ตอน เบาะแสจากงานเลี้ยง
เมื่อเมอร์คิวเรียสไปถึงห้องจัดเลี้ยง เขาพบว่ามันเป็นงานเลี้ยงที่จัดอย่างใหญ่โตเกินความจำเป็น เขาได้รับเกียรติให้นั่งติดกับนายกเทศมนตรี ส่วนอีกด้านหนึ่งนั่งติดกับชายชราชื่อเลฟท์ทิงฮ์
สำหรับเลฟท์ทิงฮ์คนนี้ เขาชอบอวดอ้างว่าตนเองรอบรู้เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในเดลฟท์ เมอร์คิวเรียสพอจะทราบมาว่าเรื่องราวที่ออกจากปากของชายชราผู้นี้ส่วนใหญ่ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลสนับสนุนแต่อย่างใด แต่เมอร์คิวเรียสก็อยากลองสอบถามดูเผื่อมีประโยชน์บ้าง
"ไม่ทราบว่าท่านเลฟท์ทิงฮ์รู้อะไรเกี่ยวกับลูกสาวของครอบครัวแวน เสตเตน บ้างไหมครับ?
"เรื่องลูกสาวนี่ผมไม่รู้หรอกครับ แต่ถ้าเกี่ยวกับแม่ของเธอผมก็พอจะรู้บ้างครับ"
เลฟท์ทิงฮ์ขยับตัวเล็กน้อยก่อนที่จะเล่าต่อ
"แม่ของแอนนา เธอมีสภาพจิตใจที่หวาดผวาและโศกเศร้า"
"ผมว่าเป็นใครที่อยู่ดีๆลูกสาวต้องถูกลักพาตัวไปก็ต้องโศกเศร้ากันทั้งนั้นนะครับ"
"นั่นก็จริงครับ แต่ประเด็นมันอยู่ที่เธอมีอาการแบบนี้ก่อนที่จะเกิดเรื่องนะสิครับ"
"อย่าลืมนะครับ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่มีคนรับใช้อยู่รอบตัว แต่ตัวสามีวันๆเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับธุรกิจของครอบครัว เธอมีสามีก็เหมือนไม่มี"
"แม้ว่าเธอจะมีคนอยู่รอบตัว แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ให้ความรักแก่เธอ สิ่งที่เธอทำได้คือการทุ่มเทความรักให้กับลูกสาวของเธอ อีกเรื่องหนึ่ง..เธอไม่ได้เป็นสาวแรกรุ่น ผมคิดว่าตอนนี้เธอน่าจะมีอายุสี่สิบปีแล้ว นอกจากนี้ผมทราบมาว่าทางครอบครัวแวน เสตเตนได้ว่าจ้างทนายความจากเมืองเฮกมาช่วยดูเรื่องคดีนี้"
เมอร์คิวเรียสเองก็เอนเอียงไปในแนวทางเดียวกับเลฟท์ทิงฮ์ ภรรยาผู้เบื่อสามีที่เอาแต่ทำงาน จมอยู่กับความเครียดตลอดเวลาจนไม่มีความสุข แต่เมอร์คิวเรียสรู้สึกว่าเลฟท์ทิงฮ์เล่าปัญหาความเจ็บป่วยทางใจของมิสแวน แสตเตนอย่างมีความสุข
เมอร์คิวเรียสบอกเลฟท์ทิงฮ์ว่า "ผมโชคดีที่เฟอร์เมร์พาผมไปดูสถานที่พบศพเกอร์ทรูยด์"
"เจ้าโจฮันเนสหรือ? เขาเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น และเป็นสามีที่หลงภรรยาอย่างมาก ยอมทำทุกอย่างเพื่อภรรยาและเชื่อฟังแม่ยายอย่างไม่มีเงื่อนไข"
"ฟังดูแปลกๆ แม่ยายของเฟอร์เมร์เป็นคนอย่างไรหรือครับ"
"เธอเป็นคนหยิ่งและชอบยกตนข่มท่าน ถือตัวเองเป็นใหญ่ที่คนอื่นต้องยอมทำตาม"
"นอกจากนี้…แม่ยายและภรรยาของโจฮันเนสเป็นพวกคาทอลิก เธอบังคับให้โจฮันเนสต้องเปลี่ยนเป็นคาทอลิกด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ได้แต่งงานกัน ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายโจฮันเนสยอมเปลี่ยนมาเป็นคาทอลิก เวลาที่สองผัวเมียไปไหนมาไหนพวกเขาก็จะทำตัวสงบเสงี่ยมไม่ให้เป็นที่สนใจของสังคม อ้อ! ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับอาจารย์เมอร์คิวเรียส"
เลฟท์ทิงฮ์เบาเสียงพูดลงแทบจะเป็นเสียงกระซิบว่า
"โจฮันเนสมีปัญหาด้านการเงินครับอาจารย์"
ทันทีที่เมอร์คิวเรียสได้ฟัง เขารู้สึกเหนือความคาดหมายถึงกับอุทานว่า
"มันเป็นเรื่องจริงหรือครับ!"
เลฟท์ทิงฮ์เล่าต่อไป
"โยฮันเนสมีภาระอันหนักอึ้งในการเลี้ยงดูครอบครัว ทุกวันนี้เขาอยู่ได้เพราะแม่ยายช่วยเหลือ แต่เธอก็ไม่ได้ช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทนแต่เธอชอบทวงบุญคุณเขาอยู่เสมอๆ ผมลืมบอกไป…แม่ยายของเขาชื่อมาเรีย ธินส์"
"เรื่องราวชีวิตของมาเรีย ธินส์ ไม่ได้ราบรื่นแต่อย่างใด เธอมีสามีที่ชอบทำร้ายภรรยา เธอมีลูกชายที่เป็นคนปัญญอ่อน ล่าสุดผมได้ยินมาว่าเขาถูกกักตัวไว้ในสถานที่บำบัดผู้ป่วยทางจิต"
"เขาไปก่อเรื่องอะไรหรือครับ ถึงกับต้องถูกกักตัวในที่อย่างนั้น?"
"อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ บางคนก็เล่าว่าลูกชายของเธอเกือบจะฆ่าเธอ บางคนก็เล่าว่าเขาเอามีดแทงโยฮันเนส ผมไม่รู้ว่าตอนนี้โยฮันเนสเป็นตายร้ายดีอย่างไร ลูกชายของ มาเรีย ธินส์ ที่มีปัญหาทางจิตคนนี้ เขามีชื่อว่าวิลเลม โบล์เนส ครับ"
เมอร์คิวเรียสฟังมาภึงตอนนี้อดขำไม่ได้ว่านี่หรือที่อวดว่ารู้ทุกอย่างในเดลฟ์ท เลฟท์ทิงฮ์เล่าจบก็หันไปสาระวนอยู่กับการหยิบขาไก่ใส่ปากแทน เมอร์คิวเรียสจึงหันไปคุยกับนายกเทศมนตรี
จบตอนที่ 11
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากติดตามเพจ สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
ขอบคุณทุกท่าน
สุธีร์@อ่านเอาเพลิน
ภาพชื่อ Woman Reading a Letter ผลงาน โยฮันเนส เฟอร์แมร์ ภาพจาก Rijks Museum
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
