18 ก.พ. 2022 เวลา 03:48 • หนังสือ
#8 CWG. 4️⃣ — บทที่ 2 (ตอนที่ 5) : ลูกรัก ❗ เลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตได้แล้ว
ผู้แปล : คุณซิม จากเพจ Books for Life
ผู้เรียบเรียง : แอดมิน (ซึ่งผมอาจแก้ไข เพิ่มคำแปล และ เรียบเรียงประโยคใหม่บ้างเล็กน้อย)
Q: Thank you. I “get it.” But there is this lingering question. If many people are already awake, why aren’t they acting like it? Are you telling me that not one of them—not a single one—knows they are awake? They're all still thinking they're just “dreaming” what sometimes feels like a nightmare called “today’s news” on Earth?
นีล : ขอบคุณครับ ผม “เข้าใจแล้ว” แต่ก็ยังมีคำถามที่ค้างคาใจอยู่ นั่นคือ หากผู้คนจำนวนมากได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ทำไมพวกเขาถึงไม่ทำตัวเหมือนผู้ที่ตื่นแล้วล่ะครับ❓ นี่พระองค์กำลังบอกผมว่า ไม่มีพวกเขาสักคนเลยเหรอ —ไม่มีแม้แต่คนเดียว— ที่รู้ว่าตัวเองได้ตื่นขึ้นมาแล้ว❓ พวกเขาทุกคนยังคงคิดว่าตัวเองก็แค่ “กำลังฝันอยู่” ซึ่งในบางครั้งก็รู้สึกเหมือนฝันร้ายที่ถูกเรียกว่า “ข่าวรายวัน” บนโลก อย่างนั้นเหรอครับ❓
A: No. Many of them know that what’s happening is real, and they are awake to who they are and what it would take for them to awaken the rest of the species.
พระเจ้า : ไม่หรอก พวกเขาหลายคนก็รู้ดีว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นคือเรื่องจริง (ไม่ใช่ฝัน) และได้ตื่นขึ้นมาเป็นคนที่พวกเขาเป็นจริงๆ ทั้งยังรู้ว่าตนจำต้องแลกอะไรไปบ้างเพื่อที่จะปลุกคนที่ยังไม่ตื่นให้ตื่นขึ้น
.
Q: Okay, then my question still lingers. If there are so many humans who know they are awake, why is the world the way it is? I’m a perfect example. Every day I do something or say something or think something that does not in any way resemble the behavior of someone who is “awakened.” If I know that I am awake, as you claim, then why do I behave the way I do?
นีล : โอเคครับ แต่ผมก็ยังคาใจอยู่ดี หากมีคนมากมายที่รู้ว่าตัวเองตื่นขึ้นมาแล้ว ทำไมโลกถึงยังเป็นอย่างที่เป็นอยู่❓ ตัวผมคือตัวอย่างที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ ทุกวันนี้ ผมทำบางสิ่ง พูดบางอย่าง คิดบางเรื่อง ที่ไม่ได้มีลักษณะใดๆที่ใกล้เคียงกับพฤติกรรมของผู้ที่ “ตื่นแล้ว” เลย หากผมรู้อยู่แล้วว่าตัวเองตื่นอยู่ อย่างที่พระองค์ว่า แล้วทำไมผมถึงยังทำตัวแบบนั้นล่ะครับ❓
A: Because being awake and knowing what you know . . . and having all that you know fully integrated into your life . . . are two different things.
พระเจ้า : นั่นเพราะการรู้ตัวว่าตื่น และการรู้ในสิ่งที่ตัวเองรู้ . . . กับการนำทุกสิ่งที่ตัวเองรู้เข้าไปปรับใช้ในชีวิตได้อย่างสมบูรณ์นั้น . . . เป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน
Sometimes—particularly when you're very young or acting immaturely—it’s more attractive to you to pretend that you don’t know what you know. Or just to ignore the fact that you know.
ในบางครั้ง —โดยเฉพาะในตอนที่เธอยังเป็นเด็กหรือทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต— มันน่าดึงดูดและน่าสนุกมากกว่าสำหรับเธอที่จะแกล้งทำเป็นว่าเธอไม่รู้ในสิ่งที่เธอรู้ หรือเธอก็แค่เมินเฉยไม่สนใจต่อความจริงที่ว่าตัวเธอนั้นรู้อยู่แล้ว★
1
★เช่นรู้อยู่ว่าเหล้า บุหรี่ นั้นไม่ดี แต่ก็เมินเฉยไม่สนใจ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่ามันไม่ดี ก็จะดื่มจะสูบ อะ จะทำไม อะไรแบบนี้เป็นต้น — แอดมิน
And sometimes, you simply forget.
และ บางครั้ง เธอก็แค่หลงลืมมันไป
Did your father ever say to you, “Why would you do such a thing when you know better?”
พ่อของเธอเคยพูดกับเธอแบบนี้ไหม “ทำไมลูกถึงทำแบบนั้นล่ะ ทั้งที่ลูกก็รู้สิ่งที่ดีกว่านั้นนี่❓”
.
Q: Of course. I heard that a hundred times.
