ปริศนาหนัง The Power of the Dog
(Spoiler Alert! ใครที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง Power of the Dog ขอให้ไปดูก่อนแล้วค่อยมาอ่านนะครับ)
เป็นหนังของค่าย Netflix ที่ถูกพูดถึงมาก ตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อราวสองเดือนก่อน ขณะที่เขียนอยู่นี้หนังได้รับรางวัลไปแล้ว 21 รางวัล และยังรอลุ้นรางวัลใหญ่คือ รางวัลออสการ์ ซึ่งในอีกเดือนเดียวเราก็จะรู้ผลแล้ว
เอาเป็นว่าเป็นหนังชนะรางวัลมากมายก็แล้วกันครับ หนังประเภทนี้จะต้องมีอะไรดีสักอย่าง หรือหลายอย่าง ส่วนจะดูสนุกหรือไม่นั้นก็แล้วแต่จริตของคนดู
แรกผมเลือกดูเพราะอยากดูการแสดงของ Benedict Cumberbatch กับ Kirsten Dunst ซึ่งเป็นสองดาราใหญ่ ดูเข้าจริงจึงได้พบว่าองค์ประกอบอื่นอย่างการกำกับภาพ และการเดินเรื่องนี่ไม่ธรรมดาจริง ๆ และยังได้ค้นพบผู้แสดงไม่คุ้นหน้าที่แสดงได้ดีมาก ๆ ด้วย
น้ำหนักของการเดินเรื่องช่วงแรกเหมือนจะอยู่ที่สองดารานำ หากแต่เมื่อผ่านไปครู่เดียวก็เริ่มค้นพบว่า กลับเป็นบทของดาราตัวรองอย่าง Jesse Plemons และ Kodi Smit-McPhee ที่โดดเด่นและสร้างจุดระเบิดให้กับพล็อตเรื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะ Kodi Smit-McPhee นี่แสดงได้แรงแบบเงียบ ๆ เลย แถมยังเป็นแรงแค้นที่ขมวดไปสู่ตอนจบของเรื่องได้อย่างไม่คาดฝัน
เรื่องทั้งหมดปิดฉากลงได้ด้วยตัวช่วย...เป็นผู้ร้ายที่ไม่ใช่คน!
ปูพื้นก่อนสักเล็กน้อย ท้องเรื่องของ The Power of the Dog เกิดขึ้นในสังคมคาวบอยท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ประมาณปี ค.ศ. 1925 (ปีเดียวกับที่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา ขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7)
สถานที่เกิดเหตุอยู่ที่รัฐ Montana เป็นรัฐที่อยู่ทางเหนือ ชายแดนติดกับประเทศแคนาดา ถ้าเป็นเมืองไทยก็ห่างไกลโพ้นจากเมืองหลวง เทียบได้กับราว ๆ แถวจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เรื่องดำเนินไปอย่างช้า ๆ แต่เขม็งเกลียวตลอดเวลา บีบให้คนดูต้องตึงเครียดและคอยลุ้น เราจะเห็นการต่อสู้ภายในจิตใจและพลิกผันไปมาระหว่างสองขั้วตลอดเวลา ความโหดเหี้ยมกับความอ่อนโยน ความกล้ากับความขลาด ความฉลาดกับความโง่เขลา และความรักแบบหญิงชายกับความรักแบบ LGBT
คุณสมบัติที่เป็นขั้วตรงข้ามเหล่านี้ บางครั้งก็แสดงออกโดยตัวละครคนเดียวกัน
ตัวละครสำคัญ (ที่ไม่ใช่คน) ปรากฏให้เห็นตั้งแต่ 5 นาทีแรกของเรื่อง มันคือ เชื้อแบคทีเรียจากดินที่มีชื่อเต็มว่า Bacillus anthracis หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ (และโรค) แอนแทรกซ์ (Anthrax) ซึ่งระบาดในหมู่สัตว์เลี้ยง เป็นสาเหตุให้วัวและแกะล้มตายเป็นเนือง ๆ ตามท้องเรื่องในเวลานั้นโรคนี้เป็นปัญหาทางเกษตรกรรมมากว่าสาธารณสุข
ในความเป็นจริงเราสามารถติดเชื้อแอนแทรกซ์ได้จากการสัมผัสกับผลิตภัณฑ์สัตว์ที่มาจากสัตว์ป่วย หรืออาจติดโรคโดยการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไปก็ได้
ในปีที่เกิดเหตุคือ ค.ศ.1925 ทฤษฎีเชื้อโรค หรือ The Germ Theory of Disease เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงการแพทย์แล้ว แต่ยังไม่มียารักษา บรรดาคาวบอยในเรื่องนี้ต่างก็รู้จักแอนแทรกซ์และรู้ว่าต้องระมัดระวังไม่ให้ติดโรคจากการสัมผัสสัตว์ป่วย
ระบบนิเวศของเชื้อแอนแทรกซ์และการก่อโรค Source: Centers for Disease Control and Prevention, National Center for Emerging and Zoonotic Infectious Diseases (NCEZID)
เวลานั้นที่ยุโรป แม้ว่าหลุยส์ ปาสเตอร์ โจเซฟ ลิสเตอร์ และโรเบิรต คอค จะค้นพบและประกาศทฤษฎีเชื้อโรคแล้ว (โดยเฉพาะคนหลังสุดทำวิจัยกับเชื้อแอนแทรกซ์โดยตรง) โลกยังต้องรอการค้นพบเชื้อเพนนิซิลินในปี ค.ศ. 1928 โดยนายแพทย์เซอร์อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่ง
และกว่าจะมีการผลิตยาปฏิชีวนะออกมาได้ในปริมาณมากก็ต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้นจึงเกิดอุตสาหกรรมยาสมัยใหม่ขึ้น
เราจะเห็นจากหนังว่า Peter (ตัวละครที่แสดงโดย Kodi Smit-McPhee) เก็บเชื้อแอนแทรกซ์มาจากชิ้นส่วนของสัตว์ที่ตายเพราะโรค และใช้ถุงมือยางตลอดเวลา เขามีความรู้นี้และระมัดระวังตัวได้แบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นนักเรียนแพทย์นั่นเอง
ในหนังเราจะเห็นฉากที่ Peter เอาหนังวัวมาตาก ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าหนังวัวในตอนนี้มีจุดดำ ๆ อยู่ นั่นก็คือเชื้อแอนแทรกซ์
จากนั้นเขาก็หยิบยื่นหนังวัวดิบนี้ให้กับ Phil (ตัวละครที่แสดงโดย Benedict Cumberbatch) เพื่อให้นำไปใช้ทำเชือก ในนาทีนั้นเอง แอนแทรกซ์ได้เปลี่ยนจากปัญหาทางการเกษตรไปเป็นอาวุธเชื้อโรคจากมือของนักเรียนแพทย์
มาถึงฉากที่ Phil จุ่มมือที่มีบาดแผลลงไปในน้ำที่มีหนังวัวติดเชื้อ คนดูที่ไม่ทันสังเกตแต่แรก ถึงตอนนี้ก็จะต้องรู้แล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น...
แอนแทรกซ์เคยถูกใช้เป็นอาวุธชีวภาพจริง ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน หลังจากเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายเครื่องบินชนตึกเวิรล์ดเทรดเซนเตอร์ มีการส่งเชื้อแอนแทรกซ์มาทางซองจดหมาย เป็นเหตุสะเทือนขวัญที่มีคนเสียชีวิตจริง ๆ และกรณีนี้นำมาสู่โครงการ BARDA ที่รัฐบาลสหรัฐออกกฎหมายสู้กับอาวุธชีวภาพ ด้วยการยอมให้ใช้เงินรัฐบาลเสริมกำลังการผลิตยาและวัคซีนให้กับภาคเอกชน และเป็นโครงการหนึ่งที่สนับสนุนการผลิตวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัสในปัจจุบันนี้
ข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ The Washington Post กรณีเชื้อแอนแทรกซ์เมื่อวันที่ 18 เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2001 Source: https://www.washingtonpost.com/
นักวิทยาศาสตร์รู้ว่า เชื้อโรคมากกว่า 50% ที่เข้ามาระบาดในสังคมมนุษย์มีที่มาจากสัตว์ (zoonotic diseases) สถานการณ์นี้ถูกเร่งด้วยการอพยพย้ายถิ่นฐานของมนุษย์ หรือพูดให้ถูกคือการที่มนุษย์บุกรุกถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศน์ที่เกิดจากภาวะโลกร้อน เป็นตัวกระตุ้นให้โรค "หลุด" ออกมาสู่สิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ไม่น่าเชื่อว่าหนังคาวบอยที่จับเหตุการณ์ในยุครัชกาลที่ 7 จะใกล้ชิดกับสถานการณ์โลกในวันนี้ เราดูหนังไปเราไม่ต้องตระหนก แต่ให้ตระหนักไว้ก็ดี
The Power of the Dog จึงเป็นหนังที่น่าดูในยุคโควิด-19 ระบาดวันนี้ครับ
อ้อ ต้องให้เครดิตด้วยว่า หนังสร้างจากหนังสือต้นฉบับโดย Tom Savage ที่เขียนขึ้นในปี ค.ศ. 1967
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
