Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
The Projectlie
•
ติดตาม
28 เม.ย. 2022 เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์?
คำพูดที่หลายคนมักพูดถึงสองศาสตร์คือ พุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ หากท่านมีเวลาสัก 10 นาทีในการอ่านข้อเสนอและข้อโต้แย้งของผมที่กล่าวต่อไป แต่หากไม่มีเวลาผมก็จะบอกเพียงว่า พุทธศาสนาไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ก่อนอ่านสิ่งที่ผมเขียนขอให้ผู้อ่านไม่ว่าจะมีความเชื่ออย่างไรขอให้วางใจเป็นกลาง ( อุเบกขา ) และโต้เถียงด้วยเหตุผล
2
พุทธศาสนา เป็นกลุ่มความเชื่อที่เริ่มต้นโดยสิทธัตถะ โคตมะ ในทางประวัติศาสตร์เขาเป็นเพียงผู้ปกครองในบริเวณอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อเขารู้สึกว่าเส้นทางทางโลกไม่เหมาะกับเขาและต้องการมุ่งหาสัจธรรมของชีวิตจึงออกบวช และกลายเป็น “พุทธะ” ที่แปลว่า ผู้ตื่นรู้ ท่านผู้นี้ได้สร้างการศึกษาธรรมชาติและชีวิตในมุมมองทางปรัชญา ผ่านการสอนศิษย์โดยมุขปาถะ
คำสอน ( ตรงกับคำว่า ศาสนา ) ได้ถูกรวบรวมหลักท่านเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน จากคำสอนสู่ศาสนา ( ในที่นี้หมายถึง religious ) น่าแปลกใจที่พุทธศาสนาไม่ได้เติบโตสักเท่าไรในอินเดีย กลับไปเติมโตในดินแดนอื่นๆ เช่น ประเทศไทย
เนื่องจากการเข้ามาของพุทธศาสนาในไทยเป็นนิกายเถรวาท อ้างอิงคำสอนจากพระไตรปิฏก ซึ่งเป็นข้อตกลงคำสอนที่รวบรวมเป็นข้อและจดบันทึกในช่วงพุทธศตวรรที่ 3 เมื่อเข้ามาสู่ประเทศไทยก็มีการปรับตัวเข้าอยู่กับศาสนาพื้นเดิมอย่างศาสนาผี และศาสนาพราหมณ์ในราชสำนัก ประเทศไทยซึ่งในสมัยนั้นเรียกว่าถูกเรียกว่า สยาม ถูกเจ้าอาณานิคมตะวันตกรุกรานจึงต้องปรับตัว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงต้องรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้
เนื่องด้วยพระองค์บวชเรียนมานานและสนใจศาสตร์ทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาศาสตร์ จึงการจะต้องแสดงให้ต่างชาติได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพุทธศาสนาที่ไปได้ดีกับแนวคิดจากตะวันตก และเราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่เชื่อผีสางเทวดา บูชาอะไรที่ดูไร้สาระ พระองค์จึงปฏิรูปพุทธศาสนา ใส่ความเป็นวิทยาศาสตร์ไป ซึ่งก็ไปได้ด้วยดีสะด้วยและนี่คือที่มาของวาทกรรมพุทธศาสนา”มีความเป็น”วิทยาศาสตร์ ต่อมาก็มีพระนักวิชาการหลายรูปมาพัฒนาวาทกรรมนี้จากเรื่องการเมืองระหว่างประเทศเป็นความเชื่อทางศาสนา
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะทรงศีล
วิทยาศาสตร์ดูเหมือนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในศตวรรษที่ 21 ความเชื่อที่ได้รับการปรับปรุงโดยการใส่แนวคิดทางตรรกะเหตุผล ดูเป็นวิชาการมากกว่าความเชื่อพื้นบ้านและยังถูกใจชนชั้นกลางในสังคม วาทกรรมนี้ถูกพัฒนามากขึ้นจนกลายเป็น พุทธศาสนา”เป็น”วิทยาศาสตร์ ในระยะแรกก็มีการอ้างด้วยตรรกะในเชิงพุทธปรัชญา แต่เมื่อความว้าวนี้ขายไม่ได้ จึงมีการโยงกับทฤษฎีทางชีววิทยาหรือฟิสิกส์ยุคใหม่ เช่น ทฤษฎีวิวัฒนาการ ฟิสิกส์ควอนตัม จักรวาลวิทยา สัมพัทธภาพ
แน่เสียดายที่การเชื่อมโยงโดยชาวพุทธกลุ่มหนึ่งขาดความรู้วิทยาศาสตร์และสร้างนวนิยามบทใหม่ แฟนตาซีและตื่นเต้น สร้างความเข้าใจผิดครั้งใหญ่กับวิทยาศาสตร์ ชาวพุทธกลุ่มนั้นขยายตัว พยายามใช้แง่มุมนี้มาเสริมความเชื่อของตนเอง ด้อยค่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์และในบางครั้งใช้ในการกดทับความเชื่ออื่น ความคิดนี้ฝังรากลึกในสังคมไทยทั้งในสังคมทั่วไปหรือสังคมวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ! การมีคำพูดของนักฟิสิกส์อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ( Albert Einstein) มาพูดว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาของจักรวาลก็ยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นเรื่องนี้ ( ทั้งที่ไอน์สไตน์ไม่ได้พูดเช่นนั้น )
ทฤษฎีทางฟิสิกส์ควอนตัม ( Quantum physics ) หรือสัมพัทธภาพ ( Relativity )ถูกจับมาโยงเสมอ ไม่ว่าตะเป็นหลักความไม่แน่นอน ( Uncertainty principal ) ที่พูดถึงความไม่แน่นอนในการวัดวัตถุขนาดเล็ก ไม่ใช่หลักอนิจจังในพุทธ หรือจิตเดินทางเร็วกว่าแสง โดยอ้างจากการนั่งสมาธิแลเวไปที่นู้นที่นี่โดยพูดว่านั่นคือการเดินทางที่ใช้เวลาน้อยกว่าแสง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว สมองคนคนนั้นน่าจะระเบิดจากพลังงานที่พอๆกับพลังงานนิวเคลียร์ อ้างอิงจากความสมมูลมวล–พลังงาน (Mass–energy equivalence) ในความคิดเห็นของผมหากสิ่งนั้นพระพุทธเจ้าไม่ได้พูดถึงก็ไม่ต้องจับมาเชื่อมโยงก็ได้ การตอบเป็นอจินไตย 4 ยังดูมีเหตุผลเสียมากกว่า
1
ฟังก์ชันคลื่นของอิเล็กตรอนในไฮโดรเจนอะตอม
เมื่อมีกระแสต่อต้านเยอะขึ้นเรื่องการโยงพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ ชาวพุทธที่ยังต้องการให้พุทธศานาเป็นวิทยาศาสตร์จึงต้องหาวิธีต่อไป การโยงเรื่องจิต การนั่งสมาธิกับจิตวิทยา ( psychology ) และประสาทวิทยาศาสตร์ ( neuroscience ) เพื่อให้เป็นวิทยาศาสตร์แห่งอารมณ์ ซึ่งวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ยังไม่กระจ่าง ในมุมมองผมหากเอาพุทธไปจับก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คงต้องรอให้ผลทางวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ชัดเจนก่อนจึงจะสามารถมาโยงกันได้ และชาวพุทธที่คิดเช่นนี้ก็ควรลงมือไปร่วมกับนักวิจัยในการทดลอง ไม่ใช่เพียงแต่โยงโดยมีข้อมูลอันเล็กน้อย
เหตุผลสำคัญที่เกิดการโยงพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ก็คงเป็นตามประวัติศาสตร์ที่เล่ามาด้านต้น วิธีการคิดของพระพุทธเจ้าที่เป็นปรัชญามากกว่าศาสนา จึงดูเหมือนจะใช้เหตุผลแบบเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ แต่อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าเน้นเรื่องทางจิตวิญญาณซึ่งวิทยาศาสตร์ไม่ได้พูด และการที่วิทยาศาสตร์ไม่ได้พูดไม่ได้แปลว่าวิทยาศาสตร์ล้าหลัง หรือมีค่าน้อยกว่าพุทธศาสนา เพียงแต่ไม่ใช่ฟังก์ชันของวิทยาศาสตร์ในขณะนี้
พุทธศาสนาจะต้องวางตัวในเรื่องนี้แบบศึกษาทั้งสองด้าน หาจุดเหมือนจุดต่างและใช้วิเคราะห์ความรู้ต่างๆ ไม่ใช่การเคลม การที่ส่งเสริมพุทธศาสนาและวิทยาศาสตร์ได้ดี คือการพัฒนาวิทยาศาสตร์โดยใช้กรอบติดพุทธศาสนาแล้วเกิดผลงานที่มีความสำคัญต่อวงการวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เพียงแต่จับโยงมั่วซั่ว
สุดท้ายขอยกบทท้ายของปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตรที่ว่า คะเต คะเต ปารคะเต ปารสังคะเต โพธิสวาหา เพื่อให้ท่านแยกวิทยาศาสตร์ทางโลกออกจากพุทธศาสนาทางธรรม และมุ่งเน้นข้ามสังสารวัฏมากกว่าจะโยงสองศาสตร์เข้าหากัน การที่พุทธศาสนาจะเป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่ ไม่ได้เสริมหรือลดทอนคุณค่าของศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งแต่อย่างใด เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
อ้างอิงรูปภาพ
https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/7/74/Mongkut_in_the_Sangha.jpeg
https://en.wikipedia.org/wiki/File:Hydrogen_Density_Plots.png
วิทยาศาสตร์
ศาสนา
พุทธศาสนา
1 บันทึก
2
2
1
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย