22 พ.ค. 2022 เวลา 11:00 • ไลฟ์สไตล์
🌈 ทำทุกความฝันให้สำเร็จด้วยคำถามแค่ข้อเดียว
1
เคยมั้ยคะที่ชีวิตไม่ได้ดั่งใจเอาซะเลย เงินเดือนน้อย บ้านที่มีอยู่ก็เล็ก งานที่ทำก็เหนื่อย ไหนยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบอีก คุณลองมาฟังเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่าเจนนี่ก่อนค่ะ แล้วคุณจะกล้าตั้งคำถามแค่ 1 ข้อที่ทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปได้ตลอดกาล
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่ Mary Morrissey ไลฟ์โค้ชหญิงชาวอเมริกันเล่าให้ฟังค่ะ วันหนึ่งเธอได้พูดคุยชื่อเจนนี่ แม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูกติดสองคนวัยกำลังโตเลยค่ะ 6 ขวบ กับ 11 ขวบ 3 แม่ลูกอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์เล็ก ๆ ค่าเช่าเดือนละ 500 เหรียญในประเทศสหรัฐอเมริกา
1
เจนนี่ทำงานเป็นพนักงานร้านฟาร์ทฟู้ดแห่งหนึ่ง รายได้เดือนชนเดือน บางเดือนเงินแทบไม่เหลือทำให้เธอต้องหางานเสริม เธอเลือกใช้เวลาที่เหลือรับซักรีดเสื้อผ้าเพื่อหาเงินมาเพิ่ม
วันที่เจนนี่เดินมาหาแมรี่ เธอมาในสภาพที่เบื่อกับชีวิต เธอระบายให้โค้ชฟังว่า ฉันเหนื่อยมากกับชีวิต เหนื่อยกับการทำงาน บางวันฉันต้องทำงาน 3 งานภายในวันเดียว ฉันเหนื่อยกับบ้านที่แออัด อพาร์ทเม้นท์มันแคบมาก หน้าต่างก็ไม่มี ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทเลย ฉันไม่อยากมีชีวิตแบบนี้แล้ว ฉันต้องทำยังไง
Credit : Pixabay
แมรี่มองเจนนี่แล้วพูดขึ้นมาว่า ถ้าเธอสามารถเปลี่ยนเรื่องอะไรก็ได้ในชีวิตแค่เรื่องเดียว เธอจะเปลี่ยนเรื่องอะไร เจนนี่ใช้เวลาคิดไม่นาน แล้วก็บอกว่า ฉันอยากได้บ้านใหม่ บ้านใหม่ที่จะทำให้ทั้งครอบครัวของเธอได้มีพื้นที่มากขึ้น เธออยากมีห้องนอนส่วนตัว มีห้องนอนให้ลูกๆ คนละ 1 ห้อง ที่สำคัญคือบ้านใหม่ต้องมีหน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
3
เจนนี่เล่าเสร็จ แมรี่ตอบว่า ถ้าเธออยากมีบ้านหลังใหม่ เธออยากทำให้มันเป็นไปได้เธอต้องทำยังไง เจนนี่งงแล้วถามไลฟ์โค้ชว่า เธอจะมาถามฉันทำไมในเมื่อเธอก็รู้ว่าฉันไม่มีปัญญาที่จะเช่าบ้านใหม่ได้ แค่ค่าเช่าเดือนละ 500 เหรียญ ฉันก็ต้องทำงาน 3 งานแล้ว ฉันจะไปมีปัญญาเช่าบ้านใหม่ได้ยังไงกัน
1
Credit :  Mary Morrissey
แมรี่ก็ตอบว่า “ฉันได้ยินแล้วว่ามันเป็นไปได้ แต่ถ้าอยากให้มันเป็นไปได้ เธอต้องทำยังไง” เจนนี่นิ่งไปสักพักก็โวยวายว่า ฉันจะทำยังไงได้ ความรู้ฉันไม่มี เรียนหนังสือก็ไม่จบ สามีก็เลิกกันไปนานแล้ว ทำให้ต้องมาเลี้ยงลูกอยู่นี่ไง มันจะเป็นไปได้ยังไง เจนนี่น้ำเสียงเริ่มสั่น ไม่ค่อยพอใจกับคำตอบที่ได้รับ
แมรี่ไม่ได้อารมณ์ขี้นตามเจนนี่ เธอดูสงบแล้วก็ตอบกลับย้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงเสียงสวยๆ ว่า “ฉันได้ยินแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเธออยากให้มันเป็นไปได้ เธอต้องทำยังไง”
การย้ำคำพูดว่า “ถ้าอยากให้มันเป็นไปได้ต้องทำยังไง” ทำให้เจนนี่ที่ดูเดือด ๆ เมื่อสักครู่นิ่งลงแล้วใช้ครุ่นคิดพร้อมบอกว่า ฉันคงต้องลองไปหาบ้านดูก่อนใช่มั้ยคะ เมรี่พยักหน้าทำให้เจนนี่คิดในใจว่าเออ งั้นเราคงต้องลองดูบ้านเช่าหลังใหม่แบบจริงจังแล้วล่ะ
1
สองอาทิตย์ผ่านไปเจนนี่กลับมาหาแมรี่พร้อมกับบอกว่า เจนนี่ฉันเจอบ้านแล้ว ตรงสเปกที่ฉันอยากได้เลย 3 ห้องนอน มีหน้าต่าง อากาศถ่ายเทสะดวก แต่มันออกจะเก่า ๆ โทรม ๆ แถมราคาตั้ง 1000 เหรียญ ราคาสูงมากฉันจ่ายไม่ไหวหรอกค่ะ แมรี่ถามประโยคเดิมกลับไปอีกครั้ง
1
“ฉันได้ยินแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ถ้าเธออยากให้มันเป็นไปได้ เธอต้องทำยังไง”
เจนนี่นั่งเงียบอยู่สักพักใช้เวลาคิดแล้วดวงตาเป็นประกายเธอพูดว่า ฉันรู้แล้วว่าจะทำยังไง ฉันจะเขียนจดหมายไปหาเจ้าของบ้านเล่าสถานการณ์ของฉันให้เค้าฟัง พร้อมกับยื่นเสนอให้เค้าว่า ฉันจะขอเช่าบ้านของเค้าในราคา 500 เหรียญ แลกกับการซ่อมแซมบ้านของเค้าตลอดสัญญา 1 ปี ไม่แค่นั่นเธออยากวาดรูปแปลนบ้านใหม่ที่มีการซ่อมแซมแล้วแนบไปให้เจ้าของบ้าน ได้คำตอบจากแมรี่เธอก็กลับบ้านไป
Mary Morrissey
ไม่กี่วันเธอก็มาหาแมรี่อีกครั้งพร้อมกับบอกว่า เจ้าของบ้านตกลงจะให้ฉันเข้าไปอยู่อาศัยพร้อมกับข้อเสนอที่เธอให้เค้า เธอจะจ่ายค่าเช่าบ้านเพียง 500 เหรียญแลกกับพื้นที่เพิ่มมากขึ้นของสมาชิกในครอบครัว แต่เงื่อนไขของเค้าคือ เค้าจะเป็นคนเลือกอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านทุกอย่างเอง หน้าที่ของของเจนนี่คือลงมือซ่อมแซมบ้านให้สำเร็จตามที่ตกลงไว้
1
นับตั้งแต่วันที่เธอหาบ้านราคา 500 เหรียญได้สำเร็จ เจนนี่นำหลักคิด “ถ้าอยากเป็นไปได้ ต้องทำยังไง” ของแมรี่ไปใช้กับทุกเรื่องของชีวิต ทั้งเรื่องส่วนตัว ที่ทำงาน ในปีเดียวกันหลังจากเธอใช้หลักการนี้เธอได้รับการเลื่อนขั้น 2 ครั้ง จากพนักงานฟาร์ทฟู้ดธรรมดาๆ ทำให้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการสาขา
2
เมื่อครบ 1 ปีของสัญญาเช่า เจ้าของบ้านก็ขอเลื่อนค่าเช่าเป็น 1000 เหรียญ ซี่งแน่นอนว่าเธอสามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้ เพราะตอนนี้เธอเป็นผู้จัดการสาขาแล้ว ไม่นานความสามารถของเธอก็ฉายแววขึ้นเธอได้ย้ายจากทำงานที่สาขาไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ เธอได้ทำงานที่ดีกว่าเดิม มีเงินทองมากขึ้นผ่านการตั้งคำถามแค่ 1 ข้อ
1
หันมามองที่ตัวเราค่ะ ถ้าเรายังคิดแค่ว่า ทุกวันนี้เรามันช่างธรรมดามาก หน้าที่การงานก็เท่าเดิม เงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น (มีแต่ภาระที่เพิ่มขึ้น อ๋อยยย) คุณจะตั้งคำถามเดียวกับที่คุณแมรี่ตั้งไหมคะ คุณตั้งคำถามแล้วแล้วคุณจะหาวิธีตอบมันได้ไหมคะ ลองนำแนวคิดนี้ไปใช้ดูค่ะ ทาร่าคิดว่าถ้าเจนนี่ทำได้คุณก็ทำได้เช่นกัน
1
💭 “ฉันได้ยินแล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่ถ้าเธออยากให้มันเป็นไปได้ เธอต้องทำยังไง”
สำหรับใครที่สนใจ how-to ทำ vision board ให้ได้ผลเป๊ะปัง เสกชีวิตในฝันได้ง่ายๆ แค่หารูปที่เราชอบมาแปะๆ ไว้ในที่ๆ สามารถมองเห็นได้ทุกวัน ทาร่าขอแนะนำเล่มนี้เลยค่ะ
 
📙📙📙
 
หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow
 
แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl
 
E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0
 
E-book ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj
 
🌈🌈🌈🌈🌈
เกี่ยวกับผู้เขียน
Tara Thow อ่านว่า ทาร่า โถว เป็นมนุษย์แม่ลูกสองอยู่ที่ซิดนีย์ สนใจศาสตร์พัฒนาตัวเอง ปรัชญา ธุรกิจ ครอบครัว รักเสียงเพลง ไวน์แดง และนิยาย
#คอร์สธุรกิจออนไลน์เริ่มง่ายไม่ต้องใช้เงินทุน
#หนังสือเปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ
#หนังสือไมเคิลเรียนไม่เก่งจนสอบตกป.3
#สอนภาษาไทยให้เด็กๆที่เกิดต่างประเทศ
#อบรมครูสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
💞 💞💞💞💞
ช่องทางในการติดตามทาร่า 😘
IG: tarathow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: จุด by Tara Thow
Tiktok: @tarathow
Line: @tarathow
โฆษณา