9 มิ.ย. 2022 เวลา 02:24 • ครอบครัว & เด็ก
เข้าใจลูก ปลูกฝังอนาคตได้
ด้วย 6Q ในแต่ละช่วงวัย
ภาพโทมัสในวัย 8 ปี
โทมัส หนุ่มน้อยลูกครึ่งใต้-ออสเตรเลีย
ผมเกิดที่กระบี่ และอยู่ที่กระบี่ 2 ปี
หลังจากนั้นย้ายถิ่นมาอยู่ออสเตรเลียถาวร
ตอนนี้ผม อายุ 8 ขวบแล้ว อยู่ชั้น ป.3 (Years 3)
ผมจะเล่าผ่านการเขียนของแม่นะครับ
เพราะผมเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย
ผมคิดว่าพอผมอายุประมาณ 10-12 ขวบ
ผมจะเรียนภาษาไทยเต็มตัว ทั้งอ่าน-เขียน
เริ่มเล่าชีวิตผม ตอนอยู่เมืองไทย
และ อุปสรรคในการย้ายมาอยู่ออสเตรเลีย
ตอนที่ผมอยู่เมืองไทย ผมเริ่มเดินตอนอายุ 8 เดือนนะคะ
เร็วมาก ๆ แม่บอกว่า เดินวุ่นวายที่วัดมาก
คุณตาคุณยาย ป้าน้าอา ที่วัด เอ็นดูผมมาก ๆ
เพราะผมหน้าตาแปลก ๆ กว่าเด็กแถวนั้น
เดี๋ยวให้แม่ค้นหารูปมาอวดก่อนนะครับ
ภาพโทมัสตอน 2 ปี
หน้าตาผมก็จะประมาณนี้ละครับ
มีคนมารุมอุ้ม รุมเล่น จนแม่ และคุณยาย
ต้องตามติดชีวิตคนอุ้มผมทุกฝีก้าวเลยครับ
กลัวเขาอุ้มหายกลับบ้านไปนะครับ
ยังมีอีกนะครับ ผมนี่ง่วงมาก หลับคาวัดเลยครับ
โทมัสหลับคาวัดครับผม
ผมไปทุกที่ ที่แม่พาไปเลยครับ ผมชอบนั่งรถมาก ๆ
อวดอีก อวดภาพตอนเด็กอีกนิด
โทัมสวัยแบเบาะ
โทมัสและหมาของเขา
รูปทั้งหมด เป็นชีวิตที่เมืองไทย
บ้านคุณยาย แม่ของแม่นะครับ
เป็นฟีลบ้านสวน ธรรมชาติสุด ๆ
พ่อผมยังชอบเลยครับ
เป็นไงครับหน้าตาผมตอนเด็ก
เท่ใช่ไหมครับ “ผมก็ว่างั้น อิอิเขิน”
ช่วง 2 ปี ที่อยู่ไทย จังหวัดกระบี่
ผมเริ่มฟัง และ พูดไทยได้แล้วนะครับ
ภาษาอังกฤษฟังออกบ้าง แต่ไม่เท่าไหร่
เพราะทุกคนรอบข้าง พูดภาษาไทย โดยเฉพาะภาษาใต้
รู้ไหมครับ พอผมกำลังจะพูดภาษาใต้ได้
ชีวิตก็แปลเปลี่ยน แม่วีซ่าย้ายถิ่นฐาน ก็ผ่านพอดี
พ่อมารับ ผมกับแม่ มาอยู่กันเป็นครอบครัวที่ออสเตรเลีย
ก่อนที่จะเล่าช่วงพ่อมารับ
ผมขอพาไปชมชีวิตที่อยู่ที่ไทย
ว่าผมเล่นอะไร ยังไง
โทมัสกับลูกหมาน้อย
เป็นไงละครับ เล่นลากหมาน้อย
สนุกทั้งคนทั้งหมาเลยครับ
ดูแก้มผมซิ คุณยายป้อนอาหารทุกชั่วโมงว่าได้
เวลาไปไหนมาไหน พ่อผมจะพาผมไปแบบนี้ครับ
ให้ภาพเล่านะครับ
โทมัสน้อยและพ่อชาวออสเตรเลีย
เหมือนแม่จิงโจ้กับลูกน้อยเลยครับ
พ่อผมยิ้มหน้าบาน แต่ผมไม่ค่อยเท่าไหร่
::::::::
วันแรกที่มาออสเตรเลีย ก็ช่วงหน้าหนาวเลยครับผม
ให้ภาพเล่าเรื่องแทนดีกว่า
แม่เริ่มขี้เกียจพิมพ์ครับ
ออสเตรเลียครั้งแรก หน้าหนาวมาเลย
หนาวมาก และ สวยมากด้วย
รูปคงจะบอกได้นะครับ ว่าผมชอบไม่ชอบ
มาต่อที่เรื่องภาษาที่ผมใช้พูดดีกว่า
ตอนอยู่ใต้ ผมจะคุ้นหูสำเนียงใต้
แต่ตอนนี้ สำเนียงรอบข้างไม่เหมือนเดิมแล้วนะครับ
ผมก็จะงง และคนรอบข้างก็ งง ด้วยเช่นกัน
ไม่พอนะครับ ผมได้สร้างคำใหม่ขึ้นมาเองด้วย
โดยนำภาษาใต้ ผสมกับ ภาษาอังกฤษเลยครับ
บันเทิงเริงใจ กันทั้งบ้าน สิริยัง งง เอาดิ
เพราะเหตุผลนี้ละครับ แม่ผมเลยต้องหาวิธีให้ผม
ย้ำว่าผมอายุ 2 ขวบ จะทำอะไรไปมากกว่าฟังไม่ได้นะครับ
ถามว่าทำไม ต้องใช้วิธีนี้ ให้แม่ผมหาข้อมูลมาให้ทุกคนนะครับ
ไปกันเลย!!
::::
วัยก่อนวัยเรียน (ช่วง 1-3 ปี)
เป็นช่วงวัยที่ลูกได้เปิดโลกกว้าง
และสัมผัสสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้น
ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก
ของการเรียนรู้ และเลียนแบบสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
จึงเหมาะแก่การปลูกฝังให้ลูกได้รู้จัก
การเรียนรู้รอบตัว และ ระเบียบวินัย
::::
พฤติกรรมการแสดงออกของเด็กวัยเตาะแตะ
เด็กเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น
แต่ยังไม่ทราบว่าอะไรควรไม่ควร
และยังไม่ทราบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของบ้าน หรือ สังคม
::::
พ่อแม่บางรายพยายามเข้มงวดกับเด็กโดยพยายามสอนเรื่องความผิดถูก หรือ ใส่ MQ เรื่องจริยธรรม อริยธรรม
มันเร็วเกินไปจร้า ช่วงวัยนี้ ที่จะเรียนรู้เรื่องศีลธรรม
ปล่อยให้ลูกน้อยวัยเตาะแตะ ช่วงอายุ 1-3 ปี
ได้ทำตามสัญชาตญาณให้มากขึ้น
เป็นการฝึกฝนการใช้ร่างกาย ประสาทสัมผัส
มือเท้า ให้คล่องแคล่ว เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ
หลายท่านอาจจะค้าน ถ้าไม่สอนดรื่องระเบียบวินัย
ตั้งแต่วัยนี้ จะสายไปนะคะ
…..
เรามาทำความเข้าใจเรื่อง
ระเบียบวินัย กับ ศีลธรรม ดูเผิน ๆ อาจคล้ายกัน
แต่ ความจริงแล้วเป็นคนละเรื่องเลยคะ
วินัย ยังคงฝึกต่อไป และ ต้องฝึกเรื่องของ EQ
ความฉลาดทางด้านอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ได้
คือ ฝึกให้ลูก กินนอนให้เป็นเวลา
เวลากิน ต้องกิน ไม่เล่น เวลานอน คือ ต้องเข้านอน
และต้องฝึกอย่างต่อเนื่อง
อันนี้เรียกว่า การฝึกวินัยคะ
…..
ที่สำคัญเลยนะคะ เด็กวัยนี้รู้จักการปฏิสัมพันธ์ทางร่างกาย อารมณ์กับคนอื่นมากขึ้น พูดให้ง่าย คือ
เริ่มรู้จักการเล่นมากขึ้นนั่นเองคะ
เช่น เด็กเริ่มรู้จักเข้าไปทักทายกับเด็กวัยเดียวกัน
แต่อาจยังไม่รู้จักการเข้าสังคมที่ดีพอ
เราจะพบได้หลายครั้งว่า เด็กที่มาเล่นด้วยกัน
มักมีการแย่งของเล่น หรือ มีการกัด ทึ้งดึงผม
หรือ ข่วนหน้ากัน
ถ้าเจอแบบนี้ อย่าเพิ่งด่วนลงโทษเด็กนะคะ
พ่อแม่ แค่เข้ามาแยกออกจากกันก่อน
แล้วปล่อยให้เด็กเล่นกันห่าง ๆ ก่อน
เดี๋ยวเด็กจะค่อย ๆ มาแสดงความรู้จัก โดยการกลับมาเล่นกันอีก เพราะเด็ก ๆ ไม่ได้มีเจตนาทำร้านกันคะ
แต่ด้วยวัยนี้ ยังไม่รู้จัดการแบ่งปัน หรือ การเล่นร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ สิ่งที่เราจะเห็นกัน เป็นเพียงวิธีการทำความรู้จักเพื่อนใหม่เท่านั้นเองจร้า
เมื่อปล่อยให้ลูกเล่นด้วยกันสักพัก จะก่อให้เกิดความคุ้นเคย
ความขัดแย้งต่อกันก็จะน้อยลง
…..
พอเด็กอายุย่างเข้า 2 ปี เริ่มมีความคิดแล้วคะ
เป็นตัวของตัวเองสูงขึ้น บ่อยครั้งมากที่จะพบว่า
เด็ก ๆ จะชอบทำอะไรตาม
“ความต้องการเป็นหลัก”
เช่น เมื่อต้องการเล่น ก็อยากเล่นในสิ่งที่ตัวเองอยากเล่นเท่านั้น ในบางครั้งพ่อแม่ มักเลือกของเล่นให้ ทำให้ลูกหงุดหงิด รำคาญใจ และอาละวาด
….
คุณพ่อ คุณแม่ ต้องใจเย็นในการสอนให้ลูกหยุดความรู้สึก หรือ ระงับอารมณ์นั้น
เช่น ถ้าเด็กโกรธโวยวายอยู่ คุณพ่อคุณแม่ พยายามเบนความสนใจไปยังเรื่องอื่น ๆ แทนการอาละวาดขว้างปาของโดยที่เราไม่ต้องอธิบายเหตุผลยืดยาว เพราะเด็กวัย 2 ปียังไม่เข้าใจ หรือ จำอะไรได้
…..
ยังมีวัย 3 ปีด้วยนะครับ
ผมขอหยุดไว้ก่อน เพราะตอนนั้นผม ยังอายุ 2 ปี
ที่คุณแม่ใช้เวลา 3 เดือน ทำให้ผมเก่ง ฟัง พูด อังกฤษได้ครับ
…..
แม่ผมไปอ่านหนังสือมาเกี่ยวกับ
คู่มือสอนและสร้างเด็กดีด้วย 6Q
เขียนโดย ภานุศร เครือปัญญาดี
แม่จำมาคร่าว ๆ ว่า อุปกรณ์ที่สามารถนำมาช่วยเรื่อง
การฝึก IQ ของลูกในช่วงวัยนี้ ง่ายที่สุด
คือ การใช้ “นิทานภาพ” ด้วยสีสันสดใส
เป็นตัวกระตุ้นให้เด็กได้คิดจินตนาการไปตามความคิดของตัวเอง
แม่ผมกลัวลูกจะได้สำเนียงอังกฤษไม่ถูกต้อง
แทนที่จะอ่านใหฟัง แม่เลือกวิธีเปิด การ์ตูน
ให้ดู แต่การ์ตูนที่แม่เลือกเปิด ไม่ใช่อะไรก็ได้นะครับ
แม่เลือกการ์ตูนที่มีบทสนทนาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
นั้นก็คือ การ์ตูน Peppa pig นั้นเองครับ
การ์ตูนนี้ มีหลายตอน เป็นการ์ตูนที่ช่วยให้ผม
และแม่ พัฒนาทักษะการฟัง และ การพูดได้ดี
ภายใน 3 เดือนเท่านั้น
พวกเราสามารถเลียนแบบประโยค นำมาใช้
ในสถานการณ์เดียวกัน หรือ ใกล้เคียงกันได้
…….
แม่บอกว่า ทักษะแรกที่พวกเราต้องพัฒนา
ทักษะภาษาอังกฤษ คือ การฟัง
ฟังแบบไม่ต้องสนใจไวยากรณ์ก่อน
ให้ฟังแบบเด็ก ดูภาพไปด้วย เดาเหตุการณ์ไป
ที่ทำแบบนี้ เพื่อฝึกฟังสำเนียง ฟังเสียงของคำนั้น ๆ
ที่ฝรั่งพูด เพราะ หลายคน ที่ไม่กล้าพูดกับฝรั่ง
เพราะฟังเขาไม่ออก ว่าถามอะไร
ฟังคำนั้นไม่ออก เลยประมวลผล และแปลไม่ได้นั่นเอง
…….
ติดตามเทคนิคนี้ต่อในบทความหน้านะครับ
โฆษณา