13 พ.ค. 2022 เวลา 12:45 • ข่าวรอบโลก
"ยุโรป" ต้องใช้เงินมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์เพื่อตัดพลังงานของรัสเซีย
2
ล่าสุด!! คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้วางแผนที่จะใช้เงินจำนวนมหาศาลถึง 203 พันล้านดอลลาร์เพื่อพยายามบรรลุเป้าหมายในการหยุดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซียภายในปี 2570
1
โดยในแผนที่ทาง EC ร่างไว้ ได้สรุปการดำเนินการหลักสองประการ คือ
1. การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน การประหยัดพลังงาน
2. การหาแหล่งจ่ายก๊าซทางเลือกจากรัสเซีย
1
ซึ่งร่างนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง
ก่อนที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์หน้า
ซึ่งรวมถึงกฎหมายของสหภาพยุโรปและข้อเสนอแนะที่ประเทศสมาชิกสามารถทำได้ เช่น การใช้เงินทุนเพื่อการฟื้นฟูหลังโควิด-19 เพื่อใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน
นอกจากนี้ สหภาพยุโรปจะประเมินศักยภาพการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทดแทนจากอียิปต์ อิสราเอล และไนจีเรีย ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
เพื่อทดแทนการนำเข้าก๊าซของ"รัสเซีย"
โดยสหภาพยุโรป ได้ตั้งเป้าหมายสำหรับพลังงานหมุนเวียนเพื่อครองส่วนแบ่งตลาด 45% ภายในปี 2573
แทนที่จะเป็นข้อเสนอ 40% ในปัจจุบัน
รวมถึงสหภาพยุโรปยังตั้งเป้าที่จะลดการใช้พลังงานของกลุ่มลง 13% เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 9%
แผนดังกล่าว..
ยังจัดทำข้อเสนอจำนวนหนึ่งเพื่อแก้ไขกฎหมายของสหภาพยุโรปในการเร่งการออกใบอนุญาตโครงการพลังงานหมุนเวียน
ตลอดจนสร้างกลไกใหม่เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างกว้างขวาง
📷 Financial Times
ปัจจุบัน รัสเซียส่งออกก๊าซประมาณ 45% ของการนำเข้าก๊าซทั้งหมดของยุโรปในปี 2564
1
ซึ่งสหภาพยุโรปกำลังเสนอ..
ให้ลดการใช้ก๊าซของรัสเซียลง 66%
ภายในสิ้นปีนี้
แต่ยังไม่ได้ให้แผนรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
1
ด้านนักวิเคราะห์เตือนว่า..
ในขณะที่ความขัดแย้งในยูเครนไม่แสดงสัญญาณการสิ้นสุด
ความมั่นคงด้านพลังงานของยุโรป
อาจถูกคุกคาม
ในขณะที่ยังคงต้องพึ่งพาแหล่งน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ในบริบทที่มอสโกถือว่า
การใช้ก๊าซเป็นเครื่องมือกดดัน สหภาพยุโรป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้เงินจำนวนมหาศาลถึงกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพียงเพื่อร่วมมือกับสหรัฐฯในการกดดันรัสเซียเรื่องพลังงาน
3
มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่
นาทีนี้ยุโรปก็ต้องตอบตัวเอง
3
เพราะเอาเข้าจริง ปริมาณน้ำมันที่หวังพึ่งพาสหรัฐฯ ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะสหรัฐฯเองยังผลิตได้ไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ต้องมีการนำเข้าจำนวนมหาศาล
2
ร่วมถึงการเชื่อมต่ออื่นเช่น โรงกลั่น สถานีขนถ่าย คลังเก็บน้ำมัน ที่ต้องลงทุนมหาศาล
ที่สำคัญ สหรัฐฯ อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังอัตราเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับ 8.3% ในเดือนเมษายน
รวมถึงปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวที่แตะระดับ 30 ล้านล้านดอลลาร์และยังมีแนวโน้มเพิ่มอีกอย่างรวดเร็ว
1
เมื่อเทียบกับระบบพลังงานของรัสเซีย ที่ใกล้กว่า และสามารถส่งได้ไม่จำกัดจำนวน ในราคาที่ถูกกว่า
สรุปว่า.. เอาที่ยุโรปสบายใจค่ะ
2
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
13 พฤษภาคม 2565
โฆษณา