"โดยพื้นฐาน NATO ทำสงครามกับรัสเซีย"
แล้ว ...รัสเซียจะใช้มุกอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีหรือไม่?
Sergey Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่าการจัดส่งอาวุธตะวันตกไปยังยูเครนหมายความว่าพันธมิตรของ NATO โดยพื้นฐาน คือ
"ทำสงครามกับรัสเซีย"
ในการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อวันจันทร์ เขากล่าวว่า “อาวุธเหล่านี้จะเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมายของการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียภายในขอบเขตของปฏิบัติการพิเศษ”
Lavrov ยังบอกกับสถานีโทรทัศน์ ด้วยว่า “โดยพื้นฐานแล้ว NATO ควรทำงานร่วมกับรัสเซียผ่านตัวแทน ตอนนี้ สงครามกำลังดำเนินอยู่ และพร็อกซีนั้น(กลายเป็น)ถูกติดอาวุธ นั่นหมายความว่า สงคราม หมายถึง สงคราม"
หาก....ภัยคุกคามจากสงครามนิวเคลียร์เป็นเรื่องจริง
Lavrov ยังรับทราบถึงศักยภาพของความขัดแย้งที่จะบานปลายไปสู่อาวุธนิวเคลียร์
แม้ว่าเขาจะยังแสดงความหวังสำหรับข้อตกลงสันติภาพก็ตาม
ในการให้สัมภาษณ์กับ Channel One ของรัสเซียเมื่อวันจันทร์ เขากล่าวว่ามอสโกต้องการ "เพียง" หลีกเลี่ยงความเสี่ยงสูงของความขัดแย้งดังกล่าว
“นี่คือตำแหน่งสำคัญของเราสำหรับทุกสิ่ง ตอนนี้เดิมพันมีความสำคัญมาก” Lavrov กล่าว
“ฉันไม่ต้องการที่จะเพิ่มความเสี่ยงเหล่านี้ หลายคนชอบมัน อันตรายนั้นร้ายแรง มันมีจริง และเราต้องไม่ประมาทมัน”
Lavrov ยังกล่าวหาประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky ว่า "แกล้งทำเป็น นักเจรจาที่ "ดี" ".
“หากคุณพิจารณาอย่างใกล้ชิดและอ่านสิ่งที่เขาพูด คุณจะพบความขัดแย้งนับพันๆ” นักการทูตระดับสูงของรัสเซีย กล่าว...
เพราะ....เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ามอสโกมุ่งมั่นที่จะหลีกเลี่ยงสงครามนิวเคลียร์
เมื่อวันจันทร์ รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน Dmitro Kuleba ทวีตว่าคำปราศรัยล่าสุดของ Lavrov แสดงให้เห็นว่ารัสเซียสูญเสีย
"ความหวังสุดท้ายในการทำให้โลกหวาดกลัว และเพิ่มการสนับสนุนแก่ยูเครน"
“ด้วยเหตุนี้การพูดคุยถึงอันตรายที่แท้ 'จริง' ของสงครามโลกครั้งที่สาม มันหมายความว่ามอสโกสัมผัสได้ถึงความพ่ายแพ้ จากยูเครน” เขาทวีต
วันหลังจากการโจมตีเริ่มขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน (Vladimir Putin )ได้ตั้งกองกำลังนิวเคลียร์ของตนเพื่อเตรียมพร้อม
สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรนาโต้กล่าวว่าพวกเขาไม่ต้องการการแทรกแซงทางทหารโดยตรงในยูเครน
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของสงครามโลกครั้งที่สาม
รัสเซียพยายามข่มขู่ตะวันตกด้วยคำเตือน จากสงครามโลกครั้งที่สอง
ในชั่วข้ามคืนเราได้ยินนาย Sergei Lavrov รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวย้ำคำแถลงซึ่งค่อนข้างสอดคล้องกัน
นั่นคือความผิดของยูเครนที่การเจรจาสันติภาพล้มเหลวหรือดำเนินไปอย่างไม่ดี
แต่เมื่อคุณดูสิ่งที่เกิดขึ้นในมอสโกและสิ่งที่คนรัสเซียได้รับการบอกกล่าวในตอนนี้ ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับยูเครนเท่านั้น
ตะวันตกกำลังก้าวเข้ามาและทำให้มันเป็นความขัดแย้งอย่างเต็มเปี่ยม
Lavrov เองกล่าวว่าสิ่งนี้อาจกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม
สิ่งนี้ไม่น่าแปลกใจหรือน่าตกใจสำหรับชาวรัสเซียที่เตรียมพร้อมสำหรับการขนส่งระยะไกลของ วลาดิมีร์ ปูติน และเครื่องสื่อสารเครมลินของเขา
ความจริงที่ว่า Ukrainians ถูกตำหนิสำหรับความล้มเหลวของการเจรจาสันติภาพ
มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของบทความนี้เท่านั้น....
ไม่นานหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่าเขากำลังย้าย "กองกำลังยับยั้ง" ของเขา
ซึ่งก็คืออาวุธนิวเคลียร์ ไปสู่สถานะ "พร้อมที่จะต่อสู้"
สิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลว่ามอสโกสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ทาง "ยุทธวิธี" ไม่ใช่สงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ
แต่เป็นการพัฒนาที่น่าทึ่ง
แล้ว.... อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีคืออะไร?
อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี เป็นอาวุธที่สามารถใช้ในระยะทางที่ค่อนข้างสั้น
สิ่งนี้ ทำให้แตกต่างจากอาวุธนิวเคลียร์ "เชิงกลยุทธ์"
ในช่วงสงครามเย็น สิ่งเหล่านี้เป็นของเล่น(ระเบิด)ที่มหาอำนาจทั้งสอง ได้แก่ สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต
ที่สามารถยิงใส่บ้านเกิดของกันและกันในระยะทางไกล
อย่างไรก็ตาม คำว่า "ยุทธวิธี" หมายรวมถึงอาวุธหลายประเภท ,รวมทั้งระเบิดขนาดเล็กและขีปนาวุธที่ใช้เป็นอาวุธ "สนามรบ"
แล้ว...จริงๆ รัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีอะไรบ้าง?
ผมคาดว่ารัสเซียจะมีอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีประมาณ 2,000 ลูก
สิ่งเหล่านี้สามารถวาง(ต่อเติม)บนขีปนาวุธประเภทต่างๆ ที่ปกติแล้วใช้ในการส่งวัตถุระเบิดทั่วไป
พวกมันสามารถถูกยิงเป็นชุดกระสุนปืนใหญ่ในสนามรบได้อย่างง่ายดาย
พวกเขายังได้รับการพัฒนาระบบเพื่อใช้ในเครื่องบินและเรือรบ เช่น ตอร์ปิโดและระบบการเจาะลึกสำหรับการกำหนดเป้าหมายไปยังเรือดำน้ำอีกด้วย
ข่าวดี คือ ...เชื่อกันว่าหัวรบอยู่ในห้องเก็บของ
ไม่ได้ติดตั้งและไม่พร้อมที่จะยิง
แต่ข้อกังวลประการหนึ่งก็คือ รัสเซียอาจต้องการใช้อาวุธทางยุทธวิธีขนาดเล็กมากกว่าขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่
ดร.แพทริเซีย ลูอิส หัวหน้าโครงการความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Chatham House กล่าวว่า
พวกเขาอาจไม่คิดว่ามันผ่านเกณฑ์นิวเคลียร์ขนาดใหญ่ แต่..พวกเขาสามารถคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังตามแบบแผนที่วางไว้
และพวกมัน(อาวุธนิวเคลียร์)มีพลังอำนาจเพียงไร ?
จริงๆแล้ว...อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีมีขนาดและกำลังแตกต่างกันอย่างมาก
ขนาดที่เล็กที่สุดอาจเป็นหนึ่งพันตันหรือน้อยกว่านั้น (เทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นทีหนึ่งพันตัน) และขนาดใหญ่ที่สุดคือประมาณ 100,000 ตัน
ผลกระทบจะขึ้นอยู่กับ"ขนาด"ของหัวรบ รวมถึงระยะห่างจากพื้น(ระเบิด) และสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น
แต่นั่นก็เท่ากับระเบิดปรมาณูขนาด 15,000 ตันที่คร่าชีวิตผู้คนไป 146,000 คนในเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
อย่างน้อย....อาวุธทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซียมีน้ำหนักอย่างน้อย 800 กิโลกรัม
ส่วน...คำพูดของปูตินเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ทำให้(โลก)เกิดความกังวลหรือไม่?
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวถึงอาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียมากกว่าหนึ่งครั้ง
ดูเหมือนจะสร้างความรู้สึกหวาดกลัวได้จริงๆ
สายลับสหรัฐมองว่านี่เป็นสัญญาณไปยังตะวันตก
เพื่อเกลี้ยกล่อมไม่ให้แทรกแซงในยูเครน
มากไปกว่าการแสดงให้เห็นว่าเขากำลังวางแผนทำสงครามนิวเคลียร์
แต่คนอื่น ๆ กังวลว่าแม้ว่าโอกาสจะต่ำ แต่ในบางกรณีรัสเซียก็อาจใช้อาวุธยุทธวิธีที่มีขนาดเล็กกว่าในยูเครน
“ปูตินรู้สึกสบายใจในโลกที่ 'มั่นคงและไม่เสถียร' ในขณะที่ตะวันตกถูกข่มขู่โดยการยับยั้ง(ขู่)นิวเคลียร์ของเขา ราวกับว่า NATO เป็นแค่ตัวหนังสือ การป้องปรามมูลค่าพันล้านดอลลาร์ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเสือกระดาษ”
ในการที่...กองทัพรัสเซียสามารถใช้ปืนใหญ่ธรรมดาเพื่อเปลี่ยนเป็นการยิงหัวรบนิวเคลียร์ขนาดเล็ก เช่น ปืนใหญ่อัตตาจร
งานนี้..... ผมมีทฤษฎีที่เรียกว่า "การเลื่อนระดับไปสู่การลดระดับ"
ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและนาโต หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐ เคยเอ๋ยว่า...
ซึ่งการรวม ถึงการทำบางสิ่งที่น่าทึ่ง เช่น การใช้อาวุธ(อาวุธนิวเคลียร์)ยุทธวิธีในสนามรบ หรือการสาธิตที่ไหนสักแห่ง หรือขู่ว่าจะทำเช่นนั้น
ความคิดที่แท้จริง คือการหลอกให้อีกฝ่ายให้ยอมแพ้
ความกังวลคือ หากปูตินรู้สึกจนมุมและกลยุทธ์ของเขาในยูเครนล้มเหลว
เขาสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" เพื่อทำลายการหยุดชะงักหรือหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ได้ทันที
แต่สิ่งต่างๆ อาจเลวร้ายลงในยูเครน หรือหันกลับไปรัสเซีย เพื่อให้เขาคิดเรื่องนี้
James Acton ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่ Carnegie Endowment for International Pace ในวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวว่า
"ฉันมีเหตุผลที่จะต้องกังวลว่าในสถานการณ์นี้ ปูตินสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ เป็นไปได้มากว่าจะอยู่บนพื้นดินในยูเครนเพื่อข่มขู่ทุกคน ”
ส่วน ดร. Heather Williams ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ที่ King's College London ก็กล่าวว่า
ปัญหาหนึ่งคือยังไม่ชัดเจนว่า "ชัยชนะ" ของปูตินในยูเครนจะเป็นอย่างไร
จึงไม่ชัดเจน ว่ามันจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์
คุณธรรมของพวกเขาจะเป็นการเอาชนะตนเองหรือไม่?
ปูตินอ้างว่ายูเครน...เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ดังนั้นจึงดูแปลกที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในอาณาเขตของตน
Patricia Lewis เตือนว่าเขตแดนรัสเซียเองก็อยู่ใกล้ ๆ
และ "ผลที่ตามมาสามารถข้ามพรมแดนได้"
ครั้งเดียวที่อาวุธนิวเคลียร์ถูกใช้ในความขัดแย้งคือ....
สหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นเมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ในครั้งนี้...ปูตินต้องการเป็นผู้นำคนแรกที่ทำลายข้อห้ามและใช้มันหรือไม่?
บางคนกลัวว่าเขาได้แสดงความเต็มใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ที่คนอื่นคิดว่าเขาไม่ทำ
ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกยูเครน หรือการใช้สารกระตุ้นประสาทในสมัยโบราณของเมือง “ซอลส์บรี”ที่บางครั้งก็เป็นที่รู้จักกันว่า "นิวเซรัม"
ส่วน ดร.วิลเลียมส์ กล่าวว่า มีอีกเหตุผลหนึ่งที่รัสเซียอาจไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์
จีน
“รัสเซียพึ่งพาการสนับสนุนจากจีนเป็นอย่างมาก แต่จีนมีหลักคำสอนเรื่องนิวเคลียร์ที่ 'ไม่ให้ใช้โดยเด็ดขาด' ดังนั้นหากปูตินใช้มัน มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับจีนที่จะสนับสนุนเขา ถ้าเขาใช้พวกเขา เขาอาจสูญเสียจีนไป”
สรุปว่า...มันจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์หรือไม่?
จริงๆ แม้แต่ผม หรืออาจาร์ยที่ปรึกษาสำหรับผมในเรื่องนี้ ไม่มีใครรู้ว่าผลของการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีจะเป็นอย่างไร?
มันอาจจะบานปลาย และที่สำคัญปูตินไม่ต้องการให้เกิดสงครามนิวเคลียร์
แต่มีความเสี่ยงจากการคำนวณผิดพลาดอยู่เสมอ...แฮ่ร์
“พวกเขาจะจินตนาการว่าทุกคนจะยอมจำนน” Patricia Lewis กล่าว “สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ NATO จะต้องเข้ามาตอบโต้ ให้ทันท่วงที”
สหรัฐฯ กล่าวว่ากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แน่นอน งานนี่มีเครื่องรวบรวมข่าวกรองที่ครอบคลุมจำนวนมากมาย เพื่อตรวจสอบกิจกรรมนิวเคลียร์ของรัสเซีย เช่น ถอดอาวุธทางยุทธวิธีออกจากที่จัดเก็บ หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสถานที่ๆปล่อยจรวด
จนถึงตอนนี้ พวกเขากล่าวว่ายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใดๆ
เป็นการยากที่จะคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ และ NATO จะตอบสนองต่อการใช้นิวเคลียร์อย่างไร
พวกเขาอาจไม่ต้องการที่จะให้เรื่องบานปลาย และเสี่ยงต่อสงครามนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ
แต่พวกเขาอาจต้องการขีดเส้น
นั่นอาจหมายถึง การแสดงปฏิกิริยาแบบธรรมดาที่เข้มงวดมากกว่าปฏิกิริยานิวเคลียร์
แต่รัสเซียจะทำอย่างไร?
“เมื่อคุณข้ามธรณีประตูนิวเคลียร์ไปแล้ว ก็จะไม่มีจุดหยุดยืนที่ชัดเจน”
ผมไม่คิดว่าใครๆ ก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าโลกหลังจากนั้นจะหน้าตาเป็นอย่างไร
แต่...ผมเชื่อว่าตราบใดที่ปูตินใช้อาวุธนิวเคลียร์ เขาจะพ่ายแพ้ต่อนาโต้และสหรัฐอเมริกา
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
