18 เม.ย. 2022 เวลา 11:07 • ประวัติศาสตร์
ฮ่องเต้ชิงเปรตเกิด บุญญาธิการสูงส่ง แต่ทำตัวเป็นโจรอันธพาล
ในสมัยราชวงศ์เหนือใต้ยุคมืดมน ราชวงศ์ทางใต้ ตั้งแต่ ค.ศ. 420-479 รวมเวลา 59 ปี ปกครองด้วยราชวงศ์หลิวซ่ง มีฮ่องเต้ทั้งหมด 9 องค์ ซึ่งแต่ละองค์ล้วนมีเรื่องงามไส้ด้วยกันทั้งสิ้น แต่ที่ดูจะเลวทรามยิ่งกว่าใครๆ ก็คือ หลิวอวี้ย์ซ่งโฮ่วเฟ่ยตี้ ฮ่องเต้ลำดับที่ 8 ของราชวงศ์หลิวซ่ง
หลิวอวี้ย์ซ่งโฮ่วเฟ่ยตี้ฮ่องเต้ เป็นลูกของหลิวซ่งหมิงตี้ฮ่องเต้ ย้อนกลับไปก่อนหน้า หลิวซ่งหมิงตี้เป็นอาของเฉียนเฟ่ยตี้ฮ่องเต้ ด้วยความหวาดระแวงว่าหลิวซ่งหมิงตี้จะเป็นภัยต่อราชบัลลังก์ เฉียนเฟ่ยตี้จึงได้แสดงความรักต่อผู้เป็นอาโดยสั่งให้จับหมิงตี้มาทรมานไว้ในเล้าหมู บังคับให้กินอาหารแบบหมู และยังต้องแสดงอาการมูมมามแบบหมูด้วย โดยที่เฉียนเฟ่ยตี้นั่งชมด้วยความรื่นเริงบันเทิงใจ
1
เฉียนเฟ่ยตี้องค์นี้ยังทำอะไรวิตถารอีกหลายอย่าง นับวันยิ่งทีวีความรุนแรงและเป็นอันตรายต่อคนอื่นมากขึ้น จึงถูกโซ่วจี๋จือ องครักษ์ผู้ใกล้ชิดสังหาร
พวกอำมาตย์ใหญ่จึงสุมหัวกันแล้วเชิญหลิวอี้ อดีตคนถูกขังในเล้าหมูขึ้นเป็นฮ่องเต้หลิวซ่งหมิงตี้ หมิงตี้องค์นี้เนื่องจากถูกทรมานในเล้าหมูแทบไม่เป็นคน จึงกลายเป็นหมัน ขุนศึกหลี่เต้าเอ๋อ ขุนศึกคนสำคัญที่คอยค้ำจุนบัลลังก์ให้หมิงตี้ ซึ่งหมิงตี้เกรงใจมาก จึงยกนางสนมคนหนึ่งเป็นรางวัลให้ สนมคนนี้ได้ลูกชายกับหลี่เต้าเอ๋อ นั่นก็คือหลิวอวี้ย์ หลิวอวี้ย์ถูกนำมาเลี้ยงในวัง โดยหลี่เต้าเอ๋ออุปโลกน์ให้เป็นโอรสของหมิงตี้ และสนับสนุนให้เป็นรัชทายาท
1
หลิวอวี้ย์ ได้สืบราชบัลลังก์ต่อจากหมิงตี้ เป็นฮ่องเต้เด็กในวัย10 ขวบ นามว่าหลิวซ่งโฮ่วเฟ่ยตี้ วีรกรรมของฮ่องเต้เด็กองค์นี้มีหลายอย่างล้วนเลวทรามสร้างความเดือดร้อน ดังต่อไปนี้
หลิวซ่งโฮ่วเฟ่ยตี้พาพรรคพวกรุ่นราวคราวเดียวกันหนีออกจากวังไปขี่ม้า ทำตัวเป็นโจรอันธพาลฉกชิงวิ่งราวของชาวบ้านตามใจชอบ หรือบางครั้งไม่ชอบหน้าใคร ก็ฆ่าคนนั้นเสียอย่างหน้าตาเฉย
หลิวซ่งโฮ่วเฟ่ยตี้ชอบการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ แต่การล่าสัตว์คงยังไม่หนำใจสันดานการเข่นฆ่า ฮ่องเต้เด็กเปรตจึงล่าชาวบ้านคนเป็นๆ มาทรมานเยี่ยงสัตว์สุดเวทนา ผู้คนผ่านไปผ่านมาพบเห็นต่างอกสั่นขวัญแขวน
ต่อมาเมื่อเบื่อเป็นอันธพาลนอกวัง วิญญาณนักสร้างสรรค์เข้าสิงกลายเป็นนักประดิษฐ์ของเล่น แต่เมื่อเบื่อที่จะเป็นนักประดิษฐ์ ฮ่องเต้เด็กเปรตก็หันมาพกพาอาวุธ เช่น ขวาน ค้อน เลื่อย มีด เดินเที่ยวไปตำหนักต่างๆ เมื่อพบเจอใครก็ใช้อาวุธเหล่านี้ทำร้ายร่างกายผู้นั้น จนวังหลวงเต็มไปด้วยขันทีนางกำนัลพิกลพิการง่อยเปลี้ยเสียขา และเมื่อเบื่อเป็นอันธพาลในวังก็ออกไปเล่นวิตถารนอกวังอีก
จนถึงวันหนึ่งเมื่อฮ่องเต้ผีเปรตไปเที่ยวเล่นบ้านขุนศึกเซียวเต้าเฉิง เมื่อเห็นขุนศึกเซียวนอนหลับกรนคร่อกๆ ก็นึกพิเรนทร์เล่นตามประสาคนปัญญาอ่อน ฮ่องเต้เด็กเอาเป้าธนูไปแปะไว้บนพุงของเซียวเต้าเฉิง ก่อนจะเล็งลูกธนูไปที่เป้านั้น โชคยังดีที่เซียวเต้าเฉิงดวงแข็งตื่นขึ้นมาเสียก่อน เซียวเต้าเฉิงสะดุ้งตกใจร้องโวยวาย ฮ่องเต้ผีเปรตเห็นแล้วหัวเราะชอบอกชอบใจ บอกว่าแค่ล้อเล่น
2
หลังจากนั้นมาเซียวเต้าเฉิงแค้นเคืองเป็นอย่างมาก คิดว่าถ้าปล่อยให้คนสติไม่สมประกอบอย่างนี้ไว้อาจเป็นอันตรายต่อผู้คน จึงรอเวลาและหาโอกาสกำจัดฮ่องเต้เปรตทิ้ง
ในปี ค.ศ. 477 เซียวเต้าเฉิงนำกำลังทหารเข้าปิดล้อมวังหลวง และเข้าจับกุมหลิวซ่งโฮ่วเฟ่ยตี้ที่กำลังเมาหลับ ไม่นานโอรสสวรรค์ผู้มีบุญญาธิการสูงส่งก็ถูกสังหารด้วยสุราพิษจบชีวิตในวัย 15 ปี เซียวเต้าเฉิงแต่งตั้งพระอนุชาหลิวจุ่นขึ้นเป็นฮ่องเต้ซ่งซุ่นตี้ ถัดมาอีก 2 ปี เซียวเต้าเฉิงล้มราชวงศ์หลิวซ่ง สถาปนาตนเป็นฮ่องเต้ ตั้งราชวงศ์ฉี
เซียวเต้าเฉิงฉีเกาตี้
โฆษณา