21 พ.ค. 2022 เวลา 08:19 • การตลาด
สงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมหนังและละครของอินเดียต้องเต้นและร้องเพลงด้วย?
ควันหลงของคังคุไบฟีเวอร์ที่ยังไม่จางลง เพราะเป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาที่น่าติดตาม ทั้งยังเป็นการเรียนรู้จากข้อจำกัดที่ผู้หญิงคนหนึ่งฝ่าฟันมาได้อย่างยากลำบาก ภาพรวมแล้วทำให้คนที่ได้ชมเรื่องนี้ทั้งซาบซึ้ง ทั้งได้เนื้อหาสาระที่สามารถสร้างกำลังใจได้ และที่สำคัญคือการได้รับความเพลิดเพลินจากเพลงและการเต้นรำประกอบภาพยนต์ด้วย
ในชีวิตจริงคงไม่มีใครที่จะมารวมกลุ่มกันโดยบังเอิญ ที่ทั้งร้องทั้งเต้นรำได้อย่างเข้ากั้นเข้ากันแบบในภาพยนตร์อยู่แล้ว การที่ทำให้มีการแสดงออกเหนือกว่าสถานการณ์ปกติ (Over Acting) จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้เป็นอย่างดี
ในช่วงที่ “ยุคใหม่ฯ” ทำงานอยู่ที่ประเทศอินเดียทางตอนใต้ ที่เมืองราชมนตรี รัฐอันดราประเทศ ซี่งมีพื้นที่ทางตอนใต้ติดกับรัฐทมิฬนาดู ทางตอนเหนือติดกับรัฐโอริสาและรัฐมหาราชตะที่อยู่ทางตะวันตก ที่เป็นสถานที่ตั้งของอุตสาหกรรมภาพยนต์ ที่ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก ชื่อว่า “บอลลีวู๊ด”
ที่มา YES FM 100
ในช่วงนั้นมีนักร้องชาวไทยที่โด่งดังมากในอินเดีย จากเพลง Sexy, Naughty, Bitchy นั่นก็คือ อมิตตา ทาทา ยัง ไม่ว่าจะเปลี่ยนช่องไปกี่ช่องก็จะเจอทาทารอต้อนรับอยู่ และเธอก็ได้ออกเพลงชุดที่ 2 ต่อมาก็โด่งดังเป็นพลุแตกอีก โดยมีเพลงเด่นที่ชื่อว่า Dhoom Dhoom บนแผงจำหน่ายซีดีจะมีอัลบั้มของทาทาทุกแผง
ที่กล่าวถึงทาทายัง นั่นก็เพราะว่าเพลงของเธอเน้นการเต้นที่สร้างการจดจำได้เป็นอย่างดี “ยุคใหม่ฯ” ดูจนกระทั่งว่าท่าเดินจะเป็นท่าเต้นแบบทาทาอยู่แล้ว ซึ่งเพลงที่มีท่าเต้นทั้งหลายก็จะถูกบรรจุอยู่ในทั้งหนังและละครเสมอ สังเกตง่ายๆเลยว่าเริ่มมองตากันเมื่อไหร่ นั่นคือสัญญาณการเต้นจะมาแล้ว
1
Credit: A Play Music Digital
ละครที่ดูเศร้าๆก็ไม่วายที่จะมีเพลงประกอบ ทั้งที่เป็นเพลงช้าโหนเสา-แบมือ-ส่ายหน้า บางครั้งก็เป็นเพลงเต้นเฉยเลยทั้งที่ละครก็เป็นเรื่องดรามา หนังที่ดูสนุกสนานไม่ต้องห่วงเลยว่าจะไม่มีเพลง บางเรื่องจับยัดจนคิดว่าดูละครเพลงด้วยซ้ำ
วัฒนธรรมการชมภาพยนตร์ของคนที่นั่น ชอบเพลงและชอบการร้องรำทำเพลงอยู่แล้ว ช่วงที่ “ยุคใหม่ฯ”เดินทางไปตามเมืองต่างๆ เห็นมีการเต้นรำแบบในหนังแทบทุกเมืองก็ว่าได้ การพูดการจาก็จะส่ายหัวตลอด จะตอบว่าใช่หรือไม่ใช่ก็จะส่ายหัวแบบเดียวกัน
ในตอนเด็กๆก็เคยเห็นเพลงประกอบหนังอินเดีย กว่าจะร้องจบต้องวิ่งจากภูเขาอีกลูกไปโผล่อีกลูก บางทีวิ่งทะลุป่าฝ่าทะเลเลยก็มี พอโตมามีโอกาสได้ไปชมหนังอินเดีย ก็ยังพบว่าวิ่งจากภูเขาจากอีกลูกไปอีกลูกหนึ่งอยู่ดี บางทีก็วิ่งอยู่ในเมือง ที่สำคัญคือเมืองที่คนอินเดียนิยมมาถ่ายทำก็คือกรุงเทพมหานคร และแน่นอนภูเขาก็นิยมมาวิ่งร้องเพลงที่ภูเขาในประเทศไทยด้วย (นั่นคือสถานการณ์ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด)
Credit: EaseMyTrip.com
นอกจากการทำหนังและละครที่ต้องมีเพลงและการเต้นรำประกอบ เหมือนเป็นภาคบังคับโดยปริยาย ทำให้เราพบว่าเกือบทุกเรื่องต้องมีการร้องการเต้นรำ เรื่องนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของหนังและละครของอินเดียด้วย
อีกเหตุที่สำคัญที่ทำให้ต้องมีเพลงและการเต้นรำก็คือ ผู้ผลิตสามารถที่จะแยกเอาช่วงที่มีการร้องเล่นเต้นรำมาขายต่อได้ ทั้งเป็นมิวสิควีดีโอและการนำเพลงมาขายได้ต่อ เป็นการบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังทำให้หนังละครและนักแสดงอยู่ในกระแสได้นานขึ้น เนื่องจากเพลงและมิวสิควีดีโอจะมีการชมได้คนละหลายๆรอบ ทำให้คนที่ยังไม่ชมหนังหรือละครเรื่องนั้นหันมาสนใจ รวมถึงคนที่ได้ชมแล้วก็กลับมาชมใหม่อีกครั้ง
1
เป็นกลยุทธการผลิตหนังและละครที่สามารถสร้างคุณค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
อีกอย่างคือความบันเทิงหลักของคนอินเดียก็คือการชมหนังและละคร ถึงแม้ว่าปัจจุบันอาจจะมีการชมผ่านอินเตอร์เน็ตหรือ Netflix กันเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งแกนของความบันเทิงในรูปแบบเดิมที่คนอินเดียให้ความสนใจ การทำให้คนดูเพิ่มและดูช้ำ นั่นก็คือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะไหลเข้าสู่อุตสาหกรรมหนังและละครอินเดียมากเท่านั้น
ที่มา Sanook
นี่ก็คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังและละครอินเดียต้องมีการเต้นรำและร้องเพลงประกอบ
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Modernization Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
โฆษณา