28 พ.ค. 2022 เวลา 04:27 • บันเทิง
"แนะนำหนัง" คังคุไบ กะทิยาวดี หญิงแกร่งแห่งมุมไบ Gangubai Kathiawadi ด้านมืดของสังคมอินเดีย
no review no spoiler เพราะนี้คือ “แนะนำหนัง”
คังคุไบ กะทิยาวดี หญิงแกร่งแห่งมุมไบ Gangubai Kathiawadi ภาพยนตร์อินเดียสุดเข้มข้นที่หลายวันก่อนเป็นกระแสใน Netflix Thailand พร้อมกับกระแสบอกต่อที่ล้นหลาม ของหญิงสาวที่ชื่อคงคาที่โดนหลอกมาขายในซ่องแห่งหนึ่ง เป็นโสเภณีที่สู้ชีวิตจนได้เป็นคังคุไบ กะทิยาวดี ราชินีมาเฟียแห่งเมืองมุมไบ แต่เรื่องจริงของสาวคนนี้จะเป็นอย่างไรวันนี้มาอ่านกัน
ตัวภาพยนตร์ คังคุไบ กะทิยาวดี นั้นดัดแปลงมาจากบทหนังของนวนิยายเชิงสารคดีเรื่อง MAFIA QUEENS OF MUMBAI ที่เขียนโดย S.HUSSAIN ZAIDI นักเขียนผู้ที่เป็นนักข่าวสืบสวนสอบสวนซึ่งถึงแม้หนังสือและภาพยนตร์จะมีเส้นเรื่องและพล็อตเรื่องที่คล้ายๆกันแต่ตัว
ลายละเอียนบางอย่างกับแตกต่างออกไปเพราะว่าตัวภาพยนตร์ก็ใส่ดีเทลเล็กๆน้อยๆเติมแต่งเข้าไปเพื่อให้ได้มาซึ้งอรรถรส หรือเปลี่ยนลายละเอียดเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ชื่อไปอ้างอิงกับคนในประวัติศาสตร์จริง
ในหนังสือต้นฉบับเล่าเรื่องของคังคุไบว่าเธอเป็นเด็กสาวจากบ้านที่ครอบครัวมีฐานะ แต่ก่อนเธอมีชื่อว่าคงคาเติบโตขึ้นมาที่ กาเทียวา รัฐคุจารัฐ อินเดีย ในประมาณยุคปี 1940 จากครอบครัวที่เป็นทนายและนักการศึกษาและยังมีความเชื่อมโยงกับราชวงแห่งกาเทียวา ครอบครัวของเธอค่อนข้างเข้มงวดแต่ก็สนับสนุนเรื่องการศึกษาในกับลูกๆซึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกในยุคสมัยนั้นแต่ตัวคงคาเอง
ที่ฝันอยากจะมาเป็นนักแสดงที่บอมเบย์ อินเดีย พอเธออายุอานามช่วงวัยรุ่นเธอก็หลงรักรามนิกนักบัญชีที่พ่อของเธอจ้างมาหนึ่งในสิ่งมี่เธอสนใจก็คือสิ่งที่เขาบอกกับเธอว่าเขาเคยอยู่ที่บอมเบย์มาก่อน เพื่อความรักที่หวานได้ที่ทั่งสองเลยนี้กันไปแต่งานที่วัดและเธอก็ติดเงินสดกับเครื่องเพชรมาด้วยจำนวนหนึ่งที่ใช้ในการเดินทางแต่ไม่นานเมื่อเงินขาดมือรามนิกก็บอกให้เธอ
ไปอยู่บ้านของป้าแต่เขากับขายเธอเพื่อแลกกับเงินแค่ 500 รูปี หรือแค่ประมาณ 300 บาทในสมัยนั้นหรือ 3,000 บาทในสมัยนี้ ในซ่องนี้เธอโดนกักขังและทุบตีถึงแม้จะคิดฆ่าตัวตายก็ยังทำไม่ได้ เพราะมีคนจับตาดูอยู่ตลอดหลังจากนั้นสองสัปดาห์สุดท้ายแล้วเอก็ยอมจำนนท์และใช้ชีวิตเป็นโสเภณีนันแต่นั้นมา และภายหลังเธอก็เปลี่ยนชื่อเป็นคังคุไบ
ฉากที่ถูกตัดออก
คังคุไบ เป็นโสเภณีที่มีชื่ออยู่ในตอนนั้นซึ่งนำให้เธอมาเจอกับนักเลงที่ข่มขืนและทำร้ายเธอสองภายในสัปดาห์ในครั้งที่สองเธอถึงกลับต้องเข้าโรงพยาบาลเธอจึงไปพบกับ คาริมลาลา (หรือในภาพยนตร์เปลี่ยนชื่อเป็นลาฮิมลาลา) ที่เป็นมาเฟียใหญ่ที่มีตัวตนจริงๆในประวัติศาสตร์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์อินเดียในหลายต่อหลายเรื่อง
คาริมคุมแก็งอยู่นานและได้ลงจากตำแหน่งในปลายปียุค 70 และเสียชีวิตใน 2002 ตอนอายุประมาณ 90 ปี ในภาพยนตร์คังคุไบมาของให้เขาช่วยและได้ผูก (ราคี) ที่เป็นด้วยสาบานว่าจะเป็นพี่น้องกัน (ฉากนี้ไม่ได้มีในภาพยนตร์) ภาพยนตร์ได้เสนอผ่านฉากที่งดงามและบทเส้นเรื่องพล็อตที่ทรงพลัง คังคุไบมีส่วนร่วมอย่างมาในการดันสิทธิผู้หญิงค้าบริการ
การเรียกร้องของเธอนั้นทำให้เธอได้พบกับ นักการเมืองท่านหนึ่งที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย ซึ่งก็เป็นเหตุการณ์สำคัญที่อยู่ในภาพยนตร์เช่นเดียวกัน ความน่าสนใจคือการพบกันในครั้งนี้มีจุดที่ CBFC ข้อให้เปลี่ยนและตัดออกบางส่วน
ซึ่งก็คือฉากที่รัฐมนตรีถามคังคุไบว่าทำไมเลือกอาชีพนี้แทนที่จะหาสามีดีๆและแต่งงานไปเสีย แลพคังคุไบก็ตอบกับว่าแล้ว่านละจะแต่งงานกับฉันไหม และอีกสุดที่ขอให้โดยตัดออกคือฉากที่เณรูเสียกุหลาบใส่ที่ผมของคังคุไบ
เรื่องจริงที่สะท้อนผ่านตัวหนัง
นอกจากตัวละครเล่านี้ที่มีคัวตนจริงแล้ว ตัวละครสมมุตรอื่นๆก็มีเคล้าโคลงจากความจริงในสังคมอินเดีย ทั่งลูกสาวของหญิงค้าบริการ ที่ไม่ได้รับโอกาสในการได้ร่ำเรียนและทำให้เธอเหล่านั้นต้องอยู่ในวงเวียนของการค้าประเวณีอยู่ล่ำไปผ้านเด็กสาวในภาพยนตร์ หรือตัวประเด็นเรื่องของความรักและการมีครอบครัวที่เป็นไปได้ยากมากๆในสังคมผู้ค้าบริการที่ผ่านทั้งคุงคุไบ
และตัวกำลีอีกหนึ่งประเด็นที่ขาดไม่ได้เลยคือ“ฮิชระ”เพศที่สามของอินเดียที่โดนกีดกันจากสังคมแต่ก่อนหน้านี้ “ฮิชระ” ถูกยอมรับจากสังคมเป็นอย่างมากเพราะส่วนใหญ่จะมีอาชีพคือการร้องเล่นต้นรำและเป็นผู้ให้ความบันเทิง และเพิ่งเริ่มถูกกีดกันจากสังคมก็ตอนที่อินเดียเป็นอณานิคมให้กับประเทศอังกฤษจนหลายคน
ต้องมาค้าบริการเลยทำให้มีผู้ค้าบริการเป็นเพศที่สามอย่างเช่นตัวละครอย่างราเซียไบ นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่ร้ายกาจแอบแฝงในคราบของนักบุญของอังกฤษที่ล่าอินเดียเป็นเมืองขึ้น ที่แสดงผ่านตัวละครบาทหลวง
และแล้ว คังคุไบ กะทิยาวดี หญิงแกร่งแห่งมุมไบ Gangubai Kathiawadi จังเป็นภาพยนตร์ที่พลั่งพร้อมไปด้วยเรื่องราวที่เข้มข้นลุ้มเลิศด้วยภาพสวยงามสุดตระการตา ด้วยบทถาพยนตร์ที่ทรงพพลังและสละสลวยที่มีคำคมและประโยคดีๆโดนๆเด็ดๆมากมายการการแสดงที่สมบูรณ์แบบที่เข้าถึงคนทั่วโลกได้แต่ก็ไม่ทิ้งลายเซ็นของหนังอินเดียหรือร้องเล่นเต้นในแบบฉบับที่ไม่มีใครทำ
(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนะเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ "คะแนนของคุณไม่ใช้คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น)
#จิปาถะและอรรถรส
โฆษณา