สหรัฐ อังกฤษ ปกป้องฟินแลนด์ปุ๊บ รัสเซียตัดก๊าซปั๊บ เตรียมมุดลงไต้ดินอีกแล้ว
มหาสงครามโลกครั้งที่ 2 ฟินแลนด์ ที่อยู่ฝ่ายเยอรมนี ปิดล้อมเมืองเลนินกราด จึงถูกสหภาพโซเวียติเอาคืน โดยใช้เครื่องบินไปทิ้งระเบิดกรุงเฮลซิงกิ ผู้คนเสียชีวิตมากมาย บ้านเมืองย่อยยับ ทำให้รัฐบาลรุ่นต่อมานานถึง 77 ปี มีนโยบายเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ
แต่แอบหนุนให้ที่พักพิงและเงินทุนกลุ่มก่อการร้ายพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน PKK และกลุ่มก่อการร้าย Kerdish YPG ที่ต้องการแยกดินแดนจากตุรกี และ 2 ชาตินี้ก็ทะเลาะคว่ำบาตรกันไปมา ความขัดแย้งจึงจำกัดวงแค่นั้น รัสเซียที่มีพรมแดนติดกับฟินแลนด์ 1,340 กม.ก็ไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเพราะไม่ใช่ภัยคุกคามของตน
แต่ทันทีที่ฟินแลนด์ลงนามสมัครเข้าร่วม NATO
ที่ให้สหรัฐ อังกฤษ ชอบนำเพื่อนในกลุ่มไปรุมตีทำสงครามกับชาติอื่น นาทีนั้นฟินแลนด์ก็สูญเสียความเป็นกลางในทันที เปลี่ยนสถานะจุดยืนระหว่างประเทศเป็น "ภัยคุกคามรัสเซีย" แผลแรกที่รัสเซียหยิกคือ "ตัดไฟฟ้าฟินแลนด์" ที่มีผลราว 5% ที่ใช้ ตอนนั้นหลายคนยังรู้จักรัสเซียน้อยไป คิดว่าไม่กระทบอะไรมาก แต่แล้วแผลที่สองเหวอะก็ตามมาเมื่อตุรกี ที่ "กายเป็น NATO
แต่ปันหัวใจให้รัสเซีย" ได้ประกาศเป็นจระเข้ขวางคลอง "ขัดขวางไม่ยอมรับฟินแลนด์ สวีเดน เข้ากลุ่ม NATO"
แก้แค้นที่ 2 ชาตินั้นทำกับตุรกีเจ็บแสบมานานหลายทศวรรษ ถ้าฉีกฟินแลนด์ สวีเดน เป็นชิ้นได้ตุรกีจะรู้สึกผ่อนคลายและบันเทิง
ความเป็นอริต่อกันหลายสิบปีรอยแค้นฝังหุ่นตั้งแต่บรรพบุรุษย่อมไม่อาจยอมกันได้ ถึงจังหวะเอาคืนแล้วคู่อริไม่เละก็ไม่เลิกเช่นกัน แผลสองยังไม่หนำใจ รัสเซียยังส่งซิกให้โครเอเซีย สมาชิก NATO มาฟาดแผลสามซ้ำ "ประกาศเป็นจระเข้ชาละวันขวางฟินแลนด์ และสวีเดน ห้ามเข้า NATO"
อ้างปัญหาบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สร้างความไม่เท่าเทียมชาวโครแอช
แค่สามแผลแรก ทั้งฟินแลนด์ กับสวีเดน ก็เมาหมัดงงไปหมด คนไม่เคยมีเรื่อง จู่ๆ มีบรรดาชาติต่างๆ โผล่มาเตะตัดขาจนเซ รัสเซียก็ไม่รอช้า ฟาดแผลสี่อีกทันที โดย Gasum รัฐวิสาหกิจพลังงานของฟินแลนด์
ยอมรับว่าเพิ่งได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจาก Gazprom ว่ารัสเซียจะเริ่มตัดการส่งก๊าซให้แก่ฟินแลนด์ ตั้งแต่ 21 พ.ค.65 เวลา 04.00 น.ตามเวลามาตรฐานกรีนิช เหตุผลคือ "ฟินแลนด์เบี้ยว" ไม่จ่ายเงินค่าก๊าซให้รัสเซียเป็นเงินรูเบิล ทาง Gasum ฟินแลนด์ ตาละห้อยระบุว่า
"รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ที่สัญญาซื้อก๊าซจากรัสเซียจะต้องถูกระงับไป"
แต่พยายามฝืนยิ้มแห้งๆ ระบุว่า การตัดก๊าซของรัสเซีย จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในฟินแลนด์ เพราะก๊าซเกือบทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ มาจากรัสเซีย 94% ก็จริง แต่การใช้ก๊าซนั้น มีสัดส่วนไม่ถึง 10%
ของการบริโภคพลังงานในฟินแลนด์ เพราะนำเข้าพลังงานส่วนใหญ่มาผลิตไฟฟ้าจากนอร์เวย์ แต่ฟินแลนด์อาจลืมไปว่ายังใช้พลังงานถ่านหินจากรัสเซียอีก 40% ด้วย ซึ่งคือแผลใหญ่ต่อไปที่รัสเซียจะฟาดฟินแลนด์ในอนาคต แค่นี้การท่องเที่ยวฟินแลนด์ก็ชะงักแล้วชาวโลกที่ไหนจะกล้าไปใกล้ขีปนาวุธ Iskander ติดหัวรบนิวเคลียร์รัสเซีย ที่ขนมาชายแดนจ่อเผาขนนครเฮลซิงกิ
