19 มี.ค. 2022 เวลา 02:00 • การเมือง
วิเคราะห์และทำนายแผนบุกยูเครนของรัสเซีย ตอน 5
ในรายงานสรุปชื่อ “ความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะรุกรานยูเครน” ของ ฟิลิป วาซีลิวสกี (อดีตซีไอเอ) และเซธ โจนส์ (ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์ระหว่างประเทศ) ที่เขียนลงในเว็บไซต์ www.csis.org ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 2022
จากบทเกริ่นและทั้ง 4 ตอนที่ผ่านมา ได้กล่าวไปแล้วถึง
[1] วัตถุประสงค์ทางการเมืองของรัสเซีย
[2] ตัวเลือกทางทหารของรัสเซีย
[3] เส้นทางการรุกรานที่เป็นไปได้ของรัสเซีย และ
[4] เงื่อนไขความสำเร็จของรัสเซีย
สำหรับในตอนนี้ จะกล่าวถึง [5] การตอบโต้ที่เป็นไปได้ของสหรัฐและชาติตะวันตกอื่นๆ
“ประเทศยูเครนที่ปรารถนาจะสู้เพื่อตนเอง เป็นยูเครนที่สมควรให้การสนับสนุน”
กุญแจหลักที่ใช้ป้องกันไม่ให้มอสโกได้ชัยอย่างรวดเร็ว ได้แก่
[1] การแทรกแซงหรือคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ
[2] การโดดเดี่ยวรัสเซียทางการเมืองออกจากชาติตะวันตก และ
[3] การสนับสนุนการจลาจลหรือก่อกบฏเพื่อรับมือกับกองทัพรัสเซีย
เป้าหมายของวอชิงตันสำหรับปฏิบัติการต่อยูเครนในคราวนี้ ควรเป็น “การลงโทษ” มากกว่าจะเป็น “การปฏิเสธ”
การป้องปรามผ่านการปฏิเสธ (Deterrence by denial) อาศัยการป้องกันฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ลงมือได้ เช่น ป้องกันไม่ให้มีการเข้ายึดครองพื้นที่, ทำให้การยึดพื้นที่เกิดขึ้นไม่ได้ หรือไม่น่าจะสำเร็จ
ปธน.ไบเดน ประกาศแล้วว่าจะไม่มีการส่งกองกำลังทหารจากสหรัฐหรือยุโรปเข้าไปในยูเครน เนื่องจากยูเครนไมได้เป็นสมาชิกของนาโต้ กองกำลังของยูเครนไม่มีความสามารถจะป้องกันการรุกคืบอย่างรวดเร็วของกองทัพรัสเซีย
ขณะที่ การป้องปรามผ่านการลงโทษ (Deterrence by punishment) อาศัยการป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามลงมือได้ ผ่านทาง “ต้นทุน” ที่สูงเกินไป ไม่ว่าจะเป็นอาวุธนิวเคลียร์, การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หรือการจลาจล วิธีการแบบนี้เป็นไปได้ หากสหรัฐเสนอตัวเป็นผู้นำ
สหรัฐและพันธมิตรยุโรปควรสื่อสารทั้งทางลับและทางแจ้งกับมอสโก เพื่อแสดงให้เห็นว่า การโจมตียูเครนจะทำให้เกิดการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก, จะทำให้รัสเซียโดนโดดเดี่ยวจากชาติตะวันตก และเผชิญหน้ากับการจลาจลต่อต้านกองกำลังของรัสเซีย ที่มีชาติตะวันตกเป็นผู้หนุนหลัง
ในการนี้สหรัฐจะต้องเป็นผู้นำ เพราะชาติยุโรปหลายชาติ เช่น เยอรมนีและออสเตรีย อาจจะอยากวางตัวเป็นกลางมากกว่า
หากการป้องปรามล้มเหลว และรัสเซียส่งกองกำลังเข้ารุกรานยูเครน สหรัฐและชาติพันธมิตร ควรใช้มาตรการต่างๆ เหล่านี้ในทันที
[1] คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงินต่อรัสเซีย ซึ่งรวมทั้งการตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบการจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ครอบคลุมทั้งโลกที่เรียกว่า สวิฟต์ (SWIFT)
[2] ประกาศใช้พระราชบัญญัติการให้ยืม-ให้เช่าศตวรรษที่ 21 (Twenty-First Century Lend-Lease Act) เพื่อจัดหายุทโธปกรณ์ให้กับยูเครนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สิ่งที่ควรจัดให้มีลำดับความสำคัญต้นๆ ได้แก่ ระบบต่อต้านอากาศยาน, ระบบต่อต้านรถถัง และระบบต่อต้านเรือรบ; ระบบต่อสู้ทางอิเล็กทรอนิกส์และระบบป้องกันตนเองทางไซเบอร์; อาวุธขนาดเล็กและลูกปืนใหญ่, น้ำมันและน้ำมันหล่อลื่น; อาหารสำหรับปันส่วน; การสนับสนุนทางการแพทย์; ความจำเป็นอื่นๆ ทางการทหารที่ช่วยให้สู้รบได้.
ความช่วยเหลือเหล่านี้ทำได้ผ่านวิธีการต่างๆ ด้วยความสนับสนุนจากกองทัพสหรัฐ ซึ่งก็รวมทั้งปฏิบัติการพิเศษ หรือการช่วยเหลือในทางลับที่ ปธน. สหรัฐ เป็นผู้สั่งการ และนำโดย CIA
[3] การให้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรองกับยูเครน เพื่อรบกวนการติดต่อและส่งกำลังบำรุงของรัสเซีย รวมไปถึงการเตือนการโจมตีทางอากาศ และการโจมตีแบบสะเทินน้ำสะเทินบก และตำแหน่งของกองกำลังสำคัญทั้งหมด
[4] เสนอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับยูเครน เพื่อรับมือกับผู้ลี้ภัย ความช่วยเหลือรูปแบบนี้อาจต้องขยายไปยังพันมิตรนาโต้ชาติต่างๆ ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน
[5] ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ, รวมทั้งด้านพลังงานให้กับยูเครน และชาติพันธมิตรนาโต้ควรเตรียมพร้อมรับมือการตัดการส่งก๊าซของรัสเซียไปยังยุโรป
[6] การดำเนินการทางการทูตสำหรับสาธารณะ และการถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ ไปยังยูเครนและทั่วทั้งโลก รวมทั้งในรัสเซีย เพื่อฉายภาพให้เห็นอย่างเที่ยงตรงว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
[7] ใช้แรงกดดันทางการทูตต่อเบลารุส เพื่อให้ปฏิเสธไม่ให้รัสเซียใช้พื้นที่ของตนช่วยในการโจมตียูเครน เรื่องนี้สำคัญยิ่งยวด เพราะการปล่อยให้รัสเซียใช้เส้นทางรถไฟและถนนในเบลารุส คุกคามต่อกลยุทธ์การเคลื่อนกำลังพลทางเขตแดนติดต่อด้านเหนือของยูเครน
[8] จัดให้มีองค์กรที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐบาล และศาลอาชญากรสากล เข้าเก็บหลักฐานอาชญากรรมสงครามต่อพลเมืองชาวยูเครน และนำมาใช้ดำเนินการเพื่อเยียวยาทันทีที่สงครามยุติลง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวซีเรียไม่ควรเกิดขึ้นอีก
ในตอนหน้า เราจะมาสรุปเรื่องมุมมองและข้อเสนอเรื่อง การตอบโต้ที่เป็นไปได้ของสหรัฐและชาติตะวันตกอื่นๆ ให้จบครับ
อ่านย้อนหลังบทความในชุดนี้ได้จาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา