28 เม.ย. 2022 เวลา 03:48 • ประวัติศาสตร์
ฮ่องเต้ลุ่มหลงทรงเจ้าเข้าผี ใช้คนถ่อยบริหารงานบ้านเมือง
ฮ่องเต้หมิงนอกจากปฐมฮ่องเต้จูหยวนจางหมิงไท่จู่ และมหาราชจูตี้หมิงเฉิงจู่ที่ทำงานตัวเป็นเกลียวแล้ว ที่เหลือนั้นนับว่าสันหลังยาวหย่อนยานสมรรถภาพการทำงาน ลุ่มหลงมัวเมาไปกับเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน หนึ่งในนั้นคือการทรงเจ้าเข้าผี ฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงคลั่งไคล้ศาสตร์ลี้ลับทรงเจ้าเข้าผีเป็นอย่างมาก รัชกาลที่โจ๋งครึ่มมากที่สุดคือฮ่องเต้หมิงซื่อจง รัชศกเจียจิ้ง
เจียจิ้งขึ้นครองราชย์ตอนอายุ 15 ปี และครองราชย์ยาวนานถึง 25 ปี เจียจิ้งลุ่มหลงในลัทธิเต๋าอย่างงมงาย ถึงขั้นให้ข้าราชบิพารออกเดินทางไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะ เจียจิ้งสนใจในเวทมนตร์คาถา ไสยศาสตร์ น้ำมนตร์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
เจียจิ้งอยากเป็นเทพเซียนเหาะเหินเดินอากาศมากกว่าเป็นฮ่องเต้เดินดินในวังต้องห้ามบริหารแผ่นดิน ถึงขั้นจะสละราชบัลลังก์ให้โอรสขึ้นครองราชย์แทนเพื่อตนเองจะไปจำศีลภาวนาเพื่อสำเร็จเป็นเซียน
ขุนนางยุคนี้คนที่ไม่เชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อยู่รอดได้ยากตำแหน่งต่ำเตี้ยไร้ความก้าวหน้า เพราะขุนนางที่ฮ่องเต้โปรดปรานเป็นพวกหมอผีหรือพวกเลื่อมใสการทรงเจ้าเข้าผีเหมือนพระองค์
เจียจิ้งมีความคิดสร้างสรรค์ออกผลิตภัณฑ์หมวกมงกุฎใบไม้หอมให้ขุนนางในราชสำนักสวมใส่เพื่อความเป็นสิริมงคล เชี่ยนเอี๋ยนขุนนางตงฉินตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์เวทมนตร์คาถา จึงไม่ยอมสวมใส่หมวกนี้เป็นการขัดใจฮ่องเต้ แม้ฮ่องเต้จะบอกว่าเป็นหมวกวิเศษปลุกเสกเรียบร้อยใส่แล้วรวยก็ตามที สุดท้ายโดนปลดไปคนดูแลห้องสมุดหมดอนาคตทางราชการ
ขณะที่เหยียนซงขุนนางถ่อยยอมสวมหมวกนี้ไม่ติดขัด และแสดงตนอย่างชัดเจนว่าเลื่อมใสในการทรงเจ้าเข้าผีขอเป็นศิษย์สำนักเดียวกันกับฮ่องเต้บูชาเซียนเทพไปด้วยกัน จึงได้รับความโปรดปรานความเอ็นดูเป็นพิเศษ เหยียนซงคือคนถ่อยไร้ความสามารถได้เลื่อนขั้นทันทีเป็นนายกรัฐมนมนตรีอยู่ในตำแหน่งยาวนานยี่สิบกว่าปี ทุจริตคอรัปชั่นมโหฬารเป็นจอมตะกละระดับกระสืออันดับต้นๆ ของราชวงศ์หมิง
1
เถาจงหวุนนักบวชลัทธิเต๋า เจียจิ้งนับถือเลื่อมใสคนผู้มาก เพราะช่วยเป่ากระหม่อมให้พระองค์บ่อยๆ จึงแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงพระราชพิธี
เจียจิ้งเชื่อในการปรากฏการณ์คำทำนายต่างๆ ที่ปัญญาอ่อนที่สุด คือ มีวันหนึ่งขณะที่ประทับอยู่ที่สนามหญ้าในวัง มีลูกท้อหล่นลงบนหลังคาบังแดด มีคนทูลว่าลูกท้อนี้หล่นจากสวรรค์ เจียจิ้งก็เชื่อตามนั้นจริงๆ ฮ่องเต้เบาปัญญาถือว่าเป็นเรื่องศุภมงคลของพระองค์
ส่วนใครเป็นฮองเฮาและนางสนมยุคนี้จะมีหน้าที่พิเศษยิ่งกว่ายุคไหนๆ คือต้องตื่นแต่เช้าตรู่แล้วออกไปรองน้ำค้างยามเช้า เพื่อนำไปให้หมอผีปรุงโอสถถวายเป็นยาอายุวัฒนะ
ฮ่องเต้ปัญญาอ่อนลุ่มหลงอยู่กับความเชื่อไสยศาสตร์การทรงเจ้าเข้าผีกลิ่นธูปตลบอบอวล ราชสำนักกลายเป็นศาลเจ้า อ้างตัวเป็นเซียนเทพผู้มีคุณงามความดี แต่กลับปล่อยคนชั่วช้า คนสอพลอ คนไร้ความสามารถบริหารงานบ้านเมือง ผู้รับผลกรรมก็คือประชาชนตาดำๆ ที่ถูกขูดรีดภาษีเพื่อไปบำรุงบำเรอฮ่องเต้และราชสำนัก ใช้ภาษีในการก่อสร้างวังหอวิหารเพื่อบูชาเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ประชาชนไม่มีจะกิน
1
ในรัชกาลเจียจิ้งเกิดวิกฤตร้ายแรงสองครั้ง อย่างแรกคือมองโกลบุกแผ่นดินจีน ชาวจีนมากมายถูกฆ่าฟันและจับเป็นเชลย สองคือโจรสลัดญี่ปุ่น โดยที่นายกรัฐมนตรีถ่อยเหยียนซงไม่สามารถจัดการกับวิกฤติทั้งสองครั้งนี้ได้ บอกให้ราชสำนักสวดมนต์ภาวนาฝ่าวิกฤติ
ขณะที่เจียจิ้งยังเมากลิ่นธูปไม่ลืมหูลืมตา คนทูลตักเตือนเพราะห่วงใยชาติบ้านเมือง แม้คนที่เตือนจะทำคุณประโยชน์อุทิศตนเพื่อชาติแค่ไหน เจียจิ้งก็ไม่รับฟังและยังโกธรกริ้วอย่างคนมีองค์ลง สั่งโบย สั่งปลด สั่งจับขัง จนถึงขั้นสั่งประหารชีวิต
ทุกท่านครับฮ่องเต้แบบนี้จะได้เป็นเซียนสมใจอยากไหม การกระทำลุ่มหลงงมงายนั้นเจียจิ้งจะรู้หรือเปล่าว่ามันคือบาป บาปที่ใช้คนกเฬวรากทำงานทำให้ประชาชนตกทุกข์ได้ยากสูญเสียชีวิต
ปัญหาของชาติบ้านเมืองไม่สามารถจบลงด้วยการสวดมนต์ภาวนา ไม่สามารถแก้ไขได้โดยแม่มดหมอผีคำทำนาย ชาติคือประชาชนต้องการผู้นำที่มีความรู้ความสามารถมีวิสัยทัศน์ก้าวไกลบริหารงานเป็น ช่วยนำพาประชาชนคนทั้งชาติให้รอดพ้นจากปัญหาอุปสรรคและมีอนาคตมีความหวัง
จักรพรรดิหมิงซื่อจง รัชศกเจียจิ้ง
โฆษณา