1 มิ.ย. 2022 เวลา 16:39 • ประวัติศาสตร์
สวัสดีครับเพื่อนผู้อ่านชาว Blockdit ทุกๆท่าน กระผมนาย Nordingard เจ้าเก่าเจ้าเดิม เจ้าของเพจชื่อผมเอง กระผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากทางบ้านได้ติดโควิดทั้งบ้าน ส่วนผมมีอาการแต่ตอนนี้ยังไม่ติด เลยทำให้อัพเดทล่าช้าครับ
ก่อนอื่นเลยผมขอขอบคุณเพื่อนทั้ง 12 คนมากๆเลยครับที่ได้กดติดตามบล็อกเล็กๆของผม และยังมาคอมเมนต์พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เป็นสิ่งที่ผมชอบๆ และทำให้รู้สึกว่าช่องของผมมีสีสันและชีวิตชีวามากขึ้น ผมขอให้ทุกคนจงเป็นตัวของตัวเอง และแสดงความคิดเห็นต่างๆแบบนี้ต่อไปครับผม
เหตุการณ์ที่ผมจะมารวบรวมสรุปในวันนี้คือ "10 เหตุการณ์กราดยิงที่สถานศึกษา ที่คุณอาจไม่รู้" ซึ่งผมได้แรงบัลดาลใจมาจากเหตุการณ์การกราดยิงครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นที่อเมริกา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่และโด่งดังไปทั่วโลกมากๆเลยครับ
ซึ่งผมจะขออนุญาติแบ่งเป็น 3 พาร์ท พาร์ทที่ 1 และ 2 มี 3 เหตุการณ์ และพาร์ทสุดท้ายผมจะใส่ 4 เหตุการณ์แบบยิงยาว บางเหตุการณ์อาจละเอียด บางเหตุการณ์อาจเป็นการสรุปคร่าวๆนะครับ
เร็วๆนี้ทุกคนคงได้ยินข่าวกันมาแล้วใช่ไหมครับ เรื่องข่าวการกราดยิงที่รัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2565 นายซัลวาดอร์ รามอส วัยรุ่นอเมริกาอายุ 18 ปีได้ก่อเหตุสลดโดยกราดยิงนักเรียนและครูจากโรงเรียนประถม Uvalde ในเท็กซัส จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 21 คน เป็นนักเรียน 18 คนและผู้ใหญ่ 3 คน
และการก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้นับว่าเป็นการสังหารหมู่ในโรงเรียนที่ร้ายแรงที่สุดในสหรัฐในรอบ 10 ปีนับจากเหตุการณ์กราดยิงที่โรงเรียนประถมแซนดี ฮุค รัฐคอนเนตทิคัต ที่มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 26 คน ซึ่งเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ใหญ่มากๆในอเมริกาครับ
เหตุการณ์นี้นับว่าเปรียบเป็น ”บอม” ครั้งใหญ่ที่ทำให้ผู้คนในสหรัฐออกมาตั้งคำถามอีกครั้งถึงความหละหลวมของสมาคมปืนยาวแห่งชาติอเมริกา (National Rifle Association of America : NRA) ที่ปล่อยให้เด็กวัยรุ่นพกปืนไรเฟิล AR-15 และปืนพก ผู้ก่อเหตุอาจพกกระสุนมากถึง 375 นัดมาในการก่อเหตุ ( บางแหล่งข่าวบอกว่าอาจมากกว่า 600 นัด )
ภาพที่ 1 : Salvador Ramos ผู้ก่อเหตุโศกนาฐกรรมที่โรงเรียน Uvalde นี่เป็นภาพถ่ายภาพหน้าตรง (ซ้าย) และรูปเซลฟี่จาก IG : @salv8dor_' (ปัจจุบันถูกบล็อกไปแล้ว)
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้ผมได้เริ่มสนใจในเหตุการณ์โศกนาฐกรรมสังหารหมู่ในโรงเรียน ดังนั้นวันนี้ผมจะนำเสนอเรื่องราวที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเหตุการณ์เหล่านี้ให้ฟังกันครับ
1. เหตุกราดยิงที่เวอร์จิเนียเทค ปี พ.ศ.2550
ภาพที่ 2 : ตราสัญลักษณืโรงเรียนเวอร์จิเนียเทค สัญลักษณ์แสดงถึงการเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์แบบดั้งเดิม ประดับด้วยจานสีเบอร์กันดีและจานสีทอง ดูดี สง่างาม ดูเป็นราชวงศ์ เรียบหรู และกระตุ้นความรู้สึกของความเป็นมืออาชีพ สติปัญญา และความสนใจ
ระยะเวลาเกิดเหตุ : 1 วัน (วันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2550 )
จำนวนผู้เสียชีวิต : 32 คน (นักศึกษา 27 คน อาจารย์มหาวิทยาลัย 5 คน)
หนึ่งในเหตุการณ์กราดยิงที่เลื่องชื่อที่สุดในช่วงปี 2000 เป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทค ที่เมืองแบล็กเบิรณ์ รัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเหตุการณ์นี้นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์กราดยิงที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
*ภาพที่ 3 : เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันอุ้มนักศึกษาหญิงออกจากมหาวิทยาลัย หลังจากที่เจ้าหน้าบางส่วนได้บุกประชิดสถานที่เกิดเหตุ
ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุได้ถูกระบุว่ามีอาการทางจิตเวชและมีภาวะโรคไม่พูดบางสถานการณ์ (Selective Mutism) ซึ่งส่งผลต่อการเรียนและสภาพจิตใจของเขาโดยตรง อันสืบเนื่องมาจากโชถูกรังแกจากโรงเรียนเพราะอาการดังดังกล่าว และความเก็บกดตั้งแต่สมัยเด็กที่ป่วยเป็นอาการโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง (บางที่ก็บอกว่าเขาเป็นออทิสติก) ซึ่งระหว่างที่อยู่มหาวิทยาลัย เขามีพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ไป stalker ตามผู้หญิง เป็นต้น
ภาพที่ 4 : นายซึง ฮุย โช (Seung-Hui Cho) ผู้ก่อเหตุกราดยิงที่เวอร์จิเนียเทค ย้ายเกาหลีใต้ไปสหรัฐเมื่ออายุ 8 ขวบ พ่อแม่ระบุว่าลูกมีปัญหาด้านการพูดและไม่ค่อยแสดงด้านที่อ่อนโยนให้ใครเห็น
ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ ได้มีมาตรการณ์รับทอต่างๆ เช่น การกำจัดการพกปืนให้สามารถซื้อได้เพียง 1 กระบอกในทุกๆ 30 วัน และการห้ามพกอาวุธปืนในมหาวิทยาลัย และนโยบายอื่นๆ
2. เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนเบสลาน
*ภาพที่ 5 : ทหารเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุหลังการโจมตีที่โรงเรียนหมายเลข 1 เบสลาน
เป็น 1 ในเหตุการณ์ที่ใหญ่และสำคัญมากๆ ซึ่งอยากให้ทุกคนรู้จักและนึกถึงเหตุการณ์นี้ เพราะเหตุการณ์มีเรื่องราวสำคัญต่างๆที่เกิดขึ้นมากมาย ดังเช่นต่อไปนี้
ระยะเวลาเกิดเหตุ : 3 วัน (วันที่ 1 – 3 กันยายน พ.ศ.2547 )
จำนวนผู้เสียชีวิต : 32 คน (นักเรียน 186 คน ผู้โจมตี 31 คน)
เหตุการณ์การสังหารหมู่ที่โรงเรียนเบสลาน หรือที่เรียกว่า วิกฤตการสังหารตัวประกันที่เบสลาน นับว่าเป็นโศกนาฐกรรมการจู่โจมทางโรงเรียนที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นการบุกโจมตีของกลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธชาวเชเชน มีความต้องการที่จะปลดแอกชาติเชสเนียออกจากรัสเซีย
ภาพที่ 6 : สามวันหลังจากการก่อการร้ายที่เบสลาน
(สมัยนั้น เชสเนียยังไม่แยกตัวออกจากรัสเซีย จนกระทั่งในปี ค.ศ.2000) ) ซึ่งการโจมตีในครั้งนี้ได้มีการวางแผนกันมาตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม โดยได้มีการปลอมตัวเป็นช่างซ่อมแอบเข้าไปในโรงเรียน เพื่อขนส่งอาวุธและจัดเตียมสถานที่ต่างๆให้เอื้ออำนวยต่อการก่อเหตุ เหตุการณ์ได้เกิดขึ้น 3 วัน โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้
First Day : วันเริ่มต้นแห่งโศกนาฐกรรม
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2547
วันนี้ตามปฎิทินของรัสเซีย นับว่าเป็นวันแห่งการเรียนรู้ของประเทศ ดังนั้นในวันนี้จึงมีทั้งคณะครู ผู้ปกครอง และนักเรียนเข้ามาในโรงเรียนมากเป็นพิเศษ ดังนั้นกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้บุกเข้าโจมตีเมื่อเวลาประมาณ 09.11 น. ด้วยการโจมตีกระทันหันทำให้สามารถจับกุมตัวผู้คนได้เกือบทั้งหมด
แต่มีผู้คนหลบหนีไปได้ประมาณ 50 คน ทำให้ กองกำลังตำรวจ กองกำลังภายใน (MVD) FSB และ OMEN เข้ามาปิดล้อมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ติดตั้ง tripwire เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าถึงภายในตัวอาคารได้ รายงานผู้เสียชีวิตในวันแรกยังไม่ระบุแน่ชัด
*ภาพที่ 7 : ภาพหญิงสองคนยืนร่ำไห้อยู่หน้าทโรงเรียนในวันที่ 1 ที่เกิดการต่อสู้
Second Day : วันแห่งการรอคอย
วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2547
วันนี้ทางกลุ่มผู่ก่อการร้ายได้อนุญาติให้อดีตประธานาธิบดีของสาธารณรัฐอิงกูเชเตีย Ruslan Aushev และเหล่านายพลโซเวียตเข้าไปเจรจา ทำให้ผู้ก่อการร้ายได้ปล่อยพยาบาลสาว 11 คนและทารก 15 คนออกมา
2
ซึ่งผู้ก่อการร้ายได้มอบเทปเรื่องการเรียกร้องอิสรภาพให้กับเชสเนียแก่ Aushev (ซึ่งตอนแรกรัสซียบอกว่าผู้ก่อการร้ายไม่ได้เรียกร้องอะไรนะจ๊ะ) และบอกว่าเหตุการณ์ระเบิดอพาร์ตเมนต์ที่กรุงมอสโควพวกเราไม่เกี่ยวนะ อย่างไรก็ตาม จากการถูกกักขังและไม่ให้ข้าวปลาอาหารแก่ตัวประกัน ทำให้มีตัวประกันบางส่วนหมดสติเพราะขาดน้ำ (ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงแก่การหลบหนีในวันต่อมา) และบางส่วนต้องดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองเพื่อประทังชีวิต
*ภาพที่ 8 : กลุ่มทหารและพยาบาลช่วยกันอุ้มเด็กทารกออกจากสถานที่เกิดเหตุในวันที่ 2 ที่เกิดการบุกล้อมโรงเรียนที่ 1 ของเบสลาน
Third Day : วันแห่งการตัดสินและการสูญเสียครั้งใหญ่
วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2547
หลังจากการเจรจาในการปล่อยตัวประกันคนอื่นๆไม่สำเร็จ และการเจรจาว่าจะสับเปลี่ยนระหว่างประชาชนอาสาสมัคร 700 คนกับตัวประกันข้างในว่าจะสลับกันในวันนี้เวลา 15 :00 น. แต่ยังไม่ได้สับเปลี่ยน ก็เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญขึ้นมาเสียก่อน
โดยเป็นเหตุการณ์ระเบิด ได้เกิดระเบิดต่อเนื่องกัน 3 ครั้งหลังจากที่ผู้ก่อการร้ายอนุญาติให้นำรถพยาบาลเข้าไปรับศพออกมา หลังเกิดการระเบิดทำให้เกิดการยิงต่อสู้กัน จนส่งผลให้หลังคาโดมไหม้และถล่มลงมามีผู้เสียชีวิตจากการถูกเผาถึงประมาณ 160 คน หลังจากที่เกิดการถล่ม
*ภาพที่ 9 : พลเมืองช่วยตัวประกันเด็ก 2 คนออกจากโรงเรียนหลังเกิดการต่อสู้
กองกำลังรัสเซียก็ระดมทั้งรถถังจากกองทัพที่ 58 และเฮลิคอปเตอร์จำนวน 80 ลำ(มี MI-24 อย่าง 1ลำ) เข้าสู่การต่อสู้ทันที ระหว่างนั้นผู่ก่อการได้ใช้ตัวประกันเป็นโล่กำบังมนุษย์ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตประมาณ 106 – 110 คน หลังจากใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ทางกองกำลังรัสเซียสามารถยึดโรงเรียนได้เกือบทั้งหมด
*ภาพที่ 10 : *เด็กผู้ชายขึ้นรถหนีหลังจากออกจากโรงเรียนได้
ผลกระทบที่ตามมา
หลังจากการสถาณการณ์ในโรงเรียนสงบแล้ว ได้เกิดสถาณการณ์ต่างๆมากมาย เช่น โรงพยาบาลรับคนไม่พอ สุสานต้องขยายขนาดขึ้น ประธานาธิบดีปูตินได้กล่าวไว้อาลัยแก่เหตุการณ์นี้ว่า
"เราแสดงตนว่าอ่อนแอ และผู้อ่อนแอก็พ่ายแพ้"
คำแถลงการณ์โดยรวมของ วลาดิเมียร์ ปูติน
*ภาพที่ 11 : วลาดิเมียร์ ปูติน ระหว่างการให้สัมภาษณ์ถึงเหตุก่อการณืร้ายที่เบสลาน
จากนั้น ปูตินได้กำหนดให้วันที่ 6-7 กันยายน พ.ศ.2547 เป็นวันไว้อาลัยแก่เหตุการณ์นี้ อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ส่งผลให้ตำรวจเกือบ 10,000 คนที่ไม่มีเอกสารถูกควบคุมตัวไปครวจสอบ
3. เหตุการณ์กราดยิงที่มัธยมซานตาเฟ
*ภาพที่ 12 : ดิมิทริอุส ปาโกซิส (Dimitrios Pagourtzis) ผู้ต้องสงสัยในการสังหารหมู่ที่ซานตาเฟ ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่สามารถยื่นทัณฑ์บนได้ในอีก 40 ปีต่อมา
ระยะเวลาเกิดเหตุ : 1 วัน (วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2561 )
จำนวนผู้เสียชีวิต : 10 (นักเรียน 8 คน ครู 2 คน บาดเจ็บอีก 13 คน)
เป็นอีก 1 เหตุกาณ์ไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับเหตุการณ์อื่นๆ เป็นแค่เหตุการณ์สั้นๆไว้รอเรียกน้ำจิ้ม ในวันถัดๆไป แต่ก็มีความสำคัญเพราะเกิดในยุคพ่อใหญ่ทรัมป์
*ภาพที่ 13 : Donald John Trump ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของอเมริกา กับรอยยิ้มกระชากใจของเขา
ณ เวลา 07:32 น. ปาโกซิสได้นำอาวุธเช่น ปืนลูกซอง และปืนพก เข้ามาในโรงเรียน และได้ก่อเหตุยิงขึ้นทันที แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่โรงเรียนได้ดึงสัญญานแจ้งเตือนไฟไหม้ทำให้หลายคนหาที่หลบได้ทันเวลา
จากการให้สัมภาษณ์ของผู้รอดชีวิตว่า ปาโกซิสเดินไป และร้องเพลง Another One Bites the Dust ของวงควีนไปด้วยระหว่างทาง และเมื่อเขาเจอคนที่เขารู้จักก็จะกล่าวว่า “Surprise” จากนั้นก็ยิงทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจากับปาโกซิสจนสุดท้ายเขาก็ได้ยอมจำนน โดยรวมใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 25 นาที โดยเขาได้ฆ่านักเรียนที่ไม่ชอบและไว้ชีวิตนักเรียนที่ชอบ
*ภาพที่ 14 : เพลง Another One Bites the Dust เป็น 1 ในผลงานที่มีชื่อเสียงของวงควีน อยู่ในอัลบั้ม The game สมาชิกวงประกอบไปด้วย  Freddie Mercury (คนกระโดด)  Brian May (คนขวาสุด) Roger Taylor (คนซ้ายสุด) John Deacon (มือกลอง)
ผลกระทบที่ตามมา
ในเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผลกระทบอะไรมาก ก็เพียงแค่ประธาณาธิบดีทรัทป์กล่าวแสดงความเสียใจ และ Betsy DeVos รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้นกล่าวสุนทรพจน์ และอื่นๆ แต่ก็มีบุคคลสร้างข่าวลือว่าตนเป็นวีรบุรุษอย่าง David Briscoe อ้างว่าตนได้ช่วยเหลือเหล่านักเรียน ซึ่งต่อมาก็ออกมายอมรับเองว่าโกหก
*ภาพที่ 15 : David Briscoe
เป็นยังบ้างครับทุกท่าน นี้แค่พาร์ทแรก ขอให้ทุกท่านติดตามและรออ่านพาร์ทต่อไปที่ผมจะมาสรุปเหตุการณ์สำคัญที่น่าสนใจอื่นๆให้อ่าน รอติดตามกันได้เลยครับ
โฆษณา