รู้หรือไม่ ขนมสายไหม
ขนมไทยแต่สัญชาติอเมริกา
หลายคนน่าจะเข้าใจผิด คิดว่า "ขนมสายไหม" เป็นขนมไทยแท้ เพราะฟังจากชื่อแล้ว ไม่มีทางจะเป็นอื่นไปได้ หรืออย่างน้อย ก็น่าจะถือกำเนิดเกิดขึ้น ในแถบประเทศเพื่อนบ้านเรา แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้ว ขนมสายไหม มีต้นกำเนิดมาจากยุโรป
ขนมสายไหม ทำมาจากน้ำตาล ปั่นจนเป็นเส้นบางเบา ลักษณะคล้ายปุยเมฆ มีหลากหลายสี ตามแต่จะคิดทำขึ้น มันเป็นต้วแทนความฝันและจินตนาการ ยึดถือตามความเชื่อของชาวตะวันตก คล้ายกับว่าเป็นขนมที่อยู่ในเทพนิยาย แต่ก่อนนั้นนิยมขายตามสวนสนุก ละครสัตว์
"Candy Floss" ถูกคิดค้นขึ้นในอเมริกา เมื่อปี พ.ศ. 2447 และได้รับความนิยมจนแพร่ขยายไปทั่วโลก โดย วิลเลียม มอร์ริสัน และ จอห์น วราตัน ในงานมหกรรมซื้อขายหลุยส์เซียอานา (Louisiana Purchase Exposition) มันเป็นขนมที่ขายดี เป็นเทน้ำเทท่า
ด้วยยอดสั่งซื้อจำนวนมากถึง 68,655 กล่อง โดย ณ เวลานั้นสนนราคาคือ 0.25 ดอลลาร์ หากเทียบอัตราเงินเฟ้อยุคปัจจุบัน น่าจะมีราคาประมาณ 5.70 ดอลลาร์
เครื่องทำขนมสายไหมรุ่นแรกๆ จะมีหม้อใบเล็ก ๆ สำหรับใส่น้ำตาล และสาร แต่งสีอาหาร เครื่องทำความร้อนบริเวณขอบ จะทำให้น้ำตาลหลอมละลาย น้ำตาลเหลวจะถูกปั่น ให้ไหลผ่านรูเล็ก ๆ และเริ่มแข็งตัวในอากาศ
ปุยขนมจะถูกจับไว้โดยหม้อใบใหญ่ ผู้ควบคุมเครื่อง จะแหย่แท่งไม้หรือมือลงไป
ในหม้อใหญ่ เพื่อให้สายไหมจับตัวเป็นก้อน สำหรับเครื่องทำสายไหมในยุคปัจจุบัน ก็ใช้หลักการในทำนองนี้เช่นกัน
สายไหมจะมีรสชาติหวาน ๆ เหนียวๆ และละลายในปากอย่างรวดเร็ว เหมือนกับปุยฝ้าย ไม่มีกลิ่นหอมมาก เพราะตัวเครื่องทำให้มีกลิ่นน้ำตาลอยู่แล้ว เวลาแห้งจะนุ่มเหมือนปุยฝ้าย แต่ถ้าชื้นจะเหนียวหนืด นำมากินกับน้ำพริกกะปิ ก็ถือว่ารสชาติอร่อยดี
ปัจจุบัน ขนมสายไหม สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ตามตลาดนัด งานสมโภชน์ต่าง ๆ หรือหากใครเดินทางไปต่างประเทศ ก็สามารถพบเห็นได้จนชินตา ซึ่งแต่ละประเทศ ก็มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป
สำหรับประเทศอังกฤษ อินเดีย สิงคโปร์ จะเรียกว่า "Candy Floss" ออสเตรเลีย ฟินแลนด์ เรียกว่า " Fairy Floss" ฮอลแลนด์ เรียกว่า "Suikerspin" แอฟริกาใต้ จะสยองหน่อย เรียกว่า " Spookasem" แปลว่า ลมหายใจของผี
กรีช เรียกว่า "Grandma’s Hair" หมายถึง ผมของคุณยาย ฝรั่งเศส เรียกว่า " Barbe à papa" แปลว่า เคราของคุณพ่อ เอสโตเนีย เรียกว่า "Sugar Cotton" ฮังการี เรียกว่า "Cotton Wool Sugar" นอร์เวย์ เรียกว่า "Sugar Spin" เปรู เรียกว่า "Sweet Cotton" เป็นต้น
เกร็ดน่ารู้
ขนมสายไหม กับโรตีสายไหม อาจจะคล้ายกัน แต่เป็นขนมคนละชนิดกัน โดยโรตีสายไหม จะมีแผ่นแป้งสำหรับห่อ ให้อารมณ์ความหนุบหนับขณะเคี้ยวไปอีกแบบ
อ้างอิง
หนังสือ : ร้อยเรื่องดี ๆ ของเมืองไทย ที่คุณไม่เคยรู้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
