4 เม.ย. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เทรนด์การลงทุนที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นการลงทุนในบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
KAsset เองก็เห็นความสำคัญกับเทรนด์นี้ และมีกองทุนที่ลงทุนในบริษัทเหล่านี้
ทั้งกองทุนช่วยโลก
  • K-CHANGE-A(A) ตัวดังที่หลายๆ คนคุ้นเคย กับกองทุน
  • K-CLIMATE ที่เน้นไปที่ปัญหา Climate Change
K-CHANGE กับ K-CLIMATE 2 กองทุนรักษ์โลกแตกต่างกันอย่างไร
ซึ่งทั้ง 2 กองทุน ลงทุนต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ถึงจุดเด่นที่แตกต่างกันและแต่ละกองทุนเหมาะกับนักลงทุนแบบไหนบ้าง ไปติดตามกันเลย
มาเริ่มกันที่นโยบายการลงทุน ทั้ง 2 กองทุนแม้จะดูช่วยโลกคล้ายกัน
แต่ธีมการลงทุนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน
โดยกองทุน K-CHANGE-A(A) ลงทุนผ่านกองทุนหลักที่ชื่อว่า Baillie Gifford Positive Change Fund (GBP) ที่เน้นลงทุนหุ้นกลุ่ม Growth Stock ในบริษัททั่วโลกที่สร้างผลเชิงบวกกับโลก (Positive Impact) ใน 4 ด้าน เพื่อให้โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น ได้แก่
✅ ด้านสิ่งแวดล้อม
✅ ด้านการดูแลสุขภาพ และคุณภาพชีวิต
✅ ด้านสังคม และด้านการศึกษา
✅ ด้านการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางสังคม
ส่วนกองทุน K-CLIMATE จะลงทุนผ่านกองทุนหลัก LO Funds - Climate Transition (USD) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นคุณค่า (Value) และหุ้นเติบโตสูง (Growth) ในบริษัททั่วโลกที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเน้นเฉพาะปัญหาด้าน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หรือโลกร้อน เป็นหลัก
เปรียบเทียบนโยบายการลงทุน
ต่อมาเราไปดูตัวอย่างบริษัทที่แต่ละกองทุนเข้าไปลงทุนกันดีกว่า เพื่อให้เราเข้าใจกันอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ว่าแต่ละกองทุนมีตัวอย่างหุ้นที่ลงทุนอะไรบ้าง
หุ้นบริษัทเด่นๆ ที่กองทุน K-CHANGE-A(A) เข้าไปลงทุน ได้แก่
✅ Tesla บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าชั้นนำของโลก
✅ Moderna บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและเวชภัณฑ์ที่สามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ถึง 94.5%
✅ TSMC บริษัทผู้ผลิต Semiconductor ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่ใช้นวัตกรรมล้ำสมัยมาช่วยลดต้นทุนในการผลิต
ส่วนหุ้นบริษัทเด่นๆ ที่กองทุน K-CLIMATE เข้าไปลงทุน ได้แก่
✅ Cummins บริษัทออกแบบและผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์พลังงานก๊าซธรรมชาติและไฮโดรเจน
✅ Steel Dynamics ผู้ผลิตเหล็กที่นำเหล็กเก่ามาผลิตใหม่ ลดการปล่อย Co2 ได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมถึง 88%
✅ Nextera Energy ผู้นำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานธรรมชาติ ที่ตั้งเป้ายกเลิกการใช้ฟอสซิลในปี 2565
ตัวอย่างหุ้นของแต่ละกองทุน
เมื่อทราบถึงรายละเอียดกองทุนกันแล้ว แต่ถ้าบางคนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรลงทุนกองทุนไหนดี เราจะมาช่วยสรุปให้ง่ายขึ้นว่ากองทุนไหนเหมาะกับใคร
กองทุน K-CHANGE-A(A) เหมาะกับผู้ที่เห็นโอกาสของการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่ให้ผลตอบแทนที่ดี พร้อมกับได้สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อมในหลายๆ ด้านไปพร้อมกัน
ส่วนกองทุน K-CLIMATE จะเหมาะกับผู้ที่เน้นลงในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตและมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เน้นปัญหา Climate Change เป็นหลัก เพื่อนำไปสู่การลดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
กองทุนไหนเหมาะกับใครบ้าง?
มาถึงตอนนี้หลายๆ คนคงจะเข้าใจถึงความแตกต่างของกองทุนรักษ์โลกทั้ง 2 กองทุนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว หากใครที่สนใจอยากจะลงทุนในกองทุนรักษ์โลกทั้ง 2 กองทุน ก็อย่าลืมโหลดแอป K-My Funds ติดมือถือของเราเอาไว้
เพราะแอปนี้ทำได้ทั้งเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชม. อยู่ที่ไหนก็ลงทุนได้ตลอดเวลา พร้อมอัปเดตข่าวสารแวดวงการลงทุนทั่วโลก แนะนำกองทุนน่าสนใจ และฟีเจอร์ค้นหากองทุนพร้อมช่วยจัดพอร์ตกองทุนให้ตรงสไตล์ของเรา ช่วยให้การลงทุนในกองทุนรักษ์โลกของเราง่ายขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งเลยทีเดียว
เลือกกองทุนไหน ก็ลงทุนได้ง่ายๆ ด้วยแอป K-My Funds
📌 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุน K-CHANGE-A(A) เพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3N5iBaO
📌 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุน K-CLIMATE เพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/35ZHGD6
📲 สนใจลงทุน เริ่มต้นเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds ตลอด 24 ชม.
#KAsset #KAsset
โฆษณา