23 มี.ค. 2022 เวลา 06:32 • การศึกษา
1) ผมมองว่า น่าจะเริ่มจาก การศึกษาบทสนทนา หรือ dialogues ใน “วงการ” ที่คุณสนใจก่อนครับ
เช่น ถ้าคุณทำงานในกลุ่มธุรกิจ “อาหารและเครื่องดื่ม” คุณก็ ศึกษา เรื่อง “ภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจบริการอาหารและเครื่องดื่มในภัตตาคารและโรงแรม” จากหนังสือหรือบน Youtube ซึ่งมีสอนฟรีๆอยู่พอสมควรครับ
คุณจะได้เรียนรู้ “ศัพท์” ที่เกี่ยวข้องในวงการนั้นๆ เช่น ชื่อผักผลไม้และเนื้อสัตว์ต่างๆ, พวกชื่อไวน์และเครื่องดื่มที่ทั้งมีและไม่มีแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆเป็นต้น
คุณจะได้เรียนรู้ “คำถาม” และ “คำตอบ” ที่ “มักจะถูกใช้” ในวงการนั้นๆ
เช่น ถ้าลูกค้าในร้านอาหารถามคุณก่อนสั่งอาหารว่า
“Is it Gluten-free?”
คุณก็ควรรู้ว่า “Gluten-free” หมายถึงอะไร?
หรือถ้าคุณทำงานในร้านขายอุปกรณ์ IT แล้วลูกค้าถามคุณเกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งว่า
“I am using Windows 7 on my laptop. Can I use this flash drive with it? Is it backward compatible?”
คุณก็ควรรู้ว่า “backward compatible” หมายถึงอะไร?
“ในแต่ละสายงาน มีคำศัพท์เฉพาะ เป็นของตัวเอง”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
2) นี่แค่ “ไข่ดาว”
ชาวตะวันตก แบ่งประเภทไข่ดาวไว้ดังนี้ครับ
2.1) sunny side up: ไข่แดงอยู่ด้านบนตลอด โดยไม่มีการพลิกด้าน ตั้งแต่ต้นจนจบ
2.2) over easy: ไข่ถูกพลิกด้าน โดยไข่แดงยังเป็น “ลาวา”
2.3) over medium: ไข่ถูกพลิกด้าน และไข่แดงสุกมากขึ้น แต่ยังพอเป็น
“ลาวา”
2.4) over well: ไข่ถูกพลิกด้าน และไข่แดงสุกจัด ไม่เป็น “ลาวา” เลย
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
3) ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นเพราะเป็นคนชอบรถยนต์
ทุกวันนี้พยายามดูคลิปรถยนต์ที่เป็นภาษาญี่ปุ่น ถึงฟังได้ไม่หมด ก็ยังได้ทบทวนศัพท์ที่เคยเรียนมาแล้ว
และยิ่งไปกว่านั้น ความชื่นชอบรถยนต์ของผมไม่มีวันเสื่อมคลาย ไม่ว่าภาษาต่างประเทศของผมจะพัฒนาช้าเร็วแค่ไหนเพียงใด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
4) ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เราต้องมีทั้ง
“passion & patience”
โฆษณา