17 มี.ค. 2022 เวลา 07:19 • สุขภาพ
ไขปัญหาโลกแตก ทำไมธรรมะ คำแนะนำให้คิดบวก ให้ปล่อยวาง ถึงแก้ซึมเศร้าไม่ได้
“คิดมากเกินไปรึเปล่า ปล่อยวางบ้าง”
“คิดบวกเข้าไว้ ยังมีคนที่แย่กว่าเราอีกเยอะ”
“ไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม สงบจิตสงบใจหน่อยไหม”
.
เรามักพบเห็นแนวทางสำเร็จรูปเหล่านี้จากใครหลายคน แม้เป็นคำพูดที่แสดงความปรารถนาดี แต่เป็นความหวังดีที่ผิดบุคคล ผิดเวลา หากคนคนนั้นกำลังมีอาการของ “โรคซึมเศร้า”
นอกจากธรรมะจะไม่ได้ช่วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ยังแสดงถึงการขาดความเข้าใจต่อผู้ป่วยอีกด้วย
.
ก่อนที่กินอยู่เป็น 360 องศาแห่งการใช้ชีวิตจะอธิบายให้กระจ่างว่าทำไมธรรมะ การคิดบวก การปล่อยวาง นั้นเป็นการแก้ซึมเศร้าที่ “ผิด” เรามาเข้าใจโรคซึมเศร้ากันเสียก่อน
แม้ซึมเศร้าเป็นโรคที่ชื่อคุ้นหูขึ้น แต่สังคมไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องนักเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ส่วนใหญ่มักเข้าใจ (ไปเอง) ว่าเป็นสภาวะ “จิตตก”
คือมีความรู้สึกเครียด กลุ้มใจ เศร้าใจ หดหู่ที่เกิดขึ้นจากความผิดหวังหรือการสูญเสีย และหายได้เอง มากกว่าที่จะเป็นโรค
.
หนักกว่านั้นบางคนเข้าใจว่าอาการซึมเศร้าเป็นการเรียกร้องความสนใจ ก่อเกิดเป็นคำแนะนำที่ให้ผู้ป่วยรวบรวมสติ และให้ต่อสู้กับอาการซึมเศร้าด้วยตนเอง
โรคซึมเศร้าจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
“ธรรมะ” ช่วยรักษาโรคซึมเศร้าได้หรือไม่
“ธรรมโอสถ” ช่วยเยียวยาความรู้สึกซึมเศร้าได้ แต่ไม่ได้ช่วยรักษาโรคซึมเศร้า หากใช้ธรรมะผิดเวลาจะเกิดผลเสียมากกว่าเดิมได้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้มีปกติพิจารณาเห็นจิตใจ (สามารถ) รู้ชัดซึ่ง-จิตหดหู่ และ-จิตฟุ้งซ่าน ได้
.
แต่สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า อย่าว่าแต่พิจารณาเห็นจิตตามปกติเลย…
แค่การใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นปกติก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก เพราะอาการของโรคทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรวบรวมสติและพลังที่จะต่อสู้โรคได้ด้วยตนเอง
.
หากพยายามบังคับตัวเองให้ปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วไม่สามารถทำได้จะยิ่งเพิ่มความรู้สึกหงุดหงิดและผิดหวังในตัวเอง
พานคิดน้อยใจไปว่า แม้แต่ธรรมะก็ไม่ช่วย และรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าลงไปอีก
.
ทำให้อาการของโรคซึมเศร้ารุนแรงขึ้นได้ หรือปฏิบัติแล้วอาจทำให้เกิดอาการฟุ้งซ่าน ประสาทหลอนมีการรับรู้ที่บิดเบือนไปจากปกติ จนกลายเป็นคนวิกลจริตได้
ศ.ดร.เจมส์ สจ๊วต ผู้เชี่ยวชาญวิชาจิตวิทยาเคยถามหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโมว่า
“การปฏิบัติกรรมฐานสามารถใช้รักษาคนเป็นโรคจิตประเภทย้ำคิดย้ำทำและซึมเศร้าได้หรือไม่”
หลวงพ่อตอบว่า
“การปฏิบัติกรรมฐานสามารถช่วยให้ผู้ปฏิบัติมีสติมากขึ้น ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานได้สำเร็จจะเป็นผู้มีความสุขและสงบไม่มีอาการฟุ้งซ่านหรือผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคจิต
แต่คนที่เป็นโรคจิตอยู่แล้ว ยังไม่ควรมาปฏิบัติกรรมฐานเพราะจิตใจยังไม่เป็นปกติ ถ้าหากมาปฏิบัติกรรมฐานก็อาจเป็นบ้าได้
.
ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าจึงต้องได้รับการรักษาอาการป่วยอย่างถูกต้องก่อน
เมื่ออาการเป็นปกติในระดับหนึ่งแล้วก็สามารถปฏิบัติธรรมเพื่อให้ “ธรรมโอสถ” ช่วยเยียวยาเสริมสร้างความเข้มแข็งของจิตอันเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ได้
.
การเป็นโรคซึมเศร้าจึงไม่ได้หมายความว่า ผู้ป่วยคิดไปเองว่าป่วย เรียกร้องความสนใจ หรือเป็นคนขี้เกียจ อ่อนแอ คิดมากไม่สู้ปัญหา เอาแต่ท้อแท้
บางครั้งผู้ป่วยสามารถอารมณ์ ‘ดิ่ง’ ได้โดยไม่มีสาเหตุ
.
คอยพูดคุยและรับฟังพวกเขา ผู้ป่วยต้องการหาคนรับฟัง มากกว่าพูดหรือสอนธรรมะ และแทนที่จะแนะนำให้พบพระ ควรแนะนำให้พบแพทย์หรือนักบำบัดจะถูกทางกว่า
.
ที่มา
ธรรมชาติ. (2561, กุมภาพันธ์). “ธรรมโอสถ สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า,” Secret. 10(230) : 90-91
ติดตามเรื่องราวข่าวสาร กินอยู่เป็น ง่ายๆ ได้ทาง
เว็บไซต์ : www.kinyupen.co
แฟนเพจ : กินอยู่เป็น
ทวิตเตอร์ : @kinyupenco : www.twitter.com/Kinyupenco
อินสตาแกรม : @kinyupen.co www.instagram.com/kinyupen.co
โฆษณา