9 ก.พ. 2022 เวลา 05:37 • ไอที & แก็ดเจ็ต
ซีรีส์ ศัพท์ S&T ทันโลก ตอน 4
จาก 1G ถึง 5G (ตอน 2-จบ)
แล้วก็มาถึงยุค 3G
ระหว่างที่เทคโนโลยีแบบ 2G กำลังเบ่งบาน จำนวนผู้ใช้งานมือถือก็ก้าวกระโดดจากราว 2 เครื่องต่อประชากร 100 คนใน ค.ศ. 1990 ไปเป็น 39 เครื่องและ 92 เครื่องในปี ค.ศ. 2000 และ ค.ศ. 2010 ตามลำดับ
ถึงจุดนี้ผู้บริโภคก็ร่ำร้องหาบริการที่มี "โหลด" หนักขึ้นเรื่อยๆ คือนอกจากส่งข้อความได้แล้ว ยังต้องการรับส่งไฟล์ภาพ ไฟล์ข้อมูล คลิปเพลง และวิดีโอ เรียกว่าอยากอินเทอร์แอกทีฟกับอินเทอร์เน็ตทุกรูปแบบนั่นเอง
เทคโนโลยี 3G จึงเกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการนี้
ถึงตรงนี้ก็มีศัพท์อีกคำหนึ่งนั่นก็คือ "Mbps" คำว่า Mbps เป็นตัวย่อมาจากคำเต็มว่า Megabit per second (เมกะบิตต่อวินาที) จัดเป็นหน่วยปริมาณข้อมูลซึ่งนำมาใช้วัด "ขนาดในการรับส่งข้อมูลหน่วยหนึ่งๆ ต่อหน่วยเวลา" ซึ่งเห็นได้บ่อยบนระบบอินเทอร์เน็ต โดยที่หน่วย 1 Mbps = 1,000 kbps (k = kilo หรือ "กิโล" นั่นเอง และบิต (bit) ก็คือ หน่วยย่อยที่สุดที่นำมาใช้ในการคำนวณทางคอมพิวเตอร์ โดยอาจมีค่าเป็น 0 หรือ 1)
เพื่อให้เห็นภาพว่า Mbps เร็วแค่ไหน ลองดูสปีดเปรียบเทียบดังนี้ครับ
หากต้องการส่งสัญญาณให้ได้คุณภาพการคุยโทรศัพท์แบบเห็นภาพด้วย ก็ต้องใช้สปีดราว 32 kbps เป็นอย่างน้อย แต่ถ้าจะส่งสัญญาณให้ได้คุณภาพดีระดับวิดีโอมาตรฐานก็ต้อง 2 Mbps ขึ้นไป แต่ถ้าระดับดีวีดีก็ต้องขยับมาที่ 8 Mbps และถ้าจะให้เห็นชัดๆ ว่ามีสิว ไฝ ฝ้า ตรงไหนบ้างคือ คมชัดแบบ HD ก็ต้องส่งข้อมูลด้วยความเร็วขนาด 55 Mbps ขึ้นไปครับ
ถ้าอยากได้คุณภาพระดับ 3G จริงๆ ก็ต้องส่งข้อมูลให้ได้ระดับ 63 Mbps ขึ้นไป ทิ้งห่างเทคโนโลยี 2G ที่ต้องการแค่ 0.5 Mbps ไปแบบไม่เห็นฝุ่น !
เพื่อป้องกันความสับสน ในโฆษณาผู้ให้บริการมือถือเจ้าต่างๆ ออกจะมีตัวเลขอีกแบบหนึ่งเช่น แพ็กเกจนี้ใช้ความเร็วแบบ 3G ได้ 10GB อันนี้ไม่ใช่ "ความเร็ว" แล้ว แต่เป็น "ปริมาณข้อมูล" ความหมายก็คือบริษัทรับปากว่าคุณจะใช้มือถือได้ความเร็วปรู้ดปร้าดแบบ 3G หรือ 4G ในปริมาณ 10 กิกะไบต์
หลังจากนั้นก็จะช้าลงอย่างชัดเจน และมักมีข้อความมาแพ็กเกจ "เพิ่มเติม" เช่น ซื้อความเร็วเพิ่มเติมใช้ได้ 7 วัน ในราคา ... บาท
เป็นเล่ห์เหลี่ยมการค้าแบบหนึ่งที่คนไทยต้องเจอนะครับ
https://pixabay.com/vectors/phone-speed-mobile-technology-6155893/
ก้าวสู่ 4G และ 5G
เทคโนโลยีแบบ 4G สรุปสั้นๆ ว่า เป็นเวอร์ชัน 3G ที่ดีเยี่ยมขึ้นไปอีก เช่น 4G ของแท้จะรับส่งข้อมูลกันได้คราวละ 300 Mbps หรือส่งข้อมูลจาก DVD ขนาดความจุ 4.7 กิกะไบต์ทั้งแผ่น ได้ในเวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง !
ส่วน 5G นั้น ความเร็วควรจะไปถึงระดับ 1-10 Gbps (1 Gigabits = 1,000 Megabits) ขณะที่มือถือควรจะกินไฟน้อยลง และมีอายุการใช้งานเกินกว่า 10 ปี (ว้าว)
ในรายงานต่างๆ ก็มักจะตอกย้ำว่าต้องเป็น ระบบที่นำไปสู่ "สังคมที่เชื่อมโยงกันอย่างยิ่ง (hyper-connected society)" ที่ไม่ได้แค่คนที่เชื่อมต่อกัน แต่คนยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้ง ยานพาหนะและที่อยู่อาศัยอีกด้วย เช่น ขับรถใกล้ถึงบ้าน ก็กดให้ประตูบ้านเปิดรอล่วงหน้า หรือให้เครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นเริ่มทำงานได้ เป็นต้น
แทบจะกลายเป็นผู้วิเศษกันเลยทีเดียว !
https://pixabay.com/illustrations/internet-5g-technology-connection-4899254/

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา