รู้เรื่องสัตว์ ๆ ตอนที่ 26 | สัตว์ในโลกของมักเกิล🌎 vs สัตว์วิเศษในโลกเวทย์มนต์🪄
จากตอนที่แล้วที่เราพูดถึง Biomimicry ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มนุษย์ได้รับแรงบันดาลใจในการเลียนแบบสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติและสร้างสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ
และสำหรับตอนนี้ก็เป็นการเลียนแบบสัตว์ตามธรรมชาติและสรรสร้างเป็น ‘ตัวละคร’ ในจักรวาลเวทย์มนต์อย่าง Fantastic Beast ซึ่งภาคที่ 3 ของซีรี่ย์นี้กำลังจะเข้าฉายในสัปดาห์นี้ค่ะ
ตัวอย่างสัตว์วิเศษที่ปรากฎในหนังและหนังสือ https://www.deviantart.com/angelaxiii/art/Fantastic-Beast-Sheet-808500276
ก่อนอื่นเลยออกตัวตรงนี้ ว่าเป็นติ่งจักรวาลย์เวทย์มนต์มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ เฝ้ารอจะเขียนตอนนี้มานานมาก 🤣
หลังจาก Harry Potter จบไปก็ดีใจมากๆ ที่ซีรี่ย์ Fantastic Beast ถูกสร้างขึ้น เพราะส่วนตัวชื่นชอบสัตว์อยู่แล้วโดยการสร้างภาพยนต์ชุดนี้ขึ้น ทำให้สัตว์วิเศษ🦄ที่เคยถูกกล่าวถึงในจักรวาล Harry Potter ทั้งในหนังสือและในภาพยนต์ ได้มีโอกาสออกมาโลดแล่นโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
สำหรับตอนนี้ก็คงจะไม่ได้บรรยายละเอียดว่าสัตว์ตัวไหนมีความสามารถอะไรยังไง เพราะคนที่สนใจก็คงจะไปหาอ่านกันได้ในหนังสือ Fantastic Beast and Where to Find Them ไม่ก็ไปหาดูจากในหนังได้ค่ะ
แต่เราจะพามาถอดบทเรียนว่า เค้านำไอเดียความคิดในการออกแบบตัวละครโดยได้รับแรงบันดาลใจอะไรจากสัตว์ที่มีอยู่จริงในโลก (มักเกิล) ของเราบ้าง
โดยหากใครเป็นแฟนของโลกแห่งเวทย์มนต์ก็จะเห็นว่าหลาย ๆ อย่างในเรื่องถูกแต่งขึ้นโดยเทียบเคียบกับโลกปกติของเราเพื่อให้สามารถจินตนาการและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
แต่ในโลกเวทย์มนต์อะไรที่เป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของการสร้างเรื่องราวในโลกเวทย์มนต์ขึ้น🪄
ไม่ว่าจะเป็นการมีอยู่ของกระทรวงเวทย์มนต์ มือปราบมารที่ก็คงจะเหมือนกับตำรวจในโลกเรา มีพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายของกินของใช้ที่จำเป็นให้กับเหล่าพ่อมดแม่มด🧙♀️🧙♂️
มีคุณครูและโรงเรียนที่สอนวิชาความรู้ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในโลกเวทย์มนต์ อย่างวิชาปรุงยาก็อาจจะเทียบได้กับวิชาเคมีของมักเกิล ที่ผสมนั่นผสมนี่เพื่อพิสูจน์การทดลองทางวิทยาศาสตร์🧪 วิชาพละของเค้าก็ไม่เรียนบาสหรือวอลเลย์อย่างเราแต่เรียนขี่ไม้กวาดเล่นควิชดิชไปเลย
และอีกหนึ่งวิชาอย่าง “การดูแลสัตว์วิเศษ” ก็เป็นหนึ่งในวิชาที่พ่อมดแม่มดต้องเรียนกันในโรงเรียน ซึ่งคงคล้ายๆ วิชาชีววิทยาหรือสัตววิทยาที่ถูกสอดแทรกอยู่ในวิชาต่าง ๆ ของมักเกิลอย่างเรา ๆ
โดยในคณะวิทยาศาสตร์ของมักเกิลมีสาขาวิชาสัตววิทยา หรือ zoology เป็นศาสตร์ในการศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ ขณะเดียวกันโลกเวทย์มนต์ก็มี Magizoology เป็นศาสตร์แห่งการศึกษาเกี่ยวกับเหล่าสัตว์วิเศษในโลกเวทย์มนต์เช่นกัน
เรามี 'taxonomy' เป็นศาสตร์ในการจัดจำแนกสัตว์ตามลักษณะภายนอกและวิวัฒนาการโดยมีการใช้การพิสูจน์ DNA เข้ามาช่วย ส่วนโลกของสัตว์วิเศษนั้นกระทรวงเวทย์มนต์จัดจำแนกสัตว์วิเศษตาม ‘ระดับความอันตราย’ ค่ะ โดยแบ่งเป็น 5 ระดับ ดังนี้
ระดับ 5 (XXXXX) – สัตว์วิเศษอันตรายระดับเพชรฆาต ไม่สามารถฝึกหรือเลี้ยงในบ้านได้
ระดับ 4 (XXXX) - สัตว์วิเศษที่อันตรายต้องใช้ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญและนักสัตว์วิเศษที่มีทักษะสูงรับมือ
ระดับ 3 (XXX) - ไม่ถึงกับอันตราย พ่อมดแม่มดที่มีความสามารถทั่วไปสามารถรับมือได้
ระดับ 2 (XX) - ไม่มีอันตราย เลี้ยงไว้ในบ้านได้
ระดับ 1 (X) – น่าเบื่อ
โดยในตอนนี้จะขอเขียนถึง สัตว์วิเศษ 5 ชนิด ที่ถูกพบใน 5 ทวีปทั่วโลก และมาดูกันค่ะว่าสัตว์วิเศษแต่ละชนิดเหล่านี้มีรูปร่างหน้าตา ถิ่นที่อยู่และการใช้ประโยชน์ที่ใกล้เคียงกับสัตว์ชนิดไหนในโลกของมักเกิลบ้าง
สัตว์วิเศษจากเอเชีย:
เดมิไกส์ (demiguise) | ความอันตรายระดับ 4 (XXXX)
เดมิไกส์พบได้ในตะวันออกไกล ได้แก่ เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเอง กินพืชเป็นอาหาร รักสงบ แต่หากรู้สึกว่าโดนคุกคามก็อาจดุร้ายและกัดได้
ลักษณะภายนอกมีขนสีเงินยาวเหมือนแพรไหมดวงตากลมโตที่ฉายแววละห้อย หน้าตาคล้ายลูกผสมระหว่างสล็อต🦥กับอุรังอุตัง 🦧ซึ่งส่วนตัวมองว่าขนยาวสลวยของเดมิไกส์นั้นคล้ายกับสล็อทจริง ส่วนความว่องไวกับท่าทางการเดินนั้นคล้ายกับอุรังอุตัง
แต่หากพูดถึงหน้าตาต้องบอกว่าบนเกาะบอร์เนียวและสุมาตรามีสัตว์ชนิดนึงที่มีดวงตากลมโตและขนสีเงินคล้ายเดมิไกส์มาก สัตว์ชนิดนั้นก็คือ Horsfield’s Tarsier หรือ ทาร์เซียร์ตะวันตก (Cephalopachus bancanus)
https://www.worldlandtrust.org/news/2016/11/9-fantastic-beasts-where-find/
‘เดมิไกส์’ สัตว์วิเศษจากโลกเวทย์มนต์นั้น สามารถล่องหนหายตัวได้ ดังนั้นขนและผิวหนังจึงมีราคาสูงมาก แต่การจะจับเดมิไกส์ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเดมิไกส์สามารถมองเห็นอนาคตได้ ดังนั้น หากจะจับก็ต้องทำสิ่งที่คาดเดาไม่ได้โดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่ง่ายเลย
ส่วน ‘Horsfield’s Tarsier’ ของโลกมักเกิล เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กในอันดับไพรเมตมีเบ้าตาขนาดใหญ่มากไว้สำหรับหาเหยื่อจำพวกแมลงในเวลากลางคืน
และยังสามารถหมุนคอได้ถึง 180 องศา เพื่อชดเชยความสามารถในการกรอกตา มีกระดูกข้อเท้าหลังที่ยาวใช้ในการกระโดดและสามารถกระโดดได้ไกลและว่องไวเหมือนกบ มีนิ้วมือเรียวยาวและเล็บแบน
แต่ Horsfield’s Tarsier ก็ไม่ได้เก่งกาจแบบเดมิไกส์เพราะปัจจุบัน IUCN จัดให้ Horsfield’s Tarsier อยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (VU) เนื่องจากการสูญเสียที่อยู่อาศัยกลายเป็นปาล์มน้ำมัน และยังเป็นเหยื่อของการค้าสัตว์ป่าผิดกฏหมายอีกด้วย🥺
สัตว์วิเศษจากออสเตรเลีย:
บิลลีวิก (Billywig) | ความอันตรายระดับ 3 (XXX)
www.reddit.com
‘บิลลีวิก’ สัตว์วิเศษจากโลกเวทย์มนต์นั้น เป็นแมลงขนาดประมาณครึ่งนิ้ว สีน้ำเงินสด แต่สิ่งที่ต่างจากแมลงในโลกมักเกิลแบบสุดๆ เลยก็คือปีกไม่ได้อยู่บนลำตัวแต่ปีกติดอยู่บนหัวคล้ายใบพัดของเฮลิคอปเตอร์🚁
ดังนั้นเวลาบินจะดูเหมือนกำลังหมุนตัวอยู่ตลอดเวลาสามารถบินเร็วเทียบเท่ากับลูกโกลเด้นสนิชเลยทีเดียว ดังนั้นจึงยากที่จะสังเกตเห็น
มีเหล็กในที่แหลมคมหากโดนต่อยจะเวียนหัวและทำให้ตัวลอยได้ เหล็กในแห้งของบิลลีวิกสามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบในยาได้
มาดูโลกของมักเกิลกันบ้างว่ามีแมลงอะไรที่คล้ายบิลลีวิกบ้าง (ยกเว้นตรงปีกกลางหัวอ่ะนะ)
https://www.worldlandtrust.org/news/2016/11/9-fantastic-beasts-where-find/
แล้วก็ต้องพบว่าใน Sierra Gorda ประเทศเม็กซิโกมีผึ้งกล้วยไม้ (orchid bee) ชนิดหนึ่งซึ่งลำตัวแวววาวดุจดั่งเกราะสีเขียวคล้ายกับบิลลีวิกมาก แต่ในเรื่องสีสันและถิ่นที่อยู่ยังต่างกันอยู่
และเมื่อลองไปหาข้อมูลต่อว่าในออสเตรเลียมีผึ้งสีน้ำเงินมั้ยแล้วก็พบว่ามี โดยผึ้งชนิดนั้นก็คือ amegilla walker เป็นผึ้งดั้งเดิมที่พบทั่วทวีปออสเตรเลีย ยกเว้นแต่ที่แทนซาเนีย เป็นผึ้งสันโดษที่ไม่สร้างน้ำผึ้งแต่ก็ช่วยผสมเกสรให้กับพืชดั้งเดิมของออสเตรเลียหลายชนิด ลำตัวมีสีน้ำเงินสลับดำสวยงาม💙🐝
Nick Volpe Wildlife Photography via. https://www.facebook.com/samrujlok/posts/10158613105912226/
สัตว์วิเศษจากแอฟริกา:
อีรัมเพนท์ (Erumpent) | ความอันตรายระดับ 4 (XXXX)
https://www.imdb.com/title/tt3183660/mediaviewer/rm2082358272/
เทียบกับสองตัวก่อนหน้านี้ 'อีรัมเพนท์' เป็นสัตว์วิเศษที่ไม่ต้องสืบเลยว่าเหมือนสัตว์ในโลกมักเกิลตัวไหน ก็เหมือน 'แรด' ซะขนาดนั้น
โดยในหนังสือสัตว์วิเศษฯ ได้นิยามเกี่ยวกับอีรัมเพนท์ว่าเป็นสัตว์วิเศษแอฟริกันสีเทาขนาดใหญ่ที่มีพลังมหาศาล มีน้ำหนักมากถึงหนึ่งตัน มีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าฮิปโปถึงห้าเท่าและหากมองไกลๆ อาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแรดได้
อีรัมเพนท์มีหนังหนาที่ขับไล่มนต์เสน่ห์และคำสาปได้ มีเขาที่แหลมคมอยู่ตรงจมูกและมีหางที่ยาวเหมือนเชือก ให้กำเนิดลูกครั้งละ 1 ตัว
ปกติแล้วอีรัมเพนท์จะไม่โจมตีก่อนเว้นแต่ถูกกระตุ้นและหากถูกอีรัมเพนท์พุ่งเข้าใส่ผลลัพธ์ก็คือ...หายนะ
เพราะเขาของอีรัมเพนท์สามารถเจาะได้ทุกอย่างตั้งแต่ผิวหนังไปจนถึงโลหะ เพราะในเขานั้นมีของเหลวอยู่ซึ่งหากวัตถุที่ถูกปล่อยของเหลวนี้เข้าไปก็จะเกิดการระเบิดตู้มต้ามได้💣
เขา ของเหลวในเขา และหางจองอรัมเพนท์ล้วนถูกใช้ในการปรุงยา โดยจัดอยู่ในประเภทวัสดุอันตรายและต้องอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด ปัจจุบันอีรัมเพนท์มีจำนวนประชากรไม่มากนักเนื่องจากในช่วงฤดูผสมพันธุ์ ตัวผู้มักสู้กันจนถูกระเบิด (ซะงั้น)
🦏ส่วน ‘แรดแอฟริกา’ ของโลกมักเกิลนั้น มีด้วยกัน 2 ชนิดคือ แรดขาว (Ceratotherium simum) เป็นแรดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และแรดดำ (Diceros bicornis)
ปัจจุบัน IUCN จัดให้แรดดำมีสถานะ ‘ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง’ และแม้ว่าในช่วงปี 2012-2018 จำนวนประชากรแรดดำจะเพิ่มขึ้นจาก 4,845 ตัวในปี 2012 มาที่ (ประมาณ) 5,630 ตัวในปี 2018 แต่ก็ยังหนีไม่พ้นวิกฤตการสูญพันธุ์ และแน่นอนว่าสาเหตุการนั้นหนีไม่พ้นการล่า
และจากสถานการณ์ปัจจุบัน ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นักอนุรักษ์เป็นกังวลว่า การอนุรักษ์แรดอาจทำได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากรายได้จากการท่องเที่ยวอันเป็นต้นทุนที่นำมาใช้ในงานอนุรักษ์ลดน้อยลงตามไปด้วย
ปัจจุบัน แรดทั่วโลกถูกล่าเพื่อเพราะความเชื่อที่ว่านอแรดสามารถเป็นยาแผนโบราณชั้นดีได้และนอกจากจะเป็นยาแล้วยังแสดงถึงความมั่งคั่งและอำนาจ
หากความเชื่อเหล่านี้ยังไม่ถูกเปลี่ยน ไม่แน่ว่าในอนาคตสัตว์ที่เรียกว่า ‘แรด’ จะกลายเป็นแค่ชื่อเรียกและหาดูได้ตามในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น
นี่ถ้าแรดของมักเกิลมีของเหลวในนอที่ระเบิดได้คงไม่ใกล้สูญพันธุ์อย่างทุกวันนี้ (หรือจะระเบิดพวกเดียวกันเองก็ไม่รู้นะ😅)
Thomas Dutour/Shutterstock.com via. https://www.worldatlas.com/articles/what-are-rhino-horns-made-out-of.html
สัตว์วิเศษจากอเมริกา:
ธันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird) | ความอันตรายระดับ 4 (XXXX)
ธันเดอร์เบิร์ดเป็นสัตว์วิเศษชั้นสูงที่พบได้เฉพาะในอเมริกาเหนือ และพบมากที่สุดในแอริโซนา เป็นนกขนาดยักษ์แต่จุดที่ต่างจากนกทั่วไปก็คือ ธันเดอร์เบิร์ด มีปีก 3 คู่!
http://hogwartsthai.com/forum/lofiversion/index.php?t17915.html
โดยปีกแต่ละคู่มีขนาดใหญ่และจะส่องประกายระยิบระยับยามเจอกับแสงอาทิตย์ เมื่อกางปีกเต็มที่มีขนาดถึง 12 เมตร หรือมากกว่านั้น เมื่อโตเต็มวัยจะสูงกว่ามนุษย์ ส่วนหัวคล้ายนกอินทรีย์หรือฮิปโปกริฟท์ เป็นญาติห่างๆ กับนกฟินิกซ์
สามารถสร้างพายุได้ในขณะที่สยายปีกบินและสามารถสัมผัสถึงอันตรายเหนือธรรมชาติได้อีกด้วย ขนสามารถทำเป็นแกนกลางของไม้กายสิทธิ์ได้แต่เป็นแกนกลางที่ควบคุมได้ยาก
ส่วนหัวและหงอนอันสง่างามของธันเดอร์เบิร์ดนั้นมีความคล้ายคลึงกับ 'Harpy Eagle' 🦅ซึ่งเป็นหนึ่งในนกนักล่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่นอกจากรูปร่างหน้าตาทั้งขนาดและที่อยู่อาศัยก็ค่อนข้างต่างจากเหยี่ยวฮาร์ปี้ที่มีกรงเล็บยาวเพียง 3-4 นิ้ว และปีกกว้างไม่เกิน 2 เมตร (และแน่นอนว่ามีปีกคู่เดียว)โดยสามารถพบได้ในอเมริกาใต้ใน บราซิล เอกวาดอร์ และปารากวัย
https://www.worldlandtrust.org/news/2016/11/9-fantastic-beasts-where-find/
สัตว์วิเศษจากยุโรป:
นิฟเฟลอร์ (Niffler)| ความอันตรายระดับ 3 (XXX)
https://www.worldlandtrust.org/news/2016/11/9-fantastic-beasts-where-find/
'นิฟเฟลอร์' เป็นสัตว์วิเศษพื้นเมืองของอังกฤษ มีขนสีดำและจมูกกลมยาว เป็นสัตว์นักขุดตัวเล็กที่คล่องแคล่วว่องไว ชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่มีแสงระยิบระยับและมักคว้าหรือขโมยวัตถุเปล่งแสงทุกชนิดที่เตะตาและเก็บสมบัติเหล่านั้นเอาไว้ในกระเป๋าหน้าท้อง
และแม้จะดูอ่อนโยนน่ารัก แต่ตามไล่ล่าวัตถุเปล่งแสงเหล่านั้นนิฟเฟลอร์ก็จะกลายเป็นจอมทำลายล้างได้ ดังนั้น นิฟเฟลอร์จึงไม่เหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน
ส่วนสัตว์ของโลกมักเกิลที่ดูแล้วใกล้เคียงกับเจ้านิฟเฟลอร์ก็คือ ‘ตุ่นปากเป็ด’ (platypus) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ออกลูกเป็นไข่ของทวีปออสเตรเลีย จากการที่มีปากที่เป็นแผ่นแข็งและลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสองชั้น
ยกเว้นแต่ตรงเท้าซึ่งเท้าคู่หน้าคู่หน้าของตุ่นปากเป็ดจะเป็นพังผืดติดกันทุกนิ้วใช้ในการว่ายน้ำ ในขณะที่เท้าของนิฟเฟลอร์คล้ายกับเท้าของตุ่นที่เหมาะกับการขุดมากกว่า
อ่อแล้วความสามารถในการเก็บสมบัติในถุงหน้าท้องของนิฟเฟลอร์ก็ชวนให้นึกถึงนากทะเลที่มีผิวหนังที่ยื่นออกมาเป็นถุงใต้รักแร้ไว้สำหรับเก็บก้อนหิน🦦
จบไปแล้วกับสัตว์วิเศษ 5 ตัวจาก 5 ทวีป แต่ขอแถมอีกสัตว์วิเศษอีกหนึ่งชนิดที่จะสะท้อนทั้งแง่ที่น่าขำและน่าเศร้านั่นก็คือเจ้านก ‘ดิริคอว์ล (Diricawl)’
โดยในหนังสือสัตว์วิเศษฯ ได้พูดถึงนกชนิดนี้ว่าเป็นนกมีถิ่นกำเนิดที่เกาะมอรีเชียสทางตะวันตกของมหาสมุทรอินเดีย มีรูปร่างอ้วนกลมมีขนสีฟ้าอมชมพูปกคลุมทั่วร่าง บินไม่ได้แต่สามารถหายตัวจากที่หนึ่งไปยังอีกที่ได้ หรือที่มักเกิลรู้จักในชื่อ ‘นกโดโด้’🦤
การดิริคอว์ลของโลกเวทย์มนต์ หรือนกโดโด้ของมักเกิลหายตัวได้ ทำให้มักเกิลเข้าใจผิดคิดว่าโดโด้สูญพันธุ์ไปแล้ว
สมาพันธ์พ่อมดนานาชาติไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะเปิดเผยความจริงให้มักเกิลรู้ว่าดิริคอร์ล (หรือโดโด้🦤) ยังคงมีอยู่เพื่อให้มักเกิลเรียนรู้และตระหนักถึงผลของการล่าสัตว์ตามอำเภอใจ...
NEWT SCAMANDER
แต่อย่างที่รู้กัน ในความเป็นจริงนกโดโด้เป็นตัวอย่างของการสูญพันธุ์ก่อนเวลาอันควรซึ่งเป็นผลจากการที่มนุษย์บุกรุกถิ่นที่อยู่และล่าเพื่อบริโภคจนสูญพันธุ์
แต่ถ้าโลกเวทย์มนต์มีจริงและนกโดโด้หายตัวได้ก็คงจะดีสิ...
🙏💦ก็หวังว่าจะได้ทั้งสาระและความบันเทิงกันนะคะ สวัสดีวันสงกรานต์ล่วงหน้า และขอให้ได้พักผ่อน ได้เจอคนที่รักหรือได้ดูหนัง🎥สนุกๆ กันในช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้นะคะ 😁
อ้างอิง
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- ●
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