นีล : แน่นอนครับ ผมได้ยินมาเป็นร้อยครั้งแล้ว
A: Make it a hundred and one.
พระเจ้า : งั้นนี่ก็เป็นครั้งที่หนึ่งร้อยหนึ่งแล้วล่ะนะ
Look, yours is a very young species. You are like children. You are the toddlers of the universe. So you go around doing things that you know are not good for you, because it seems like more fun in the moment. Or you simply forget what you’ve been told.
ฟังนะ เผ่าพันธุ์ของเธอยังเยาว์วัยนัก เธอยังเหมือนเด็ก สำหรับจักรวาลแล้วเธอยังเป็นแค่เด็กน้อยที่เพิ่งจะเริ่มหัดเดินเท่านั้นเอง เธอวิ่งเล่นไปทั่วพร้อมกับทำในสิ่งที่ตัวเองก็รู้ว่ามันไม่ดีกับตัวเอง เพราะมันดูน่าสนุกกว่า ณ ขณะนั้น หรือไม่เธอก็แค่ลืมในสิ่งที่ถูกบอกให้มาทำ
2
This is the story of your species’ collective experience on Earth. You’ve let it be your experience as an individual, too, even though you know better.
สิ่งนี้คือเรื่องของประสบการณ์ร่วมกันของมนุษย์บนโลก เธอปล่อยให้ประสบการณ์ร่วมกลายเป็นประสบการณ์ส่วนตัว แต่ก็อย่างที่บอก ทั้งที่เธอก็รู้ดีกว่านั้น
1
You're not just observing non-beneficial behaviors in others, you're actually engaging in such behaviors yourself.
เธอไม่เพียงแค่สังเกตเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์จากคนอื่นเท่านั้น เธอยังมีพฤติกรรมแบบเดียวกันนั้นเองอีกด้วย
1
But now it will be beneficial for you to set aside your childish behaviors.
และในตอนนี้ มันจะเป็นประโยชน์สำหรับเธอมากกว่า ที่จะละทิ้งพฤติกรรมแบบเด็กๆเหล่านั้นไปเสีย
.
Q: I know.
นีล : ผมรู้ครับ
A: And I know that you know. That’s what I’ve been saying here.
พระเจ้า : และฉันก็รู้ว่าเธอรู้ นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังพร่ำบอก
Even those who did not know before, know now. It’s becoming too obvious for even the most immature members of your emerging species to not see it, to not realize it, or to pretend they don’t know.
แม้แต่คนที่ไม่เคยรู้มาก่อน ณ บัดนี้ ก็ได้รู้แล้ว มันช่างชัดเจนเหลือเกิน ชัดเจนจนถึงขนาดที่สมาชิกที่ยังทำตัวไม่รู้จักโตในเผ่าพันธุ์ที่เพิ่งเกิดใหม่อย่างพวกเธอจะมองไม่เห็นมัน ไม่ตระหนักรู้ถึงมัน หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้★
1
★ปัจจุบันมีเด็กๆจำนวนมากมายที่ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลก แล้วออกมาทำโครงการเพื่อช่วยเหลือโลกเองโดยไม่รอให้พวกผู้ใหญ่ลุกขึ้นมาทำให้ ลองเข้าไปอ่านได้ตามลิงค์ครับ แต่ละโครงการสุดยอดทั้งนั้น — แอดมิน
1
Yet you're still not acting as if you know. You're not integrating what you know. So you know, but you're not acting as if you know that you know. You're awake to Who You Are and to What Is True, but your behavior does not reflect this. You continue to act as if you're sleepwalking.
แม้กระนั้น เธอก็ยังคงไม่ลงมือทำในสิ่งที่ตัวเองรู้ ไม่ยอมนำสิ่งที่ตัวเองรู้มาปรับใช้ในชีวิต ในทำนองเดียวกัน เธอรู้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำตัวเหมือนคนที่รู้ว่าตัวเองรู้ เธอตระหนักรู้ว่าตัวเองคือใครและรู้ว่าอะไรที่เป็นความจริง แต่พฤติกรรมของเธอกลับไม่สอดคล้องกับสิ่งที่เธอรู้ เธอก็ยังทำตัวเหมือนคนเดินละเมออยู่นั่นแหละ
Now if you don’t want to walk into a wall or off a cliff, you would do well to wake up to the fact that you’re already awake, that you're not dreaming about some of the nightmarish conditions on Earth. And that you're not “making it up” or imagining that this very day is The Perfect Time to Advance in your evolution.
ในตอนนี้ หากเธอไม่อยากเดินไปชนกำแพงหรือเดินตกเหว เธอจะต้องตื่นขึ้นมารู้ความจริงซักทีว่าตัวเองนั้นตื่นอยู่แล้ว ว่าสภาวการณ์อันเลวร้ายบางอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนั้นไม่ใช่ความฝัน และเธอก็ไม่ได้ “คิดไปเอง” หรือจินตนาการไปเองว่าเวลานี้ คือช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วสำหรับความก้าวหน้าในการวิวัฒนาการของเธอ
1
. . .
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา