11 เม.ย. 2022 เวลา 15:27 • สุขภาพ
คุณอาจกำลังถูกพวกมันบงการโดยไม่รู้ตัว!?
มารู้จักกับไมโครไบโอมในทางเดินอาหารหรือชุมชนแบคทีเรียในลำไส้ของเรากันเถอะ
ทำไมบางคนถึงมีพฤติกรรมชอบทานอาหารฟาสฟู๊ด
ทำไมบางคนถึงชอบกินผักผลไม้
ทำไมบางคนชอบทานแป้งและน้ำตาล
ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าไมโครไบโอมในทางเดินอาหารของเรานี่แหละ
มาเริ่มทำความรู้จักกับจุลชีพเหล่านี้กันก่อน
ไมโครไบโอม(Microbiome) คือ กลุ่มสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายของเรา เช่นแบคทีเรีย จุลินทรีย์ เชื้อราต่างๆ
แล้วพวกมันมาจากไหนล่ะ?
เด็กแรกเกิดได้รับจุลชีพเหล่านี้มาตั้งแต่ออกมาจากช่องคลอดของแม่
แบคทีเรียนับพันล้านตัวจะห่อหุ้มร่างกายทารกตัวน้อยไว้
ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของเด็กด้วย
การศึกษาพบว่าเด็กที่คลอดโดยการผ่าตัดโดยไม่ได้คลอดออกจากทางช่องคลอดของแม่
จะไม่มีแบคทีเรียเหล่านี้ห่อหุ้มร่างกาย และอาจทำให้เด็กไม่แข็งแรง
เสี่ยงต่อการเป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
2
ดังนั้นเหล่าแบคทีเรียเหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
แบคทีเรียบางตัวร่างกายเรายินดีรับมันเข้าสู่ร่างกายเลยเสียด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นเราจะได้รับพวกแบคทีเรีย จุลินทรีย์ต่างๆ จากน้ำนมแม่,
จากสภาพแวดล้อมต่างๆ หรือแม้กระทั่งการสัมผัสกับผู้อื่น
นั่นทำให้ไมโครไบโอมของแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันและสภาพแวดล้อม
โดยเหล่าจุลชีพพวกนี้แบ่งเป็นสามพวกหลักๆ
พวกแรก เป็นพวกที่ขอมาอยู่อาศัยในร่างกายเราเฉยๆ ไม่มีพิษมีภัยใดๆ
พวกที่สอง คือพวกเหล่าร้ายที่คอยจะเข้ามาทำอันตรายต่อร่างกายของเรา
พวกที่สาม คือพวกที่เป็นมิตรและเข้ามาทำงานในร่างกายเราเพื่อแลกกับอาหารและที่อยู่อาศัย (อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย)
1
ซึ่งเหล่าจุลชีพพวกที่สามนี้เองส่วนใหญ่จะมาอยู่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหารของเรา
ทีนี้มาถึงไมโครไบโอมในทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนของเหล่าจุลชีพที่มีความหลากหลายที่สุดในร่างกาย
พวกมันเป็นแบคทีเรียทีมีจำนวนกว่า 380,000 พันล้านตัว
จากกว่า 5,000 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา
ไมโครไบโอมในลำไส้เหล่านี้ช่วยเราย่อยอาหารและดึงพลังงานจากอาหารที่ระบบย่อยอาหารของเราไม่สามารถย่อยได้
2
แต่ในลำไส้ของเราก็เป็นจุดที่หมักหมมและเป็นชัยภูมิชั้นดีในการเข้าโจมตีจากพวกเชื้อโรคตัวร้าย
แต่เหล่าจุลชีพเหล่านี้ก็ได้รับการปกป้องจากระบบภูมิคุ้มกันของเราด้วย
1
เพื่อไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันเข้าใจผิดเผลอไปทำร้ายไมโครไบโอมในทางเดินอาหารเหล่านี้
1
พวกมันจึงวิวัฒนาการให้สามารถสื่อสารกับระบบภูมิคุ้มกันของเราได้
โดยพวกมันสามารถสื่อสารไปยังระบบภูมิคุ้มกันเพื่อร้องขอไม่ให้ฆ่าพวกมัน
(พวกเรามาดีมาทำงานให้นายนะ อย่าเข้ามาทำร้ายพวกเราเลย)
แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การศึกษาทำให้เราพบว่าความสามารถในการสื่อสารของไมโครไบโอมมันล้ำไปมากกว่านั้น
มันอาจจะพูดคุยกับสมองของเราได้โดยตรง..
การศึกษาพบว่า สารเซลาโทนิน(Seratonin)กว่า90เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญถูกผลิตในลำไส้
นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่าไมโครไบโอมในลำไส้เป็นตัวที่ผลิตมันขึ้น เพื่อที่จะสื่อสารกับไขสันหลังซึ่งเป็นทางหลวงของระบบประสาทในร่างกายของเราได้โดยตรง
การที่พวกมันสามารถสื่อสารไปที่สมองของเราได้โดยตรงนั่นหมายความว่า
พวกมันเริ่มมีอิทธิพลในพฤติกรรมของเราจริงๆ
ยกตัวอย่าง ภาวะอาการซึมเศร้า
มีการทดลองในหนูสองตัว
โดยหนูตัวแรกถูกเลี้ยงด้วยจุลินทรีย์ของคนที่เป็นภาวะซึมเศร้า
โดยหนูตัวที่สองเลี้ยงปกติ
พบว่าหนูตัวแรกที่เลี้ยงด้วยจุลินทรีย์ของคนที่เป็นซึมเศร้ามีอาการ ซึมและวิตกกังวลเกิดขึ้น
นักวิทยาศาสตร์จึงทำการศึกษาต่อไปเกี่ยวกับพฤติกรรมการทานอาหารกับไมโครไบโอมในลำไส้นั้นมีส่วนเชื่อมโยงกันหรือไม่
แล้วก็ได้พบว่าไมโครไบโอมในลำไส้ของแมลงวันส่งผลต่ออาหารที่แมลงวันโปรดปราน
นี่อาจหมายความว่า ไมโครไบโอมในลำไส้เป็นตัวกำหนดชนิดของอาหารที่เราอยากทานก็เป็นได้
ยิ่งเราทานของทอดของมันเจ้าแบคทีเรียที่ชอบทานของมันก็จะเติบโตขึ้น
ยิ่งเราทานผักผลไม้เจ้าแบคทีเรียตัวที่ชอบผักผลไม้ก็ยิ่งเติบโตขึ้น
ดังนั้นเราสามารถเลือกได้ว่า จะให้แบคทีเรียตัวที่ชอบกินของมันกับตัวที่ชอบกินผักผลไม้อยากให้ตัวไหนเติบโตมากกว่ากัน
โดยการปรับพฤติกรรมการกินของเรานั่นเอง
ต่อไปถ้าใครอยากกินของมันของทอด หรืออยู่ดีๆก็อยากกินของหวานนั่นอาจแปลว่าไมโครไบโอมที่อยู่ในลำไส้ของคุณอยากกินด้วยก็เป็นได้
ภาพประกอบจาก
โฆษณา