เมืองหลวงฟินแลนด์ ใกล้ขนาดนั้น
อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเลย แม้แต่รัฐบาลฟินแลนด์เอง ยังต้องเตรียม "อาชอฟสตาล เวอร์ชั่น2" เมืองใต้ดินใต้นครเฮลซิงกิ เตรียมมุดลงใต้ดินเป็นมนุษย์ถ้ำหากโดนถล่มด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ในฟินแลนด์ขณะนี้ปัดฝุ่นบังเกอร์ใต้ดินทั่วประเทศกว่า 5,000 แห่ง รองรับคนส่วนน้อยได้มากกว่า 1 ล้านคน หรือ 25% ของประชากร ที่เหลือส่วนใหญ่ 75% กว่า 4.5
ล้านคนก็ยอมให้เป็นปุ๋ยไป โดยทางการอ้างว่าสามารถหลบภัยสงครามนิวเคลียร์ได้นานเป็นเวลาหลายเดือน ไต้อาคารกว่า 60 แห่ง พื้นที่รวมมากกว่า 1,200 ตร.ม. เตียงเพียงพอ เป็นที่อยู่อาศัยในนครเฮลซิงกิทุกคน ในส่วนนอกเมืองหลวง บังเกอร์เหล่านี้มีบรรไดลงไปใต้ดินลึก 4 ชั้น 25 เมตร ผนังคอนกรีต
มีอุโมงค์ยาวและลาดเอียงที่ขุดลงไปในหินแกรนิตแข็ง ทอดยาวเชื่อมต่อกันเกือบ 320 กม. และครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10
ล้านตารางเมตร ลึกลงไปใต้ดิน ประตูเหล็กสามารถรับแรงดันได้ 6 บาร์ ทนระเบิดนิวเคลียร์ได้ กันแก๊สพิษและสารเคมี มีพื้นที่และเตียงเพียงพอสำหรับเป็นที่พักพิงของผู้อยู่อาศัย 630,000 คน และสำหรับผู้มาเที่ยวหรือทำงานในเมืองต่างๆ ที่มีบังเกอร์ ปัจจุบันมีคาเฟ่ สนามซอฟต์บอล
สนามแข่งรถโกคาร์ท ที่จอดรถ เตียงสองชั้นหลายพันหลัง พร้อมด้วยสนามเด็กเล่น ลานฮ็อกกี้ และสระว่ายน้ำ ติดตั้งระบบกรองอากาศที่ซับซ้อน สามารถป้องกันอนุภาคกัมมันตภาพรังสีและสารอันตรายอื่นๆ
มีเครื่องตรวจจับก๊าซทั้งบนและใต้พื้นดินที่คอยตรวจสอบระดับความเป็นพิษ อ่างเก็บน้ำใต้ดิน ระบบไฟฟ้าสำรองที่จะเริ่มทำงานหากระบบไฟฟ้าหลักไม่สามารถใช้การได้ บังเกอร์มีเสบียงอาหารและน้ำดื่มสำหรับ แต่ละครอบครัวนานราว
14 วัน ห้องเก็บของซึ่งมีเตียงฉุกเฉินหลายพันเตียงซ้อนอยู่ มีห้องสุขา ห้องควบคุมระบบผลิตออกซิเจนขนาดใหญ่ เสบียงเม็ดไอโอดีนด้วยสำหรับลดผลกระทบจากรังสี มีการจัดหาธัญพืช เช่น ข้าวสาลีและข้าวโอ๊ตในระยะเวลาหกเดือน และเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ เช่น เบนซินและดีเซล มีอุโมงค์ขนาดเล็กนำไปสู่พื้นที่อื่นๆ ที่กองทัพใช้เท่านั้น เชื่อมต่อกับเกาะที่กองทหารที่รับผิดชอบในการป้องกันเมืองหลวง หากถูกโจมตี
สาธารณชนจะได้รับคำสั่งให้เคลื่อนย้ายลงสู่หลุมหลบภัย ฟินแลนด์มีทหารประจำน้อยแค่ราว 8,000 นาย ที่เหลือ 25,000 นายเป็นทหารเกณฑ์ กองทัพเพิ่งสั่งระดมอาสากำลังพลสำรองเพิ่มได้ราว 6 เท่า หรือราว 200,000 นาย ฝึก 2 สัปดาห์ ส่งออกแนวหน้าเลย..สหรัฐ อังกฤษ มีหลักคิดว่า
"ความไม่มั่นคงของคนอื่น คือความมั่นคงของตน" ฟินแลนด์ ญาติดีกับเพื่อนบ้านรัสเซีย มั่นคงมา 77 ปี พอลงนามกับสัญญากับอังกฤษ และสหรัฐรับปากให้คำมั่นจะปกป้องให้ปลอดภัย จากนั้นสมัครเข้า NATO
ผลคือฟินแลนด์ไม่มั่นคงในข้ามคืน ถึงกับเตรียมลงรูเป็นมนุษย์ถ้ำ..ลองดู สงครามในยูเครน และมนุษย์ถ้ำใต้โรงงานเหล็กอาชอฟสตาล มุดถ้ำนาน 30 วัน ยังต้องยอมจำนนกับรัสเซียที่ถล่มไม่ยัังด้วยอาวุธแปลกๆ..ฟินแลนด์สู้ต่อไปนะ ความเดือดร้อนใหญ่จะตามมาไม่หยุดแน่นอน
ที่มา : Reuters ,The Helsinki Rescue Department , dailymail
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
