Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Right SaRa by Bom+
•
ติดตาม
28 เม.ย. 2022 เวลา 12:30 • ประวัติศาสตร์
ตำราเพศศึกษาของไทย สมัยโบราณ ตอนที่ 2
1
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ที่มา: ฐานข้อมูลจิตรกรรมฝาผนัง สถาบันไทยคดีศึกษา ม.ธรรมศาสตร์
“พระตำรับกษัยกล่อนและหลักการร่วมประเวณี” เป็นตำราเพศศึกษาโบราณของไทยฉบับหนึ่ง ลงบันทึกในรูปแบบสมุดฝรั่ง ไม่ปรากฏสถานที่พิมพ์และปีที่พิมพ์ มีเนื้อหาเช่นเดียวกับ “พระตำรับแก้กล่อนโดยพิสดาร” ฉบับหลังสันนิษฐานว่าแต่งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ส่วนฉบับพิมพ์เริ่มพบหลังสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นต้นมา
(กล่อน ชื่อโรคชนิดหนึ่งตามตาราแพทย์แผนโบราณ ว่าเกิดจากของเหลวเข้าไปขังอยู่ในถุงอัณฑะ)
2
จากการค้นคว้าของ ศาสตราจารย์สุกัญญา สุจฉายา ปรากฏว่าไม่พบตำราเพศศึกษาที่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น นักวิชาการพิจารณาอีกมุมหนึ่งเป็นไปได้ว่า ก่อนหน้านั้นอาจมีแต่ไม่พบหลักฐานหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ที่พบหลงเหลือจะเป็นวรรณกรรมที่ใช้ภาษาในบทอัศจรรย์เชิงเปรียบเทียบในรูปแบบของ “โครงทวาทศมาส” ในสมัยอยุธยาตอนต้น
2
หน้าปกในของหนังสือ “โคลงทวาทศมาส” ใน พ.ศ. 2447 ส่วนปกหนังสือสูญหาย เครดิตภาพ: e-book หอสมุดกลาง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตำราสังวาสหรือตำราเพศศึกษาโบราณส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบตัวเขียนบนใบลานและสมุดไทย บางเล่มได้คัดลอกลงสมุดฝรั่งด้วยลายมือของผู้คัดลอก ฉบับพิมพ์ค่อนข้างหายาก เพราะพิมพ์ในวงแคบๆ ไม่เผยแพร่มากนัก เช่น พระตำรับมวยบ้าน เหตุผลหนึ่งน่าจะเป็นเพราะเนื้อหาที่เป็นคู่มือการสังวาสใช้คำศัพท์บรรยายตรงไปตรงมา หมิ่นเหม่ต่อค่านิยมแบบที่ว่า “ลามก ล่อแหลม” เกินกว่าจะนำมาพิมพ์ขายได้ตามแผงหนังสือปกติ
5
★
เนื้อหาของ “พระตำรับกษัยกล่อนและหลักการร่วมประเวณี”
1
✓
คำเตือน! เนื้อหาอาจมีบางช่วงเป็นแบบ 18+ เพื่อคัดลอกเนื้อความตรงกับตำราดังกล่าว ซึ่งเรื่องเพศศาสตร์เป็นการศึกษาด้านสรีระและระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ ท่าทางการร่วมเพศต่างๆ ดังนั้นจึงขอชี้แจงว่า “อย่าโลกสวย” หรือ “ปากว่าตาขยิบ”
1
...
จากบทความตอนก่อนหน้านี้ (ตอนที่ 1: อ่านเพิ่มเติมได้จากลิ้งค์ด้านล่างสุดของบทความนี้) “พระตำรับกษัยกล่อนและหลักการร่วมประเวณี” หรือ “พระตำหรับกษัยกร่อนพิสดาร” เนื้อหาจะครอบคลุม 3 มิติ คือ “ท่า” “นรลักษณ์” และ “ยาบำรุง” ผู้เขียนขอรวบรวมสรุปเนื้อหาที่น่าสนใจในแต่ละมิติ ดังต่อไปนี้
★
นรลักษณ์
พระฤาษี (สันนิษฐานคือผู้แต่ง) เป็นผู้อธิบายว่าในอวัยวะเพศหญิงมีดอกกามสี่กลีบ มีรูปทรงตูมเป็นต่อมเหมือนดอกบุก ต่อจากดอกกามคือสายกามที่มีอยู่เต็มท้องน้อย เป็นรากสายจรดที่รากขวัญทั้งสอง รากโยนียันไปถึงนมทั้งสองเต้า ดอกกามนี้เมื่อยังตูมจะทำให้โยนีหุบ
3
6
เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ เกสรในกลีบโยนีจะแย้มออกเพื่อรอรับน้ำเชื้อของชาย รากกามจะกระตุ้นให้เกิดกำหนัด เกิดอารมณ์ซาบซ่านจนเบ้ากามที่อยู่ในท้องน้อยกลิ้งขึ้นมา เกสรกลีบในนี้ถ้ายังเป็นเด็กสาวจะอยู่ลึกลงไปหนึ่งนิ้ว ถ้าเป็นสาวอายุมากขึ้นจะอยู่ลึกลงไป 3 นิ้ว และถ้ามีลูกแล้วจะยิ่งลึกลงไปอีกถึง 4 นิ้ว
3
2
ดอกบุก เป็นดอกไม้ป่า มีกลิ่นคล้ายเนื้อเน่า เครดิตภาพ: https://esanunity.com/?p=2709
ตำราพยายามอธิบายลักษณะของอวัยวะเพศหญิงและมดลูกที่อยู่ภายในซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดอารมณ์เพศให้คนอ่านได้เข้าใจ โดยเปรียบเทียบกับลักษณะของดอกบุกเพื่อให้เห็นภาพ แต่ไม่ตรงกับกายวิภาคที่แพทย์แผนปัจจุบันอธิบาย
2
...
เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 5 วิชาการแพทย์แผนตะวันตกเป็นที่ยอมรับ และครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 6 จึงมีการอธิบายเกี่ยวกับเรื่องกายวิภาคศาสตร์ ระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ วัยเจริญพันธุ์ และอารมณ์ทางเพศ ในเชิงวิทยาศาสตร์ และทำออกมาเป็นตำราแพทย์แผนปัจจุบัน
★
ยาบำรุง
สุขใดไม่เปรียบเท่า สุขรัก
สวรรค์ลิบๆ หรือจัก เปรียบแม้
ทุกข์เท่าทุกข์หัก หายหมด เจียวแม่
ปลื้มอะไรไม่แพ้ เท่าปลื้มหนุ่มสาว
บทโปรยขึ้นต้นและลงท้าย พระตำรับกษัยกล่อนและหลักการร่วมประเวณี
1
...
กล่าวถึงความสุขทางเพศเป็นบรมสุขที่จะทำให้คลายความทุกข์ที่มีอยู่ เป็นความสุขที่เสมอภาคทั้งชายและหญิง หากมีปัญหาบกพร่องจำเป็นต้องมีการแก้ไขทั้งคู่ ตำรายาจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ปรากฏเพื่อแก้ไขปัญหาของชาย “ลึงค์อ่อน” “ลึงค์ตาย” “ลึงค์สั้น” “ลึงค์เล็ก” และปัญหาของหญิงที่ “รูโยนีกว้าง ไม่กระชับ” “นมเหี่ยว”
3
2
...
เนื้อหามิตินี้กล่าวแบ่งออกเป็นทั้งหมด 32 ข้อ ข้อแรกๆเป็นวิธีการของผู้ชาย ข้อท้ายๆเป็นวิธีการของผู้หญิง ผู้เขียนขอยกมาเป็นตัวอย่างบางส่วนที่เกี่ยวกับผู้ชาย ตามนี้
...
■
กามสุขสม ไม่ล่มปากอ่าว
“ถ้าชายใดลึงค์อ่อนเอาหญิงมักมีชู้ เหตุว่าลึงค์ไม่เข้าถึงจำปาในมัน ไม่สมใจมัน ท่านให้เอาการบูร 1 น้ำผึ้งรวง 1 น้ำมันในข้อวัว 1 ยาทั้งนี้บดให้ละเอียดใส่ตลับเก็บไว้ เมื่อเวลาจะร่วมให้ละลายด้วยน้ำมันหอมทาลึงค์แข็งตึงดีนัก เอาถึงใจหญิงแล ถึงหญิงนั้นจะมีผัวสัก 1,000 คนก็ไม่รักเหมือนเราเลย…”
4
5
“ถ้าร่วมหญิงไม่มีความกำหนัดรัก ท่านให้เอาดีจระเข้ 1 ฝิ่น 1 รังมดแดง 1 ฝนทาลึงค์ เอาผู้หญิงรักดังดวงใจแล…”
2
...
■
ปัญหาเรื่องลึงค์ อ่อน-ตาย-สั้น-เล็ก
1
“ถ้าชายใดลึงค์ตายด้วยหญิงทำเอาก็ดี หรือตายด้วยถูกคุณยาก็ดี ลางทีตายเองก็ดี ที่เรียกว่าลึงค์ตายนั้นคือ เมื่อเวลาร่วมแต่พอกระเด้าได้บ้างเล็กน้อย ลึงค์นั้นก็หดอ่อนป้อแป้ไป อย่างนี้เรียกว่าลึงค์ตาย หญิงมักมีชู้ด้วย เหตุไม่สมใจมัน ท่านให้พลีเอารากขัดหม่อน 1 กะโปกกระชาย 1 ยานี้ต้มกินแต่ฉะเพาะข้างขึ้นวันเสาร์ วันอังคารให้กินแต่ข้างขึ้น ข้างแรมเว้นเสีย ลึงค์กลับเป็นขึ้นมาลุกแข็งดีนัก…”
3
“ถ้าชายใดลึงค์สั้นก็ดี ลึงค์อ่อนก็ดี ท่านให้เอาน้ำมันหอม 1 น้ำมันจระเข้ 1 โกษเขมา 1 โกษดินสอ 1 กระวาน 1 พิมเสน 1 ยาทั้งนี้เอาเท่ากันเสมอภาค บดให้ละเอียดเก็บใส่ขวดไว้ ทาลึงค์แต่ทีละน้อยทุกๆวัน ถ้าเอาหญิงมีใจรักเราดังจะกลืนกินแล…”
1
“ถ้าลึงค์เล็กให้เอาลูกชะพลู 1 โกษเขมา 1 เยี่ยวโคดำ 1 น้ำผึ้งรวง 1 บดทาลึงค์ทุกวัน ทั้งใหญ่ทั้งยาวแข็งดีแล…”
1
...
■
อึด-ถึก-ทน
1
“ถ้าหญิงใดกามราคะแรงชอบให้ร่วมคืนละ 9-10 หน ชายสู้ไม่ได้ ท่านให้เอากานพลู 1 เกลือกะดัง 1 ขิง 1 พริกไทย 1 กระเทียม 1 ยา ทั้งนี้เอาสิ่งละเท่ากันเสมอภาค บดให้ละเอียดละลายน้ำผึ้งรวงรับประทาน ร่วมได้คืนละ 9-10 ทีสมใจหญิงแล…”
3
2
“ถ้าร่วมไม่จุใจหญิง ให้เอาลูกสวาด 1 ลูกชะพลู 1 ขิงเอา 3 ส่วน บดให้ละเอียด ละลายน้ำผึ้งรวงรับประทานวันละเท่าเมล็ดพริกไทย มีกำลังร่วมกับหญิงได้คืนละ 10 ครั้งแล…”
6
★
ท่า
ฉบับพิมพ์จำหน่าย ได้เพิ่มภาคพิเศษท้ายเล่มว่าด้วย “ท่าต่างๆ ในการร่วมประเวณี” จำนวน 60 ท่า (ตั้งแต่ท่าที่ 52 จะมีใช้อุปกรณ์เสริม) ผู้เขียนขอยกมาบางส่วน ดังนี้ (ถ้าต้องการอ่านละเอียด เข้าไปศึกษาอ่านได้ที่แหล่งข้อมูล ข้างใต้บทความนี้ อยู่ในลิงค์ล่างสุด)
...
■
ท่าที่ 1 จรเข้กบดาน
หญิงนอนหงาย ถ่างขาสองข้างออก ให้ชายคุกเข่าลงที่หว่างขา เอนตัวก้มลงไปจนหน้าอกจดถึงกัน มือขวาเท้าที่นอนหรืองอที่ข้อศอก เพื่อยันตัวไว้ให้หญิงสอดมือขวาไปจับลึงก์นำใส่โยนี ฝ่ายชายก็กดก้นลงไปให้ลึงค์เข้าโยนีจนมิด แล้วกระเด้าขึ้นลง ทำดังนี้เรื่อยๆไป อีกมือหนึ่งจับนมจี้เอว จะเพิ่มความสุขให้กับหญิงอีก จนสำเร็จน้ำกามออก ท่านี้เป็นท่าที่สามีภรรยา สังวาศกันเป็นธรรมดา
1
...
1
■
ท่าที่ 31 สังวาศแม่ลูกอ่อน
ให้หญิงนอนตะแคงอยู่บนเตียง แต่ให้ก้นห้อยออกนอกเตียง ชายยืนข้างหลัง ยกขาหญิงขึ้นข้างหนึ่งพาดบ่า อีกข้างหนึ่งวางไว้บนเข่า จับลิงก์ยัดใส่โยนี แล้วกระเด้าช้า ๆ เมื่อน้ำกามจวนจะออก ให้รีบชักลึงค์ออกจากโยนี ให้น้ำกามออกข้างนอก เพราะน้ำกามอาจทำให้น้ำนมเสีย ท่านี้ลำบาก ต้องเป็นชายที่มีลึงค์ยาว จึงสังวาศท่านี้ได้
2
...
■
ท่าที่ 54 แขวนรอกสังวาศกัน
1
ให้หากระจาดก้นทะลุ ผูกเชือกที่ปากกระจาดแขวนรอกไว้ที่เพดาน มีเชือกยาวพอชักขึ้นลงได้ ให้หญิงนั่งในกระจาดหย่อนก้นลง หลังกับโคนขา พิงกับกระจาดไว้ ให้ติดกับโยนีปลิ้นลงก้นกระจาด ชายชักรอก ให้กระจาดที่หญิงนั่งอยู่นั้นขึ้นนิดหน่อย พอสอดตัวนอนหงายได้ แล้วปั่นลึงค์ให้ลุกชี้อยู่ใต้โยนี
แล้วค่อย ๆ หย่อนกระจาดลงไปให้โยนีสรวมลึงก์ แล้วชักขึ้นชักลง เร็วช้าตามความพอใจ แต่อย่าให้สูงเกินไปนัก ลึงค์จะหลุด กระจาดจะหมุนไปรอบตัว ลึงค์เข้าไปควานในรูโยนี ทำให้หลวมบ้าง คับบ้าง สนุกมากด้วยกันทั้งคู่ จะหาที่เปรียบมิได้ ในไม่ช้าน้ำกามจะออกสำเร็จด้วยกัน ระวังในเมื่อเวลาน้ำจวนจะออกมือจะอ่อนเท้าจะอ่อน
3
5
...
■
ท่าที่ 56 ขี่ม้าสังวาศกัน
ให้หาม้าเชื่อง ๆ เอาผ้าหนา ๆ ปูที่หลังไม่ต้องใช้อาน แต่ต้องมีโกลนสั้น ๆ คู่หนึ่ง เมื่อมีพร้อมแล้ว ให้จับบังเหียนขึ้นขี่ม้า เท้าเหยียบวางบนโกลนโก่งตูดให้ลอยอยู่ก่อน
ส่วนชายให้ขึ้นขี่ข้างหลังลอดตะโพกกับลึงค์เข้าใต้ก้นหญิง แล้วนอนหงายบนหลังม้า สองมือจับบังเหียนม้าไว้ให้แน่น
หญิงหย่อนก้นให้ลึงค์เข้าโยนีจนมิด ให้หญิงขับม้าเดินช้าๆ เหยาะๆ ก่อน กิริยาที่ม้าเดินเช่นนั้น ทำให้หญิงกระเด้าขึ้นลงเป็นกิริยากระเด้าและเด้งในตัวเสร็จ ยิ่งให้ม้าวิ่งเร็ว ก็ยิ่งกระเด้าถี่เข้าจนสำเร็จน้ำกามออก
เขาว่าท่านี้สนุกมาก ไม่มีอะไรที่จะเปรียบได้เลย ต้องระวังเวลาน้ำออก จะพลัดตกจากหลังม้าด้วยทั้งคู่
2
6
✓
สุดท้ายนี้ยังคงเน้นย้ำว่า การเสพสังวาส หรือ กิจกรรมทางเพศ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องเหนียมอายอะไร และยังเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการสืบดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์อีกด้วย
1
จบแล้ว ตอนที่ 2
ติดตามได้ในตอนต่อไป…
...
ติดตามตอนที่ 1 จากด้านล่างนี้
อ่านเพิ่มเติม
blockdit.com
[Right SaRa by Bom+] ตำราเพศศึกษาของไทย สมัยโบราณ ตอนที่ 1
ตำราเพศศึกษาของไทย สมัยโบราณ ตอนที่ 1
■
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
1
สุกัญญา สุจฉายา, วารสารมนุษยศาสตร์วิชาการ, ปีที่ 26 ฉบับที่ 2 เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2562
สุกัญญา สุจฉายา, บรรณาธิการ. (2561). ไขความลับวรรณกรรมตำราเพศศาสตร์. นครปฐม: โครงการวิจัยเรื่อง “ตำราวรรณกรรมเพศศาสตร์ของคนไทยภาคกลาง: ไขความลับเป็นความรู้” คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
ฮิมวัง, ศิลปวัฒนธรรม ออนไลน์ เผยแพร่ 15 ธันวาคม 2565 -
https://www.silpa-mag.com/culture/article_79210
ศิลปวัฒนธรรม ออนไลน์ เผยแพร่ 28 มีนาคม 2565 -
https://www.silpa-mag.com/culture/article_77160
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ไทย
เพศศึกษา
19 บันทึก
43
81
40
19
43
81
40
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย