28 ม.ค. 2022 เวลา 05:24 • ครอบครัว & เด็ก
ฉันเป็นแม่สมัยใหม่
ณ ที่นี้ไม่ได้หมายถึงการเลี้ยงลูกด้วยเทคโนโลยีหรืออะไร แต่ฉันเปิดหัวใจกับลูกว่า ฉันเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ได้ดีพร้อม มีอารมณ์อันหลากหลายเช่นเดียวกันกับลูก และเมื่อฉันไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธได้ในบางครั้ง ฉันก็ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งนั่นเป็นที่มาของประโยคที่ว่า
“แม่คะ แม่ need a hug ใช่มั้ยตอนนี้?” ❤️
ฉันโตมากับยุคสมัยและค่านิยมที่ว่า
ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน และผู้ใหญ่ถูกเสมอ
เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัดหรอก
อย่าเถึยงคำไม่ตกฟาก
เป็นเด็กเมื่อวานซืน อย่าริอ่านมาตีเสมอผู้ใหญ่
พอได้เป็นแม่คน ฉันก็พยามยามจะเป็น
ผู้ใหญ่ที่ถูกเสมอ
และอยากจะให้ลูกเดินตามหลังเพื่อคอยระวังหมาให้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
มันยากมากที่จะเป็นแม่
ที่ถูกเสมอ
ที่พร้อมจะเป็นตัวอย่างที่ดีงาม
ที่ระแวดระวังภัยด้วยสติตลอดเวลา
2
ฉันพบว่าในร่างที่เป็นมนุษย์แม่นั้น
ภายนั้นฉันยังคงเป็นฉัน
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์โกรธ และความหงุดหงิดอันเข้มข้น
เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นในวัยที่กำลังพัฒนาตัวตน
สิ่งหนึ่งที่ยากสำหรับเด็กอายุ 6-7 ขวบ
ก็คือการจัดการอารมณ์ตนเอง
นอกจากอารมณ์เศร้า เสียใจ ผิดหวังแล้ว
อารมณ์โกรธ ไม่พอใจ เป็นสิ่งที่ปะทุอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งไม่ว่าจะมีอารมณ์ใด ๆ ฉันสอนลูกว่า
“มะลิเศร้าเสียใจ ก็ร้องไห้ได้
การร้องไห้ก็คือการทำให้ตัวเองดีขึ้น
และมะลิก็สามารถโกรธ หรือไม่พอใจกับอะไรก็ได้
แต่มันมีกฎว่า เราต้องไม่ทำลายข้าวของ
ไม่ทำร้ายคนอื่น และไม่ทำร้ายตัวเอง”
2
เด็ก 6-7 ชวบน่ะสอนกันไม่ยากนักหรอก
โดยเฉพาะมีแม่ดูแลกันอย่างใกล้ชิด
อารมณ์อะไรเกิด แม่ก็จะเข้าชาร์จ
ดูแลอารมณ์และการแสดงออกทันที
สิ่งที่ช่วยได้เสมอก็คือ
เรามักจะนอนกอดกันบนโซฟา
โดยไม่จำเป็นต้องหาคำตอบหรือทางออกในเรื่องที่กำลังเป็นปัญหา
เศร้าเหรอ มาสิมากอดกัน
โกรธเหรอ มาสิมากอดกัน
ซึ่งลูกได้เรียนรู้ว่า การกอดกันก็คือ
การค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะทำให้อารมณ์สงบลง
เรื่องอื่นใดยังไม่จำเป็นต้องคิด
เพราะอารมณ์ที่พลุ่งพล่านทั้งหลาย
มันทำให้หัวใจของเราพร่าเลือน
ลูกทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ตลอดในช่วงอายุ 6-7 ขวบ
อันเป็นช่วงรอยต่อของการพัฒนาตัวตน
ตอนนี้ลูกอายุ 9 ขวบแล้ว
ลูกจัดการอารมณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
และฉันเองก็ได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
ตอนลูกเล็ก ๆ เวลาหงุดหงิด โมโห ไม่ได้ดั่งใจต่าง ๆ
ฉันก็นับหนึ่งถึงร้อยและเก็บมันไว้
เลี้ยงเด็กน่ะ เป็นวิธีฝึกควบคุมสติได้ดีชะงัดเลยเชียว
เพราะมันจะมีเรื่องให้ได้หงุดหงิดกับความไร้เดียงสา
ที่มาพร้อมกับความเสียหาย วุ่นวาย อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
แต่พอลูกโตขึ้นและเริ่มจับอารมณ์เป็น
แค่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ลูกก็รู้ได้ทันทีว่ามารได้เข้าครอบงำแม่แล้ว
บางครั้งมารก็คอนโทรลแม่ได้ 100%
ตวาดแว่ดแหว กระแทกจานดังปั้ง
โยนของโครมคราม ให้ลูกได้เห็น
และฉันก็ต้องมานั่งอธิบายและขอโทษลูกในภายหลังว่า
สิ่งที่แม่ทำไป เพราะเจ้าตัวโกรธมันใหญ่คับแม่ไปหมด
บางทีผู้ใหญ่ก็คุมตัวโกรธไม่ค่อยอยู่นะลูก
เพราะเราลืมที่จะฝึกมัน
ไม่เหมือนมะลิ ที่ได้ฝึกคุมตัวโกรธตั้งแต่เล็ก ๆ
“แม่คะ มะลิจะช่วยแม่เอง”
ลูกสาวแสนดีโพล่งขึ้นในวันหนึ่ง
ซึ่งทุกครั้งที่แม่หงุดหงิด แม้เพียงเล็กน้อย
“แม่ need a hug” เธอพูดและเดินเข้ามากอด
แต่ถ้าความหงุดหงิดนั้นแปลเป็นความโมโหโกรธาที่แม้แต่ลูกยังไม่อยากเข้าใกล้
เธอก็ยังส่งเสียงอ่อน ๆ มาว่า
“Do you need a hug?”
เท่านั้นเอง แม้แต่ตัวโกรธที่ใหญ่คับตัวฉันไปหมดยังอ่อนละลาย
ฉันอยู่รอดจากการเป็นแม่อารมณ์ร้าย
ขึ้น ๆ ลง ๆ มาได้ด้วยอ้อมกอดของลูก
นี่ฉันพูดได้ไม่อายเลยนะ
ลูกสาวคือคนที่พยุงอารมณ์ฉันเสมอ
และฉันก็พร้อมจะให้ลูกเข้ามาช่วยเหลือ
บางทีการวางความเป็นแม่
ในบริบทของความเป็นผู้ใหญ่ลง
เราก็จะมองเห็นว่า ดวงใจที่บริสุทธิ์ดวงเล็ก ๆ
สามารถช่วยเหลือให้เราพ้นทุกข์ได้
การที่เขาเด็กกว่าเรา การที่เขาเป็นลูกเรา
ไม่ได้หมายความว่าเขาด้อยกว่าเรา หรือไม่รู้เรื่องรู้ราว
แต่เพราะลูกบริสุทธิ์กว่า
ดีงามและแปดเปื้อนจากกิเลส โมหะ โทสะน้อยกว่า
ก็สามารถพูดได้ว่า จิตใจเขาดีกว่าเราเยอะ
และเราควรใช้โอกาสนั้นให้ลูกได้โอบอุ้ม
และยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น
ฉันจึงพยักหน้ายอมจำนน และอ้าแขนให้ลูกเสมอ
เมื่อลูกถามว่า
“แม่คะ แม่ Need a hug ใช่มั้ยตอนนี้?”
❤️
โฆษณา