7 มิ.ย. 2022 เวลา 14:20 • อาหาร
"โบ๊ะเกี้ย โบ๊กเกี้ย หรือบ๊วยเกี๊ย ชนิดเดียวกัน: ขนมไหหลำในแวดล้อมแต้จิ๋วที่มหาชัยสมุทรสาคร"
หลังแวะไปกิน "โบ๊กเกี้ย" ของ "เจ๊กัน" ข้างศาลเจ้าพ่อหนู บางลำพูเมื่อตอนบ่ายทำให้นึกถึงขนมหวาน ๆ เย็น ๆ แบบนี้ที่มหาชัยบ้านผม แต่เท่าที่จำได้คนขายแถวบ้านผมเขาเรียก “โบ๊ะเกี้ย”
"โบ๊กเกี้ย" ของ "เจ๊กัน" ข้างศาลเจ้าพ่อหนู ริมคลองบางลำพู กรุงเทพฯ
ค้นบทความเก่าออกดู พบชื่อขนมหวานสูตรไหหลำ (Hainan) ออกสำเนียงต่าง ๆ กันไป เช่น "โบ๊กเกี้ย" “โบ๊ะเกี้ย” และ "บ๊วยเกี๊ย" (Bokeh) น่าจะขึ้นกับว่าเสียงถูกส่งออกมาจากจีนกลุ่มไหน แปลกก็ตรงที่คน ภาษา และวัฒนธรรมจีนที่มหาชัย สมุทรสาคร 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นจีนแต้จิ๋ว แต่ขนมไหหลำไปแทรกตัวอยู่ได้ ซ้ำเจ๊ "จุฑามณี" เจ้าของสูตรยังเล่าว่าทำขายมาราวครึ่งศตวรรษ
1
"โบ๊ะเกี้ย" คือ เส้นแป้งสีขาว หัวแหลม ท้ายแหลม คล้ายเส้นลอดช่องหรือเส้นเกี้ยมอี๋ ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งมันสำปะหลัง นำมานวดเข้าด้วยกันสัดส่วนตามสูตรของใครของมัน บางคนอาจผสมแป้งข้าวเหนียวเข้าไปด้วย
"โบ๊ะเกี้ย" แบบวัฒนธรรมเดิม
โบ๊ะเกี้ยสูตรโบราณดั้งเดิมจะมีเพียงเส้นโบ๊ะเกี้ยสีขาว "หัวแหลม ท้ายแหลม คล้ายเส้นลอดช่องหรือเส้นเกี้ยมอี๋" ใส่น้ำเชื่อมที่เคี่ยวจากน้ำตาลทรายแดงเท่านั้น
"โบ๊ะเกี้ย" แบบที่ทำขาย
เจ๊บอก "ลูกค้าเป็นคนกำหนด เมื่อทำเป็นอาชีพก็ต้องเอาใจลูกค้าเป็นหลัก ลูกค้าแนะนำ จึงได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยจนกลายเป็นขนมโบะเกี้ยในปัจจุบันที่ต้องมีธัญพืชและเครื่องอื่น ๆ รวมหลายชนิด..." เช่น เม็ดบัวเชื่อม พุทราเชื่อม รากบัว ถั่วแดง ถั่วเหลือง แปะก๊วย ลูกเดือย วุ้นมะพร้าว มันเชื่อม แล้วราดด้วยน้ำเชื่อม ตามด้วยน้ำแข็งเกล็ดหรือน้ำแข็งบดละเอียด
“โบ๊ะเกี้ย” ขนมหวานไหหลำมีหากินได้ในเมืองไทยหลังการเข้ามาตั้งถิ่นฐานของคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่กระจายตัวกันอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ อาจมีการผสมผสานดัดแปลงให้เข้ากับวิถีท้องถิ่น แต่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะเอาไว้และถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นมรดกภูมิปัญญาที่สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้
ปัจจุบัน "โบ๊ะเกี้ย" หากินได้ยาก หลายคนไม่รู้จัก ไม่คุ้นแม้แต่ชื่อ หากแต่มีปรากฏอยู่เพียงไม่กี่ร้าน และมักเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนที่มีคนไทยเชื้อสายจีนรวมตัวกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ในกรุงเทพฯ ย่านบางลำพู ท่าดินแดง เจริญกรุง วงเวียนใหญ่ ส่วนในต่างจังหวัดคงมีเฉพาะในย่านที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่เช่นกัน เช่นที่มหาชัย สมุทรสาครที่มีเพียงเจ้าเดียว
โบ๊ะเกี้ยเพียงเจ้าเดียวของมหาชัย เริ่มขายตั้งแต่บ่ายสามของทุกวัน "เจ๊จุฑามณี" เจ้าของร้าน คนไหหลำเพียงไม่กี่คนในมหาชัย สืบทอดการทำโบ๊ะเกี้ยมาจากพี่สาว ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่มหาชัยเมื่อ 50 ปีก่อน และยึดอาชีพขายโบ๊ะเกี้ยมาโดยตลอด
เดิมมีเฉพาะเส้นโบ๊ะเกี้ยเท่านั้น ต่อมาได้เพิ่มเครื่องตามใจลูกค้า เช่น แปะก๊วย ถั่วแดง ข้าวโพด วุ้นมะพร้าว มันเชื่อม ทับทิมกรอบ สลิ่ม เฉาก๊วย และแห้ว น้ำเชื่อมเดิมทำจากน้ำตาลทรายแดง ปัจจุบันมีที่ทำจากน้ำตาลทรายขาวให้ลูกค้าเลือกด้วย โดยทางร้านทำเส้นโบ๊ะเกี้ยและส่วนผสมทุกอย่างเองทั้งหมด
วิธีทำเส้นโบ๊ะเกี้ย
ผสมแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันสำปะหลังให้เข้ากัน เทน้ำร้อนใส่ในปริมาณที่เหมาะสมคนให้เข้ากัน ใช้มือนวดจนเหนียวได้ที่ สังเกตว่าสามารถปั้นเป็นตัวได้ ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ คลึงต่อให้ยาว หัวแหลมท้ายแหลม ลักษณะคล้ายลอดช่องไทยหรือเส้นเกี้ยมอี๋ นำแป้งที่ได้ไปต้มในน้ำร้อนจนสุก ให้สังเกตว่าแป้งจะลอยตัวขึ้น ใช้กระชอนตักใส่อ่างน้ำเย็น พักไว้
วิธีทำน้ำเชื่อม
ตวงน้ำตาลใส่หม้อผสมน้ำสะอาด ตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลละลายเป็นอันใช้ได้ หากมีใบเตยก็ใส่ลงไปได้เพื่อเพิ่มความหอม
การตักเสิร์ฟ
นำเส้นโบ๊ะเกี้ยและเครื่องต่าง ๆ เช่น เม็ดบัวเชื่อม พุทราเชื่อม รากบัว ถั่วแดง ถั่วเหลือง แปะก๊วย ลูกเดือย วุ้นมะพร้าว มันเชื่อมใส่ในถ้วย ราดน้ำเชื่อม และโปะน้ำแข็งไสหรือน้ำแข็งเกล็ด พร้อมเสิร์ฟ
"โบ๊ะเกี้ย" เส้นสีขาว "หัวแหลม ท้ายแหลม คล้ายเส้นลอดช่องหรือเส้นเกี้ยมอี๋" เพียงอย่างเดียว ให้รสสัมผัสเหนียวนุ่ม หนุบหนับเวลาเคี้ยว แต่ "โบ๊ะเกี้ย" ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ มีธัญพืชร่วมด้วยมากมาย ให้สีสัน ให้รสสัมผัสหลากหลาย ให้ความอร่อยไม่ซ้ำ และเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนที่ได้ลองเสมอ
บรรณานุกรม
กุลศิริ อรุณภาคย์. (2553). ศาลเจ้าศาลจีนใน
กรุงเทพฯ. กรุงเทพฯ: มิวเซียมเพรส.
องค์ บรรจุน, บรรณาธิการ. (2563). มรดก
ภูมิปัญญา พหุวัฒนธรรม ชาติพันธุ์ สาคร
บุรี. สมุทรสาคร: วัฒนธรรมจังหวัด
สมุทรสาคร.
โฆษณา