล็ก
1
ความเมตตาปราณี ความเข้าอกเข้าใจเด็ก หายไปไหนกันหมดแล้ว ชั้นอนุบาล เป็นชั้นที่ควรจะสร้างขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ๆ ในการเข้าสู่การศึกษาขั้นปฐมวัย
ซึ่งนั่นหมายความว่าอย่าเพิ่งไปคาดหวังว่าเด็กน้อยที่ยังไม่พ้นอ้อมอกแม่ จะมีจิตใจแข็งแกร่งขนาดนั้น เรามีระบบชั้นอนุบาลขึ้นมาเพื่อการนี้
1
เพื่อให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัว เรียนรู้การช่วยเหลือตนเอง และอยู่ร่วมในสังคมกับผู้อื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ทั้งยังให้โอกาสกันยาวนานถึงสองสามปี เราถึงได้มี ชั้นอนุบาล 1-2-3
ภาพการพาลูกไปส่งเข้าอนุบาลในวันแรก เด็กร้องไห้กอดขาแม่แน่นไม่อยากเดินเข้าโรงเรียน ควรเป็นภาพปกติ นี่คือมนุษย์ตัวเล็กที่มีหัวจิตหัวใจ
เด็กร้องไห้เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย
เด็กร้องไห้เพราะไม่รู้ว่าจะเจออะไรข้างหน้า
เด็กร้องไห้เพราะต้องอยู่กับคนแปลกหน้าทั้งวัน
เด็กร้องไห้เพราะคิดว่าการจากพ่อกับแม่หน้าโรงเรียนคือการจากถาวร
เด็กร้องไ้ห้เพราะ .....
ไม่ว่าจะร้องไห้เพราะอะไร ครูชั้นอนุบาลมีหน้าที่ทำให้เด็ก ๆ สงบใจและเรียนรู้ว่า สถานที่แห่งนี้ปลอดภัย และสิ่งที่จะเจอต่อไป ณ ที่แห่งนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
แต่โรงเรียนอนุบาลไม่มีหน้าที่มาคัดกรองและคาดหวังให้เด็กมาเข้าชั้นเรียนอนุบาลด้วยความพร้อมที่เกินอายุ เกินศักยภาพตามอายุ จริงอยู่ว่าเรื่องนี้พอจะฝึกกันได้ แต่เราก็ไม่ควรเร่งรัดฝึกก่อนเวลาอันควร ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฝึกก็คือระหว่างการเรียนอยู่ในชั้นอนุบาลตลอด 2-3 ปีนี่แหละ
ที่จริงตั้งใจจะเขียนถึงตอนที่พาลูกสาวเข้าไปโรงเรียนวันแรกในชั้นอนุบาลของที่นี่ แต่เนื่องจากระบบมันไม่เหมือนกัน เราไม่ต้องจูงมือพาเด็กไปทดสอบเพื่อแย่งกันเข้าเรียนโรงเรียนดี ๆ เพราะรัฐกำหนดชัดเจน ลูกคุณอายุถึงเกณฑ์แล้ว พาเข้าไปเรียนที่นี่ในวันนี้นะ มันเป็นโรงเรียนใกล้บ้านที่สุด ซึ่งถึงแม้จะไม่มีคำรับรองแต่เราก็รู้กันเองว่า ทุกโรงเรียนทั่วประเทศมาตรฐานทัดเทียมกัน
1
แต่อยากจะเล่าถึง ความหมายของชั้นอนุบาลของที่นี่ มันคือการเตรียมความพร้อมให้เด็กล้วน ๆ
ปีแรกคือการเน้นทักษะการเข้าสังคม การอยู่ร่วมกันเป็นหลัก ทุกกิจกรรมค่อย ๆ สอน ค่อย ๆ พาเด็กเข้ามาสู่โลกใหม่ที่ไม่ใช่บ้าน
ปีที่สองคือการเพิ่มพื้นฐานการเรียนรู้วิชาการผ่านกิจกรรม ไม่มีการนั่งเรียนคัดลายมือ ไม่มีการบ้าน ไม่มีการท่องจำอะไรทั้งสิ้น แต่แยบยลแนบเนียนไปกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่เพลิดเพลิน
และเมื่อเข้าสู่การเรียนอย่างแท้จริงในช่วงประถมวัย เด็ก ๆ ก็พร้อมแล้ว พร้อมโดยที่ไม่อับเฉา ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการเป็นซึมเศร้า พร้อมด้วยลำต้นที่แข็งแกร่ง รากที่แข็งแรง เตรียมจะแผ่กิ่งก้านผลิดอก ออกผล อย่างงดงาม
นี่สิคือหน้าที่ของ “ชั้นอนุบาล” และ “ครูอนุบาล”
หน้าที่ ที่ควรจะมาพร้อมกับการเข้าอกเข้าใจและเมตตาปราณี รู้ว่าน้ำตาหรือเสียงร้องไห้ของเด็ก ไม่ได้บอกอะไรนอกจากความกลัว ซึ่งสามารถขจัดออกไปได้ด้วยความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ่น ไม่ใช่การหัก 3 คะแนน
ชวนไปดูโรงเรียนอนุบาลของลูกที่โพสต์นี้ค่ะ👇

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา