18 เม.ย. 2022 เวลา 12:07 • การศึกษา
"ไอ้แมงดา" คำด่าไทย กับความหมาย ที่มากกว่าเกาะผู้หญิงกิน
หลายครั้งที่เราคนไทย ด่าผู้ชายว่า "ไอ้แมงดา" ในบริบทที่หมายถึงทำตัวเกียจคร้าน เกาะผู้หญิงกิน แต่แท้จริงแล้ว แมงดา มีความซับซ้อนกว่านั้น โพสนี้จะเล่าเรื่องราวของแมงดา สิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ง ที่อยู่คู่โลกมานานแสนนาน
ก่อนอื่น ต้องเข้าใจถึงลักษณะแมงดาก่อน เพราะหากจะอ้างตามกฎไวยากรณ์ที่ถูกต้อง "แมง" จะต้องมี 8 ขา หรือ 10 ขา ทว่าแมงดาทะเล มี 12 ขา ส่วนแมงดานา ก็มีเพียง 6 ขา ดังนั้นคำว่า แมงดา เราอาจยังต้องถกกันในโอกาศต่อไป
แมงดา คำด่าที่เรามักได้ยิน ได้ฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็เป็นที่รู้กันอยู่ ว่ามันไม่ได้มีความหมายน่าจดจำเอาเสียเลย และส่วนใหญ่นั้นมักใช้กับผู้ชาย ผู้คนที่ไม่รู้ความหมาย อาจไม่รู้สึกอะไร ดังนั้นเราจะมา อธิบายความลึกซึ้ง ให้พอได้รู้ความหมาย กันอย่างคร่าว ๆ
มีหลายคนสงสัยว่า แมงดา ที่กล่าวถึง หมายถึง แมงดาทะเล หรือแมงดานา กันแน่ ดังนั้น เราจะไปทำความรู้จัก กับแมงดาทะเลกันก่อน ว่ามันมีไลฟ์สไตล์ ความเป็นอยู่ และมีการใช้ชีวิตอย่างไร
สายพันธุ์ของแมงดาทะเล มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ แต่ที่พบในน่านน้ำไทย มีเพียงสองสายพันธุ์เท่านั้น คือ แมงดาถ้วย หรือแมงดาไฟ กับ แมงดาจาน หรือแมงดาหางเหลี่ยม โดยชนิดแรกนั้น มีพิษค่อนข้างสูง ผู้คนไม่ค่อยนิยมกินกัน ต่างจากชนิดที่สอง คือ แมงดาหางเหลี่ยม ปัจจุบัน ถือว่าเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เนื่องจากมนุษย์ นิยมรับประทานไข่ของมันเป็นอย่างมาก
สำหรับแมงดาทะเล ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย อย่างเห็นได้ชัด และมีกระดองด้านหน้า ที่เว้าขึ้น เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ ตัวผู้จะเกาะอยู่บนหลังเพศเมีย ด้วยวิธีใช้ตะขอเกี่ยวตัวเมียเอาไว้ ตัวเมียไปไหน ตัวผู้ก็จะเกาะติด ไปด้วยทุกแห่งหน
แม้แต่ตอนวางไข่ ตัวเมีย ก็ยังมีหน้าที่ขุดหลุม และวางไข่ ส่วนตัวผู้จะทำเพียงเกาะ เพื่อรอจะปล่อยน้ำเชี้อ เข้าไปผสมอย่างเดียว เหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ จนจบฤดูกาลขยายพันธุ์ ซึ่งนี่ คือหนึ่งในที่มา ในความหมายผู้ชายเห็นแก่ตัวของ ไอ้แมงดา
สำหรับ แมงดานา เป็นแมลงสะเทินน้ำสะเทินบก จัดเป็นแมลงจำพวกมวนน้ำ พบเห็นอยู่ทั่วไป ในภูมิประเทศที่เป็นท้องทุ่ง แถบภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เอเชียตะวันออก ปัจจุบันมีฟาร์มเพาะเลี้ยง สร้างรายได้เป็นอย่างดี
อุปนิสัยของแมงดานา ที่น่าสนใจคือ แมงดาตัวผู้ จะมีกลิ่นหอมฉุน สามารถล่อเหยื่อได้เป็นอย่างดี โดยธรรมชาติของแมงดานา คือ ตัวเมียจะหลงกล กลิ่นหอมของมัน และบินมาหาตัวผู้ เมื่อเวลาผ่านไปซักระยะ แมงดาตัวผู้ ก็จะลอกคราบ (Molting) เปลี่ยนจากตัวเก่ากลายเป็นตัวใหม่ และเรียกตัวเมียรายต่อไป ตามวัฎจักร
ด้วยเหตุนี้ คนไทยสมัยโบราณ จึงเปรียบเทียบผู้ชาย ที่หากินกับผู้หญิง ทำนองค้าประประเวณี ว่าเป็นพวกแมงดา ล่อหลอกจนผู้หญิง ให้ตกเป็นเหยื่อ เมื่อสบโอกาสก็เผยธาตุแท้ และลอกคราบ เพื่อหาผู้หญิงรายต่อไป
ดังนั้นต่อไปนี้ เราจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า "ไอ้แมงดา" ที่กล่าวถึง ไม่ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในน้ำจืด หรือน้ำเค็ม ด้วยชีวิตแบบแมงดา หากเป็นมนุษย์กินข้าวแกง ยังไม่ได้กินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร มันก็ยังคง ไม่น่าพิศมัยอยู่ดี
เกร็ดความรู้ มนุษย์ค้นพบว่า เลือดของแมงดาทะเล มีสีน้ำเงิน (Hemocyanin) มันสามารถตรวจจับเชื้อแบคทีเรีย โดยโปรตีนที่สกัดได้ สามารถสกัดจับจุลชีพก่อโรค แม้มันจะมีเพียงหนึ่งในล้านส่วนก็ตาม เราเรียกสารที่สกัดชนิดนี้ว่า Limulus amoebocyte lysate (LAL)
สุดท้ายนี้ คอมเม้นท์บอกเราหน่อยครับว่า คุณรู้สึกยังไงกับแมงดา
ติดตามความรู้ซ่อนแอบ
ในแบบที่คุณไม่ต้องอาย
ย้อนหลังได้ที่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา