24 เม.ย. 2022 เวลา 13:04 • หนังสือ
เคยไหม? รู้สึกว่าต้องทำแบบนี้แหละถึงจะปังแน่นอน แต่อธิบายไม่ได้ว่าทำไม แล้วมันก็ปังปุริเย่จริงๆ ทำให้งานประสบความสำเร็จได้เงินได้ทองตามมา ความรู้สึกแบบนั้นมันก็คือ “Intuition : การหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณ หรือ การรู้โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองในใจ” นั่นเอง
สรุปหนังสือ Think & Grow Rich ตอนที่ 12
ในสัปดาห์ที่แล้วแอดได้เล่าถึงขึ้นตอนที่ 11 สู่ความร่ำรวยไปแล้ว คือเรื่องของ จิตใต้สำนึก และ การใช้อารมณ์เชิงบวกเพื่อการอธิษฐานที่ได้ผล นั่นเองค่ะ
ในสัปดาห์นี้แอดก็จะมาเล่าต่อในขั้นตอนที่ 12 ว่าด้วยเรื่องของ “ศักยภาพแห่งสมอง” ค่ะ สมองและความคิดของเรานั่นเองค่ะ ที่เป็นแหล่งขุมทรัพย์ชั้นดีของมนุษย์เราทุกคน
จากที่อ่านเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้พบว่า ความคิดและไอเดียคือสิ่งที่นโปเลียน ฮิลล์ให้ความสำคัญมากๆ จนต้องตั้งเป็นชื่อหนังสือกันเลยค่ะ คือ “Think & Grow Rich หรือ คิดแล้วรวย” นั่นเอง
1
การหยั่งรู้ การสังหรณ์ ก็เป็นเรื่องเดียวกันกับไอเดียและจินตนาการสร้างสรรค์ค่ะ ซึ่งมีที่มาจากความคิด และความคิดก็มาจากสมองของเรา ซึ่งฮิลล์ได้อธิบายทฤษฎีและเหตุผลของการเกิดขึ้นของสิ่งเหล่านี้ไว้ในบทนี้ค่ะ
ถ้าใครสนใจก็ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ!!!
ฮิลล์ได้เสนอแนวคิดว่า...สมองของมนุษย์ทุกคนเป็นทั้งสถานีส่งและรับคลื่นความคิด
ด้วยหลักการเดียวกันกับเครื่องรับวิทยุ สมองของมนุษย์ทุกคนสามารถจับคลื่นความคิดที่ปล่อยออกมาจากสมองผู้อื่นได้ (จิตสังหรณ์ และการหยั่งรู้)
อย่างที่ได้อธิบายไปแล้วในบทก่อนว่า จิตนาการสร้างสรรค์ของคุณคือ “ภาครับ” ของสมอง ซึ่งจะรับความคิดจากจิตใต้สำนึก และรับความคิดที่ออกมาจากสมองของผู้อื่นด้วย จินตนาสร้างสรรค์ของคุณคือ สะพานเชื่อมต่อระหว่างจิตสำนึก หรือความคิดที่เป็นเหตุเป็นผลกับแหล่งกำเนิดของความคิด ซึ่งมาจาก 4 แหล่งคือ
1.จิตสำนึกของคนอื่น
2.จิตใต้สำนึกของตัวคุณเอง
3.จิตใต้สำนึกของคนอื่น
4.อัจฉริยภาพแห่งจักรวาล
เมื่อจิตใจของคุณถูกกระตุ้นหรือคลื่นความคิดมีกำลังแรงขึ้น มันจะไวต่อการรับความคิดที่มาจากแหล่งภายนอกมากขึ้น ขั้นตอนที่ทำให้คลื่นความคิดแรงขึ้นนี้เกิดจากอารมณ์ทั้งเชิงบวกและลบ เราสามารถเพิ่มคลื่นความคิดให้แรงขึ้นด้วยอารมณ์
สมองที่ถูกกระตุ้นด้วยอารมณ์ จะทำงานด้วยอัตราที่เร็วกว่าเมื่ออยู่ในภาวะปลอดจากอารมณ์หรือเงียบสงบ ผลของการที่คลื่นความคิดมีกำลังแรงขึ้น ทำให้จินตนาการสร้างสรรค์ไวในการที่จะรับไอเดียต่างๆ มากขึ้น
1
ในอีกมุมหนึ่ง เมื่อสมองกำลังทำงานอย่างรวดเร็ว มันจะส่งความรู้สึกแห่งอารมณ์นั้นๆ ไปยังความคิดของคุณ ซึ่งตรงนี้เองเป็นขั้นตอนที่จำเป็นในการที่ความคิดนั้นจะถูกดึงขึ้นมาโดยจิตใต้สำนึก หรือไปมีผลต่อจิตใต้สำนึกของตัวคุณเอง
จิตใต้สำนึกเป็น “สถานีส่ง” ของสมอง ซึ่งทำหน้าที่และกระจายคลื่นความคิดออกไป การเสนอแนะตัวเองเป็นสื่อกลางที่คุณจะใช้เชื่อมการทำงานกับ “สถานีส่ง” ส่วนจินตนาการสร้างสรรค์ทำหน้าที่ “ภาครับ” ที่จับพลังงานความคิดเอาไว้
ฮิลล์บอกว่า...
ด้วยวัฒนธรรมและการศึกษาทั้งหมดที่เรามี ก็ยังคงมีความเข้าใจน้อยหรือไม่เข้าใจเลยกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นก็คือ “ความคิด”
อย่างไรก็ตาม เราได้เริ่มที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานที่ซับซ้อนของสมองมากขึ้น ผลที่ได้น่าทึ่งมาก เรารู้ว่าจุดเชื่อมต่อเส้นใยประสาทที่เปรียบเหมือนสวิตช์ควบคุมการรับส่งกระแสประสาทนั้นมีมากมายมหาศาล ถ้าเขียนออกมาเป็นจำนวนก็คือ 1 ตามด้วยเลขศูนย์อีก 15 ล้านตัวเลยทีเดียว
ตัวเลขมหาศาลนี้เทียบเป็นระยะทางนับร้อยล้านปีแสงเลยทีเดียว ในสมองส่วนหน้าของมนุษย์เรามีจำนวนเซลล์ประสาทมากถึงหนึ่งหมื่นล้านถึงหนึ่งหมื่นสี่พันล้านเซลล์ และเรายังรู้ว่าเซลล์เหล่านั้นมีการจัดเรียงตัวเป็นแบบแผนที่แน่นอน
เครือข่ายที่ซับซ้อนนี้มีหน้าที่เชื่อมโยงกัน เพื่อให้แต่ละส่วนของร่างกายทำหน้าที่และเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม ทั้งหมดนี้เป็นระบบเดียวกันกับการที่เซลล์สมองนับพันล้านเซลล์ติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้มันยังเป็นระบบที่ทำให้เกิดการสื่อสารของพลังที่จับต้องไม่ได้อื่นๆ อีกด้วย
ต่อไปนี้เป็นการรวบรวมเนื้อหาแนวคิดของนโปเลียนที่อยู่ในบทก่อนๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน
1.สมองเป็นทั้งผู้รับและผู้ส่งได้ในเวลาเดียวกัน
2.อารมณ์มีผลต่อความสามารถในการส่งและรับ
เมื่ออยู่ภายใต้ภาวะอารมณ์ที่แรงกล้า คุณจะสามารถส่งความคิดได้อย่างมีพลัง
1
เมื่ออยู่ภายใต้ภาวะอารมณ์ที่แรงกล้า คุณจะไวในการรับความคิดมากขึ้น
1
3.เมื่อคุณจะส่งความคิด จะส่งมันไปที่ไหน? คุณสามารถส่งความคิดไปยังจิตใต้สำนึกโดยใช้การเสนอแนะตัวเอง
1
4.เมื่อคุณได้รับความคิด มันมาจากที่ไหน? มันมาจากจิตใต้สำนึก และคุณรับมันผ่านจินตนาการสร้างสรรค์ของคุณ
1
5.จิตใต้สำนึกของคุณมี 2 ลักษณะ
จิตใต้สำนึกเป็นที่รวมแห่งข้อมูล
จิตใต้สำนึกเป็นสะพานเชื่อมต่อกับอัจฉริยภาพแห่งจักรวาล
6.อัจฉริยภาพแห่งจักรวาลเป็นสื่อกลาง ที่คุณจะใช้รับความคิดจากสมองคนอื่น อัจฉริยภาพแห่งจักรวาลเป็นคำที่ฮิลล์ใช้เพื่ออธิบายกฎพื้นฐานฟิสิกส์ เนื่องจากทุกสิ่งในจักรวาลไม่ว่าจะเป็นเวลา อวกาศ พลังงาน หรือสสาร โดยสสารก็เป็นพลังงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งทุกสิ่งต่างก็เป็นส่วนย่อยของสิ่งเดียวกัน นั่นหมายความว่า จิตใต้สำนึกของคุณ (พลังงาน) มีพื้นฐานร่วมกับจิตใต้สำนึกของคนอื่นๆ (พลังงาน)
7.ความคิดจากสมองของคนอื่นจะเข้ามาหาคุณได้ ก็ต่อเมื่อคุณอยู่ภายใต้อารมณ์ที่แรงกล้า และ “ภาครับ” ของคุณไวที่จะรับเป็นพิเศษ บางทีมันอาจแรงจนสามารถดึงดูดความคิดจากจิตใต้สำนึกของสมองผู้อื่นได้ ที่ทำเช่นนี้ได้เพราะมีเชื่อมโยงระหว่างอัจฉริยภาพแห่งจักรวาลกับจิตใต้สำนึกของสมองผู้อื่น
8.ความคิดจากสมองผู้อื่นทำให้เกิดสิ่งที่เราเรียกว่า การหยั่งรู้ การสังหรณ์ใจ เดจาวู (deja vu หรือ illusion of memory หมายถึง ความรู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งที่เห็นหรือจำเหตุการณ์ได้ ทั้งที่จริงๆ ไม่เคยสัมผัสมาก่อน) และการมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า
ถึงแม้ว่าการอธิบายของฮิลล์จะขึ้นกับพลังที่จับต้องไม่ได้ ซึ่งไม่สามารถแยกแยะหรือพิสูจน์ทางห้องปฏิบัติการได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งวิทยาศาสตร์การแพทย์และจิตวิทยาก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ดีนัก ในเรื่องที่เกี่ยวกับความคิดซึ่งมาจากความรู้หรือข้อมูลที่เราไม่ได้มีอยู่เดิม
อ่านจบแล้วเป็นยังไงกันบ้างคะ
ลูกเพจท่านใดเคยมีประสบการณ์ดังต่อไปนี้บ้างคะ
1.ทำอะไรเพลินๆ อยู่ เช่น ขับรถ วิ่งออกกำลังกาย หรืออาบน้ำ อยู่ดีๆ ก็คิดอะไรออกขึ้นมาซะอย่างงั้น หรือพูดง่ายๆ ว่า อยู่ดีๆ ก็ปิ๊งไอเดียบางอย่างโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน
2
2.มีลางสังหรณ์ใจ ว่าจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นในอนาคตเป็นภาพลางๆ แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจ แล้วเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นจริง
1
3.อยู่ดีๆ ก็เกิดความรู้สึกคุ้นเคยกับสิ่งที่เห็นหรือจำเหตุการณ์ได้ ทั้งที่จริงๆ ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
1
เหตุการณ์เหล่านี้แหละค่ะที่อาจเรียกได้ว่าคือ การหยั่งรู้ สังหรณ์ใจ และเดจาวู ตามลำดับค่ะ
3
โฆษณา