6 มี.ค. 2022 เวลา 00:09 • ประวัติศาสตร์
ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 5 : The Art of War
สำหรับมอสโก ในฤดูของปี 1999 มันได้เกิดความเงียบสงัดขึ้นที่เครมลิน สำนักงานที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยผู้คนที่มายื่นคำร้องในเรื่องราวต่าง ๆ นา ๆ บัดนี้กลับว่างเปล่า “มันเหมือนกับอยู่ในสุสาน” Sergi Pugachev นายธนาคารของเครมลินที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของเสนาธิการเครมลินกล่าว “มันเหมือนกับบริษัทที่ล้มละลาย ทันใดนั้นทุกคนก็หายสาปสูญ”
4
ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 5 : The Art of War
สำหรับ Pugachev และสมาชิกคนอื่น ๆ ของคนวงในของ Yeltsin ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในนาม ‘Family’ ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนในเครมลิน
มันเป็นความจริงใหม่ที่เริ่มตึงเครียดขึ้นอย่างชัดเจน Yeltsin เข้าและออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เดือนตุลาคม และนอกกำแพงเครมลิน ดูเหมือนว่ากำลังมีการเตรียมการรัฐปรหาร
1
รากฐานของการปกครองของ Yeltsin กำลังจะถูกรื้อถอน ซึ่งเป็นผลมาจากการลดค่าเงินรูเบิลในหน้าร้อนที่ผ่านมา และการผิดนัดชำระหนี้ของรัฐบาลจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์
ธนาคารของผู้มีอำนาจหลายแห่งได้พังทลายลงในช่วงวิกฤตินี้ เงินออมของประชาชนทั่วไปก็แทบจะสูญสิ้น รัฐสภาซึ่งยังคงถูกคอมมิวนิสต์ครอบงำอยู่นั้น อยู่ในความโกลาหล
1
Yeltsin ถูกบังคับให้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนของ KGB Yevgeny Primakov อดีตสายลับที่อยู่ในหน่วยข่าวกรองต่างประเทศและเป็นเหมือนยามของเครือข่าย KGB มานานแล้ว
2
สมาชิกขององครักษ์เก่าของคอมมิวนิสต์ได้ควบคุมรัฐบาล เรื่องราวอื้อฉาวทางการเงินต่าง ๆ มุ่งเป้าไปที่ความตะกละของฝ่ายตรงข้ามในกลุ่มของ Yeltsin เริ่มถูกขุดคุ้ยอย่างหนัก
2
Yevgeny Primakov ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหวังล้ม Yeltsin (CR:Wikipedia)
การสอบสวนที่คุกคามไปยังตัว Yeltsin โดยตรงเริ่มดำเนินการ หนึ่งคือกรณีของบริษัทที่ชื่อ Mabetex ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักตั้งอยู่ในเมืองลูกาโนในแถบเทือกเขาแอลป์ของสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้ชายแดนอิตาลี
ตลอดช่วงทศวรรษที่ 1990 บริษัทแห่งนี้ได้สัญญามูลค่าหลายพันล้านในการบูรณะเครมลิน ทำเนียบขาวของรัสเซีย และโครงการอันทรงเกียรติอื่น ๆ อีกมากมาย
3
กลุ่มนายธนาคารทั้ง 7 ที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของ Yeltsin เอง พวกเขาก็แทบไม่สนใจความสำเร็จในระบอบประชาธิปไตยของ Yeltsin
ในมุมมองของพวกเขา Yeltsin เป็นคนติดเหล้าที่ไม่สามารถที่จะเป็นผู้นำประเทศได้ รวมถึงกลุ่มพันธมิตรบางคนที่ได้รับอำนาจไปใช้อย่างไร้ค่าและทำบางสิ่งบางอย่างที่มันผิดกฎหมาย และกำลังจะนำประเทศไปสู่การล่มสลายอีกครั้ง
และศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดคือ Sergei Pugachev นายธนาคารเครมลินที่จะหนีไปลอนดอนและปารีสในเวลาต่อมา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและเป็นคนสำคัญในข้อตกลงลับ ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในเครมลิน
ธนาคารที่เขาร่วมก่อตั้งคือ Mezhprombank ซึ่งเป็นเจ้าหนี้หลักของแผนกทรัพย์สินที่เครมลิน
ในสมัยนั้นแผนกทรัพย์สินเป็นอาณาจักรที่แผ่ขยายออกไป ควบคุมทรัพย์สินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่รัฐเก็บไว้หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
ตลอดเวลา Pugachev ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Behdjet Pacolli เจ้าของ Mabetex เขาดูแลโครงการฟื้นฟูเครมลินทั้งหมดเป็นการส่วนตัว นับตั้งแต่การลงนามในสัญญาไปจนถึงการปรับปรุงสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทั้งหมด
2
จากจุดเริ่มต้นมันเป็นการดำเนินการที่ฟุ่มเฟือยแบบสุด ๆ แม้ว่าเขาจะยืนยันว่าเขาพยายามทำให้แน่ใจว่าเครมลินได้ราคาที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม
2
จากต้นไม้ 23 ชนิดถูกนำมาใช้เพื่อสร้างลวดลายอันวิจิตรของพื้นพระราชวังเครมลิน มีการซื้อทองคำบริสุทธิ์มากกว่า 50 กิโลกรัมเพื่อประดับห้องโถง และผ้าไหมที่ดีที่สุด 662 ตารางเมตรสำหรับปูผนัง
เครมลินจะถูกเปลี่ยนเป็นความรุ่งโรจน์ในยุคซาร์หลังจากทศวรรษของการปกครองของคอมมิวนิสต์ซึ่งสมบัติทั้งหมดของยุคก่อนการปฏิวัติ ทั้งพื้นโมเสก เครื่องประดับล้ำค่า กระจกสีทองและโคมไฟระย้า ถูกนำออกไปและแทนที่ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่ายที่สุด
1
มันเป็นงบประมาณการก่อสร้างที่สูงมาก ซึ่งกว่า 700 ล้านดอลลาร์ เป็นส่วนหนึ่งของเงินที่รัสเซียได้รับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์ รวมถึง Yeltsin ได้ลงนามสำหรับกู้เงินต่างประเทศอีกจำนวน 300 ล้านดอลลาร์ และมีการอนุมัติจากรัฐบาลเพิ่มอีก 492 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการฟื้นฟูเครมลิน
นั่นเองเมื่อเริ่มมีการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ที่นำโดยอัยการ Yury Skuratov เป็นเวลาที่ Pugachev ต้องเริ่มเดินเกมใหม่ ตอนนั้นเองที่ Pugachev และตระกูล Yeltsin เริ่มเดินเกมเพื่อความอยู่รอดของพวกเขาที่จะช่วยผลักดันให้ Vladimir Putin สู่อำนาจ
2
มันเป็นทางเลือกสุดท้ายของพวกเขา หาก Primakov อดีต KGB ขึ้นสู่อำนาจจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อเสรีภาพของ Yeltsin เขาได้กลิ่นตุ ๆ ของเรื่องทุจริตทันทีที่ Primakov และทีมของเขาได้เข้ามามีอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
Yeltsin ที่ต้องเข้าและออกโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้เขาดูอ่อนแอลงไปเมื่อเทียบกับ Primakov ซึ่งถูกมองว่ากำลังเข้ามาโค่นล้มเขา
แต่ในเดือนเมษายน Yeltsin ได้รวบรวมกำลังพลเพื่อประลองครั้งสุดท้าย Yeltsin มีสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดเหมือนสัตว์ป่าและเก่งในเรื่องกลอุบายทางการเมืองเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจว่าถึงเวลาต้องลงมือแล้ว
เขาเรียก Primakov ไปที่เครมลินและบอกว่าเขาถูกไล่ออก เขาจะถูกแทนที่ด้วย Sergei Stepashin รัฐมนตรีมหาดไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับ Yeltsin ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของขบวนการประชาธิปไตยและเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าคนแรกสุดของ FSB
แม้ว่าสื่อจะคาดการณ์มานานแล้วว่า Yeltsin จะทำการเคลื่อนไหวในรูปแบบดังกล่าว แต่ก็ยังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น Yeltsin รอจนถึงวินาทีสุดท้ายแล้วจัดการเผด็จศึก Primakov
ทางสภา Duma (สภาผู้แทนราษฎร) ไม่คิดว่า Yeltsin จะกล้าทำสิ่งนี้ สิ่งที่เหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย เพราะเป็นการทำให้สภา Duma ต่อต้านเขามากยิ่งขึ้นเนื่องจากส่วนใหญ่ควบคุมโดยอดีตกลุ่มคอมมิวนิสต์
1
แต่ต้องบอกว่าในความจริง มันตรงกันข้าม มันเป็นการแสดงความแข็งแกร่งทั้งหมดของ Yeltsin เขาทำลายกองกำลังอันทรงพลังของ Primakov อย่างสงบ และดูเหมือน สภา Duma รู้สึกกลัวกับท่าทีที่แข็งกร้าวของ Yeltsin ในครั้งนี้ นั่นทำให้แผน A ของ KGB ล้มเหลวทันที
2
Pugachev เองนั้นเดินหน้าหาคนที่เหมาะสมมานานแล้ว ผู้ชายที่เขาเชื่อว่าเป็นคู่หูที่ปลอดภัยที่สุด และมีความจงรักภักดีที่สุด เขาสนับสนุน Vladimir Putin ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่า Putin ควรจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง
Pugachev พบกับ Putin ครั้งแรกในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กช่วงสั้น ๆ ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 และได้รู้จักกันดีขึ้นเมื่อ Putin ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองผู้ว่าการในแผนกทรัพย์สินที่เครมลิน ซึ่งที่่นั่นเขาทำงานร่วมกันแทบจะทุกวัน
Mezhprombank ของ Pugachev มีส่วนร่วมในการระดมทุนสำหรับแผนกอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศที่ Putin เป็นหัวหน้า จากสำนักงานเล็ก ๆ ของเขาที่จตุรัสเก่า Putin ได้รับมอบหมายให้สืบสวนการถือครองสินทรัพย์ในต่างประเทศจำนวนมากที่รัสเซียได้รับสืบทอดมาจากการล่มสายของสหภาพโซเวียต
มีทั้งอาคารอันโอ่อ่าของสำนักงานตัวแทนการค้าพิเศษ มีสถานทูตและฐานทัพยุทธศาสตร์ คลังอาวุธ และเซฟเฮาส์ลับของ KGB
การถือครองเหล่านี้จำนวนมากถูกปล้นในช่วงความสับสนวุ่นวายของการล่มสลายโดย KGB และกลุ่มอาชญากร มันควรอยู่ในงบดุลของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ไม่เคยมีการทำบัญชี งานของ Putin คือนำทรัพย์สินเหล่านี้กลับมาให้หมด
2
ทั้ง Pugachev และ Putin อยู่ใกล้ชิดกัน ครั้งแรกในฐานะหัวหน้าแผนกควบคุมทรัพย์สิน จากนั้นเมื่อ Putin ขึ้นเป็นหัวหน้าของ FSB Pugachev กล่าวตลอดเวลาว่า Putin เป็นลูกบุญธรรมของเขา เสน่ห์ของเขาคือ Putin อยู่ในฐานะคนที่เขาสามารถสั่งได้ ‘
2
“เขาชื่อฟังเหมือนสุนัข” Pugachev กล่าว
Sergi Pugachev ผู้ปลุกปั้น Putin ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด (CR:Hello Magazine)
ด้วยความที่การสอบสวนเรื่อง Mabetex กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ มันได้กลายเป็นความเร่งรีบของครอบครัว Yeltsin เองในการปกป้องกลุ่มอำนาจของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด
นั่นคือเหตุของการผงาดขึ้นมาของ Putin เหนือตัวเลือกอื่นใดที่ Yeltsin มีอยู่ พวกเขาต้องการผู้ชายที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา และพวกเขาต้องสามารถต่อรองได้
ตอนแรก Yeltsin ก็ยังลังเลใจ แต่ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม กลุ่มกบฎเชเชนเริ่มโจมตีด้วยอาวุธที่ชายแดนของดาเกสถาน พื้นที่ภูเขาที่อยู่ติดกับสาธารณะรัฐเชเชนที่กำลังแตกแยก ทำให้ Yeltsin ต้องรีบตัดสินใจ
เมื่อ Yeltsin ได้ประกาศในท้ายที่สุด ประเทศชาติก็ตกตะลึงกับตัวตนของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของพวกเขา Putin เป็นข้าราชการที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เป็นคนสีเทาที่ไม่ค่อยปรากฎในข่าว
สำนักข่าวต่างประเทศพยายามรวบรวมชีวประวัติของเขา สิ่งที่ทำให้คนในชาติตกใจที่สุดคือการที่ Yeltsin เปิดเผยชื่อเขาอย่างเป็นทางการว่าเป็นคนที่เขาหวังว่าจะประสบความสำเร็จในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากเขา
2
Yeltsin ได้ประกาศในการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยประกาศว่า
“ผมตัดสินใจตั้งบุคคลในความคิดของผมที่จะสามารถรวมรัสเซียกลับมาเป็นหนึ่งเดียว เขา (Putin) มีกองกำลังทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าการปฏิรูปรัสเซียจะดำเนินต่อไป เขาจะสามารถรวมกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวเขาซึ่งมีหน้าที่ในการรื้อฟื้นรัสเซียให้เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 บุคคลนี้เคยเป็นเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคง ผู้อำนวยการ Federal Security Service (FSB)”
3
นันทำให้ Putin ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในหน้าที่การงานของเขา รัฐสภารัสเซียต่างตกตะลึง Putin ที่ดูเหมือนเด็กอ่อนด้อยในตอนนั้นเมื่อเทียบกับ Primakov
ดูเหมือนสิ่งที่ Pugachev มองเห็นว่า Putin ดูมีความจงรักภักดีและเชื่อฟังง่าย เปรียบเสมือนสุนัขรับใช้ แต่สิ่งที่ Pugachev ไม่รู้ก็คือ Putin เคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มที่พยายามล้มล้างระบบ Yeltsin
Pugachev แทบจะไม่รูัตัวว่า อดีตเจ้าหน้าที่ KGB อยู่เบื้องหลังการรั่วไหลของบัญชี Mabetex ที่กำลังไล่ล่า Yeltsin อยู่ โดยเชื่อมโยงกับหน่วยงานระดับบนสุดของแผนก black-ops ในตำนานของ KGB ที่ได้ช่วย Putin ในการจัดตั้ง
โครงการแลกเปลี่ยนน้ำมันสำหรับอาหารในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
Pugachev ไม่รู้ว่า Putin เล่นเกมการเมืองทุกด้านมาโดยตลอด Pugachev คงไม่รู้เสียแล้วว่า Putin คือ แผน B ของ KGB หลังจากแผนการผลักดัน Primakov ล้มเหลว
Pugachev มักอ้างว่าเขาคิดว่า Putin เป็นคนที่เขาสามารถควบคุมได้ เขาแทบจะไม่รู้ตัวมาก่อนเลยว่า Putin กำลังเล่นบทสองหน้าและหลอกลวงพวกเขา
1
“สงครามอยู่บนพื้นฐานของการหลอกลวง และนี่คือกลยุทธของซุนวู” จากหนังสือ Art of War
มันคือการเรียนรู้จากศาสตร์การรบแบบจีนโบราณ ซึ่งดูเหมือนว่า Putin จะเรียนรู้บทเรียนนี้ได้อย่างถ่องแท้ จากการผงาดขึ้นมากุมอำนาจได้สำเร็จในครั้งนี้นั่นเอง
3
อ่านตอนที่ 6 : The Inner Circle
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันในกลุ่มสำหรับ Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
คลิกเลย --> https://bit.ly/3E2DdM8
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา