9 พ.ค. 2022 เวลา 06:32 • สุขภาพ
ทำไม? ดื่มกาแฟแล้วจู๊ด จู๊ด!
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนชื่นชอบและเป็นที่นิยมในหมู่คนวัยทำงาน
ไม่ว่าจะเป็นในตอนเช้าตรู่ที่ต้องเร่งรีบออกไปทำงาน
ต่อให้รีบแค่ไหนแต่หลายคนก็ยังสามารถสละเวลาหาซื้อกาแฟแก้วโปรด
ไว้ดื่มระหว่างทางไปที่ทำงานได้
เพียงจิบแรกก็ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า......เอ๊ะ
พอดื่มไปสักพักทำไมรู้สึกท้องไส้เริ่มปั่นป่วน
เหมือนมีข้าศึกบุกประชิดติดกำแพงเมือง งานงอกเลยสิทีนี้
รถก็ติด ที่ทำงานก็ยังอีกไกล...
ทำไมกาแฟถึงส่งคนไปเข้าห้องน้ำได้ เรื่องนี้มันมีเงื่อนงำ
วันนี้เราจะมาไขความลับทำไมดื่มกาแฟปั๊ป ต้องแวะปั้มปุ๊ป
จริงๆแล้วการศึกษาเรื่องนี้ยังมีอยู่น้อย งานวิจัยก็ไม่ค่อย
ออกมาชี้ชัดว่าทำไม แต่มันมีข้อสันนิษฐานอิงหลักวิทยาศาสตร์อยู่
ดร.ไคลน์ เสตลเลอร์ ผู้อำนวยการแล็บวิจัยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
ของโรงพยาบาลเจเนอรัลแมสซาชูเซตส์กล่าวว่า
1
"ในการศึกษาเรื่องความสัมพันธ์
ระหว่างกาแฟส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารอย่างไร
ทางการแพทย์ยังไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวมาศึกษาอย่างจริงจัง"
มันต้องมีอะไรมากกว่าคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ อาจเป็นสารประกอบอื่นๆ
ที่เร่งปฏิกริยาต่อระบบทางเดินอาหารของเรา
ซึ่งสารประกอบตัวนั้นคืออะไร ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
ดร.ไคลน์จึงตั้งข้อสันนิษฐานที่อิงจากหลักวิทยาศาสตร์
ที่สามารถนำมาใช้ประกอบการตอบคำถามเหล่านี้ได้
1. กาแฟอาจเป็นตัวที่ทำให้ลำไส้เกิดการบีบตัว
กาแฟอาจเป็นตัวกระตุ้นระบบลำไส้ให้เกิดการบีบตัว
ภายหลังจากการดื่มกาแฟเข้าไปเพียง 1 นาที
มีการศึกษากับกลุ่มตัวอย่างผู้ทดลอง 12 คนในปี 1998
โดยมีการสอดสายตรวจจับการทำงานของลำไส้ลงไปในลำไส้
ของผู้รับการทดลอง
และในอีก 10 ชั่วโมงวัดถัดมา
ผู้เข้าร่วมการทดลองได้ดื่มกาแฟร้อนทั้งแบบมีคาเฟอีนและชนิดไม่มีคาเฟอีน
รวมถึงทานอาหารปกติ แต่ไม่ได้ทานตามลำดับคือใครอยากทานอะไร
ก่อนหลังเลือกทานได้เลยตามอัธยาศัย
พบว่ากาแฟทั้งชนิดมีคาเฟอีนปกติและชนิดไม่มีคาเฟอีนรวมถึงอาหาร
ต่างกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้
แต่กาแฟที่มีคาเฟอีนกระตุ้นการทำงานของลำไส้มากกว่าน้ำเปล่า
ถึง 60 เปอร์เซ็นต์และมากกว่ากาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน 23 เปอร์เซ็นต์
อีกการศึกษาหนึ่งก็พบว่า หลังจากผู้ทดลองดื่มกาแฟดำที่ไม่ผสมน้ำตาล
เข้าไปภายใน 4 นาทีจะเริ่มมีอาการอยากถ่ายหนักและมีผลต่อเนื่อง
นาน 30 นาที
การศึกษาเหล่านี้หมายความว่ากาแฟไม่ได้เข้าไปกระตุ้นลำไส้โดยตรง
แต่เข้าไปกระตุ้นผ่านกระเพราะอาหาร
นั่นคือเมื่อดื่มกาแฟเข้าไป
เยื่อบุกระเพาะอาหารจะกระตุ้นให้ระบบประสาทและฮอโมนที่เกี่ยวกับ
การทำงานของลำไส้เริ่มทำงาน และเมื่อลำไส้ทำงานก็จะส่งอุนจิ
ไปยังลำไส้ตรง
และบู้ม!เกิดเป็นโกโก้ครั้นช์
1
และสารประกอบที่ชื่อ เมลานอยดิน(Melanoidins)ที่ได้จากการคั่วกาแฟ
มีไฟเบอร์ที่ช่วยในการดูดซึมและป้องกันท้องผูกด้วย
2.กาแฟอาจส่งผลต่อฮอร์โมนและกรดในกระเพราะ
กาแฟช่วยให้หลั่งฮอร์โมนแก๊สทริน(gastrin) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้
กระเพราะอาหารหลั่งน้ำย่อยอาหารออกมา ซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร
และกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้
การศึกษาในปี 1986 พบว่า
ไม่ว่าจะดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนหรือไม่มีก็ตาม ส่งผลต่อระดับฮอร์โมน
แก็สทรินที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
และในการศึกษาในปี 2009 พบว่า
หลังจากให้ผู้ทดลองอดอาหารมาทั้งคืนและในวันถัดไป
ได้แบ่งเป็นสามกลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ทานอาหารปกติ
กลุ่มที่ 2 ทานอาหารและดื่มกาแฟ
กลุ่มที่ 3 ดื่มแต่กาแฟ
1
พบว่าการดื่มกาแฟพร้อมมื้ออาหาร
ช่วยทำให้กระเพราะอาหารย่อยและส่งไปที่ลำไส้เล็กเร็วขึ้น
ดร.ไคลน์กล่าวว่า
"ต้องมีสารประกอบของกาแฟบางอย่างไปกระตุ้น
ตัวรับสัญญาณโอปอย(Opiod receptor)ในทางเดินอาหาร
ที่ส่งผลต่อระบบลำไส้แน่ๆ"
1
3. จู๊ดๆ เพราะผลิตภัณฑ์จากนมวัวต่างหาก ไม่ใช่กาแฟ
คุณอาจไม่รู้ตัวว่าคุณเป็นคนที่แพ้น้ำตาลแลคโตสที่มากับนมวัว
แต่คุณก็ยังสั่งกาแฟพร้อมกับนมและท๊อปด้วยวิปครีม
ซึ่งนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกมวลท้องอยากเข้าห้องน้ำ
วิธีที่จะรู้ได้คือคุณต้องหยุดดื่มกาแฟใส่นมให้เปลี่ยนเป็นกาแฟดำ
และเฝ้าสังเกตอาการสักวันสองวันว่าเป็นอย่างไร
ในขณะที่หลายงานวิจัยชี้ว่าการดื่มกาแฟช่วยให้ระบบ
ทางเดินอาหารทำงานได้ดีขึ้น
แต่การดื่มกาแฟเพื่อบังคับให้ร่างกายขับถ่ายของเสียนั้น
ดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
1
ถ้าคุณมีอาการท้องผูกต่อเนื่องแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการ
จบไปแล้วกับบทความ ทำไม? ดื่มกาแฟแล้วจู๊ด จู๊ด!
เชื่อว่าผู้อ่านที่เป็นคอกาแฟหลายคนคงต้องเคย
มีอาการท้องไส้ปั่นป่วนหลังดื่มกาแฟกันมาบ้าง
แต่การดื่มกาแฟเพื่อแก้ปัญหาท้องผูกขับถ่ายยาก
ดูจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ถ้ามีอาการท้องผูกยาวต่อเนื่อง
เบื้องต้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการจะดีกว่าครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบ
รูปภาพประกอบจาก
BBC
โฆษณา