8 มี.ค. 2022 เวลา 00:09 • ประวัติศาสตร์
ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 6 : The Inner Circle
1
มันคือวันที่ 7 พฤษภาคม 2000 อดีตเจ้าหน้าที่ KGB ซึ่งเมื่อแปดเดือนก่อนเป็นเพียงข้าราชการที่แทบจะไม่มีใครรู้จักคนหนึ่งกำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซีย ทองคำที่หยดลงมาจากผนังและโคมระย้าเป็นเครื่องยืนยันถึงแผนการของ KGB ในการฟื้นคืนชีพของจักรพรรดิ์รัสเซียได้สำเร็จอีกครั้ง
3
ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 6 : The Inner Circle
ประวัติศาสตร์ของอาณาจักรรัสเซีย ไม่เคยมีความสง่างามเช่นนี้มาก่อนในการสถาปนาเครมลิน เพราะส่วนใหญ่แล้วในอดีตที่ผ่านมาการเปลี่ยนผ่านผู้นำแต่ละครั้งเต็มไปด้วยการนองเลือด
1
ในแถวหน้าของบรรดาผู้ที่ปรบมือให้ Vladimir Putin ประธานาธิบดีคนใหม่ในวันนั้นคือเจ้าหน้าที่ของตระกูล Yeltsin ที่ช่วยให้เขาได้ขึ้นสู่อำนาจสูงสุด
คนแรกในหมู่พวกเขาคือ Alexander Voloshin อดีตนักเศรษฐศาสตร์ที่เคยดำรงตำแหน่งเสนาธิการของ Yeltsin ถัดจากเขาคือ Mikhail Kasyanov ที่ไต่ขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในยุคของ Yeltsin
1
สิ่งที่ Putin เคยรับปากไว้กับตระกูล Yeltsin สิ่งแรกที่เขาทำในฐานะประธานาธิบดีคือการแต่งตั้ง Kasyanov เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อมาได้เรียก Voloshin กลับมาเป็นเสนาธิการเครมลิน
ในหมู่พวกเขามีนักธุรกิจที่เชื่อมโยงกับ KGB เช่น Yury Kovalchuk อดีตนักฟิสิกส์ที่กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Bank Rossiya ซึ่งเป็นธนาคารในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กที่สร้างขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์ในยุครุ่งเรืองของสหภาพโซเวียต
2
นอกจากนี้ยังมี Gennady Timchenko ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับ Putin เพื่อควบคุมการส่งออกน้ำมันของเมือง คนเหล่านี้ต่อสู้เพื่อเงินและสูบเอาสินทรัพย์จากเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กมาแทบหมดสิ้น ตอนนี้พวกเขากำลังหิวโหยกับความมั่งคั่งของมอสโกที่กำลังรอพวกเขาอยู่
2
ต้องบอกว่าในช่วงสองสามปีแรกในการเป็นประธานาธิบดีของ Putin กลุ่มเลนินกราด KGB เหล่านี้ คือทีมงานวงในที่สำคัญที่สืบทอดมาจากระบอบของ Yeltsin
1
Putin ได้ประกาศปฏิรูปแบบเสรีนิยมหลายครั้ง ซึ่งทำให้เขาได้รับเสียงชื่นชนจากนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เขาปฏิรูปภาษีเงินได้ที่ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันแห่งหนึ่งของโลก
2
Putin ได้เริ่มดำเนินการในการปฏิรูปที่ดินที่อนุญาติให้มีการซื้อและขายทรัพย์สินส่วนตัว รวมถึงได้ว่าจ้าง Andrei Illarionov ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์เสรีที่มีหลักการมากที่สุดของประเทศ เข้ามาร่วมทีมเศรษฐกิจ
1
ด้วยการส่งออกน้ำมันที่เป็นฐานรายได้หลักของประเทศ เมื่อราคาน้ำมันถีบตัวสูงขึ้น รัฐบาลของ Putin จึงเริ่มจ่ายหนี้จำนวนมหาศาลจากกองทุนที่ฝ่ายบริหารของ Yeltsin ยืมมาจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้สำเร็จ ความไม่มั่นคงและความโกลาหลในยุคของ Yeltsin ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงเสียที
3
โลกยังส่งเสียงเชียร์จากความพยายามของ Putin ในการสร้างความสัมพันธ์กับตะวันตก หนึ่งในนโยบายสานสัมพันธ์แรก ๆ ก็คือการปิดสถานีดักฟัง Lourdes ในคิวบา
เขาพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐฯ และเป็นผู้นำระดับโลกคนแรก ๆ ที่โทรแจ้งและแสดงความเสียใจภายหลังการโจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
1
เขายังฝ่าฝืนคำแนะนำของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเขาเอง และอนุญาติให้สหรัฐฯ เข้าถึงฐานทัพทหารในเอเชียกลาง ซึ่งจะทำให้สามารถเริ่มโจมตีในประเทศเพื่อนบ้านของอัฟกานิสถานได้
1
ในช่วงแรกดูเหมือนว่า DNA ของอดีต KGB ของ Putin นั้นจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ขณะที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช กล่าวว่าเมื่อมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา (Putin) บุช สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณลึก ๆ ของ Putin
1
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นแค่ช่วงเวลาฮันนีมูนสั้นๆ เพียงเท่านั้น สมัยแรก ๆ ในการเป็นประธานาธิบดีของ Putin เป็นยุคแห่งการคิดใคร่ครวญและความไร้เดียงสาตามประสามือใหม่ ความพยายามในการสร้างสายสัมพันธ์กับตะวันตกไม่ได้เกิดจากความจริงใจใด ๆ แต่เนื่องจาก Putin คาดหวังอะไรบางอย่างเป็นการตอบแทน
ในเดือนมิถุนายน 2002 จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวจากสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธ ซึ่งเป็นข้อตกลงด้านอาวุธที่สำคัญที่สืบเนื่องมาจากสงครามเย็น
1
Putin รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกหักหลัง การถอนตัวจากสนธิสัญญาจะทำให้สหรัฐฯ เริ่มทดสอบระบบป้องกันขีปนาวุธที่เสนอให้ติดตั้งในอดีตรัฐของสหภาพโซเวียตที่อยู่ในสนธิสัญญาวอร์ซอ
1
มันเป็นเล่ห์เหลี่ยมของสหรัฐฯ ที่ทำให้ Putin รู้สึกเหมือนโดนดูถูก ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่ามีจุดประสงค์เพื่อป้องกันขีปนาวุธของอิหร่าน แต่ฝ่ายบริหารของ Putin มองว่ามันมีจุดมุ่งหมายโดยตรงมาที่รัสเซียเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
Voloshin ที่เป็นเสนาธิการของเครมลินถึงกับกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันยังคงหลงเหลือแมลงสาบที่ตกทอดมาจากสงครามเย็น”
3
Voloshin (ซ้าย) ที่เป็นเสนาธิการของเครมลินออกมาประนามสหรัฐฯ(CR:Wikipedia.org)
ในเวลาเดียวกัน NATO ก็ยังคงเดินทัพไปทางตะวันตกอย่างไม่หยุดยั้ง คำสัญญาจากผู้นำตะวันตกที่มีต่อ Gorbachev อดีตประธานาธิบดีของสหภาพโซเวียต ถูกเหยียบย่ำอย่างไม่ใยดี มันเป็นความโสมมของโลกตะวันตก
ปีสุดท้ายของการปกครองของ Boris Yeltsin ในช่วงสุขภาพที่ย่ำแย่ ตะวันตกทำการย่ำยีด้วยการทำให้ NATO เข้ามากลืนกินโปแลนด์ ฮังการี และสาธารณรัฐเช็ก
ในปี 2000 NATO ได้เชิญอีกเจ็ดประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกให้เข้าร่วม มันเป็นการขยายอำนาจอย่างบ้าคลั่งของตะวันตกในช่วงที่รัสเซียกำลังอ่อนแอ
ในช่วงแรกของการบริหาร Putin พยายามกระชับอำนาจต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และได้พยายามสร้างความสมดุลระหว่างทีมงานของครอบครัว Yeltsin ที่มีแนวคิดเสรี และค่อนข้างชอบตะวันตก กับทีมงาน KGB ของเขา
1
แต่ในท้ายที่สุดอิทธิพลของ KGB เริ่มมากลบสิ่งอื่นแทบจะทั้งหมด โลกทัศน์ของเขาเต็มไปด้วยตรรกะของสงครามเย็น และค่อย ๆ เข้ามากำหนดและหล่อหลอม Putin อย่างช้า ๆ เพื่อพยายามฟื้นฟูอำนาจรัสเซีย เพื่อต่อสู้กับตะวันตกที่ขยายอำนาจเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้นเรื่อย ๆ
1
ฝั่งของ Pugachev เขาพยายามอยู่ในเงามืด เฝ้าดูลูกน้องของเขาเหมือนเหยี่ยว พยายามสร้างสมดุลระหว่างอิทธิพลของกองกำลังที่เป็นปฏิปักษ์ ทั้งฝั่งตระกูล Yeltsin และ KGB
ในช่วงปีแรกที่ Putin ดำรงตำแหน่ง Pugachev ใช้เงิน 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัว Putin เขาได้ซื้ออพาร์ทเมนท์สำหรับอัยการของรัฐเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมของ Putin และตัวเขาเอง
3
Boris Berezovsky ได้กลายเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจตามแบบฉบับของยุค Yeltsin เขาเป็นบุคคลตัวอย่างที่ดีของการติดต่อกับคนวงในของ Yeltsin เมื่อกลุ่มนักธุรกิจเล็ก ๆ ต่อรองกันเบื้องหลังเพื่อแย่งชิงทรัพย์สินระดับเกรด A รวมถึงตำแหน่งข้าราชการสูง ๆ
1
แต่ความผูกพันที่เขาปลูกฝังกับผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของเชชเนียทำให้เขากลายเป็นคนทรยศในสายตาของกลุ่ม KGB
คนที่รายรอบตัว Putin จะกลัวสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือสื่อ แม้ว่าช่อง ORT TV จะถูกควบคุมโดยรัฐซึ่งถือหุ้น 51% แต่ Berezovsky ซึ่งเป็นเจ้าของส่วนที่เหลือ และกรรมการและผู้บริหารในสื่อก็เป็นคนของ Berezovsky
2
ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม Berezovsky ได้ออกมาต่อต้าน Putin อย่างชัดเจนครั้งแรก วันรุ่งขึ้นหลังจากผู้ก่อการร้ายวางระเบิดผ่านอุโมงค์ใต้ดินใจกลางมอสโก มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 90 ราย
เขาได้จัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศว่าเขากำลังสร้างกลุ่มต่อต้านเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เขาเรียกว่าลัทธิอำนาจนิยมของ Putin ที่กำลังเพิ่มขึ้น เขาได้เตือนว่าระเบิดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้อีกหากเครมลินยังคงคิดจะทำลายกลุ่มกบฎในเชชเนีย มันแทบจะเป็นการจุดฉนวนระเบิดไปยัง Putin อย่างชัดเจน
2
Boris Berezovsky ที่ออกมาเดินหน้าท้าชน Putin (CR:Wikipedia.org)
Putin ต้องเผชิญวิกฤติครั้งสำคัญครั้งแรกของเขาในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อตอร์ปิโดบนเรือดำน้ำนิวเคลียร์ Kursk ลำหนึ่งของประเทศได้ถูกจุดฉนวนขึ้น ทำให้เกิดระเบิดอย่างรุนแรง และทำให้ลูกเรือจมหายไปใต้ท้องทะเล
Berezovsky ใช้ช่อง ORT TV อย่างเต็มกำลังเพื่อวิจารณ์ว่า Putin จะจัดการกับโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นอย่างไร
1
มันได้เกิดความสับสนเข้าครอบงำเป็นเวลาหกวัน ในขณะที่ประธานาธิบดีของประเทศกลับซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักฤดูร้อนของเขาใกล้โซซีบนชายฝั่งทะเลดำ
Putin นิ่งเงียบโดยสิ้นเชิงในขณะที่กองทัพเรือต่างงงงวยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ครอบครัวของลูกเรือต่างตกอยู่ในความสิ้นหวัง ที่สำคัญรัสเซียยังปฏิเสธข้อเสนอความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เนื่องจากกลัวว่าจะมีการเปิดเผยความลับเกี่ยวกับสถานะของกองเรือนิวเคลียร์ของตน
ในช่วงแรกนั้น Putin เป็นผู้นำที่ไม่มีประสบการณ์มากนัก แม้ว่าเขาทำงานมาหลายปีในการจัดการกับตะวันตกและปฏิบัติการทางทหารที่เด็ดขาดในเชชเนีย แต่เรื่องดังกล่าว ปูติน กลับตกอยู่ในความกลัว เขาแทบไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร
1
ผ่านไปถึงวันที่เจ็ด Putin บินกลับมอสโกอย่างเงียบ ๆ แต่เพียงสามวันต่อมาเขาก็ปรากฎตัวต่อสาธารณะ เขาบินไป Vidyayevo เมืองที่อยู่เหนืออาร์กติกเซอร์เคิล ที่ตั้งของท่าเรือ Kursk
มีญาติของลูกเรือได้มารวมตัวกันด้วยความสิ้นหวัง พร้อมความโกรธในตัวผู้นำของพวกเขา ทางการรัสเซียอมรับในที่สุดว่าลูกเรือทั้งหมด 118 คนเสียชึวิต
สื่ออย่าง ORT TV ของ Berezovsky กล่าวหา Putin มีการสัมภาษณ์ญาติผู้โศกเศร้าและชี้ให้เห็นว่า Putin ขาดความเป็นผู้นำ Putin ต้องเผชิญกับความโกรธแค้นของภรรยาและญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตที่เข้ามาด่าทอเขา และถูกถ่ายทอดสดออกทีวี
2
นั่นทำให้ Putin เดือดดาลกับสื่อเป็นอย่างมาก และพุ่งเป้าไปที่ Berezovsky ที่ Putin มองว่าพยายามนำการเมืองเข้ามาหากินบนความโศกเศร้าของโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น
ในช่วงกลางเดือนตุลาคม Putin เล่นงานกลับ โดยให้อัยการ เปิดคดีที่กล่าวหาว่า Berezovsky ใช้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ผ่านบริษัทสวิสจาก Aeroflot สายการบินของรัสเซียที่เขาเป็นเจ้าของ และพร้อมที่จะตั้งข้อกลาวหากับ Berezovsky ซึ่งทำให้เขาได้หนีออกจากรัสเซียและประกาศว่าจะไม่กลับมาเหยียบแผ่นดินรัสเซียอีก
Putin และคนของเขากกำลังใช้กลวิธีที่ได้รับการทดสอบและทดลองในสมัยที่อยู่ในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งในตอนนั้นสิ่งที่พวกเขาทำเพื่อเข้ายึดท่าเรือของเมืองและกองเรือบอลติกคือการส่งผู้อำนวยการคนเก่าเข้าคุก
แต่ในช่วงเริ่มการปกครอง พวกเขาทำอะไรได้เพียงเล็กน้อย เพราะต้องได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่ม Yeltsin ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเครมลิน และกลุ่มของ Putin ก็ใช้แผนการเดียวกันกับการยึดท่าเรือที่เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในการยึดสื่อทั้งหมดให้มาตกอยู่ในมือของรัฐ
1
เขาให้ Gazprom เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในสื่ออย่าง NTV และตั้งทีมผู้บริหารใหม่ หน่วย KGB ได้เข้าไปในอาคารสำนักข่าวอย่างเงียบ ๆ และทำหน้าที่แทนยามรักษาการณ์ชุดเดิมของอาคาร
นักข่าวที่มาถึงที่ทำงานในเช้าวันนั้นจะได้รับอนุญาติให้เข้ามาได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อผู้บริหารคนใหม่ นักข่าวอาวุโสลาออกเพื่อประท้วงการยึดเอาอิสรภาพที่ได้มาอย่างยากเย็นของพวกเขา
2
“รัฐประหารกำลังเกิดขึ้นในประเทศ” Igor Malashenko ผู้ร่วมก่อตั้งสำนักข่าว NTV กล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการเข้ามาจัดการสื่อในประเทศแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของ Putin
เครมลินของ Putin ได้ควบคุมทุกสื่อไว้สำเร็จแล้ว ความอิสระของสื่อในยุคของ Yeltsin นั้นจบลงแล้ว
3
อ่านตอนที่ 7 : Operation Energy
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันในกลุ่มสำหรับ Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
คลิกเลย --> https://bit.ly/3E2DdM8
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา