14 มิ.ย. 2022 เวลา 03:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สัญญาณของความเสี่ยง
https://m.th.investing.com/rates-bonds/u.s.-2-year-bond-yield
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ
ผมหายไปนานแบบนี้ แต่ผมก็ยังติดตามข่าวสารการลงทุนอย่างใกล้ชิดมาตลอด แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไร อย่างเขียนเป็นพิเศษเลย เงียบๆไปครับ
แต่ในรอบวันที่ผ่านมา นอกจากตลาดการลงทุนต่างๆ ไม่ว่าจะคริปโต, ตลาดหุ้น, ไม่เว้นแม้แต่ตลาดพันธบัตร เกิดความโกลาหลอย่างหนักจนนักลงทุนตกใจกันถ้วนหน้า ผมเลยอยากมาเขียนเรื่องนี้เล็กน้อยครับ
โดยเฉพาะผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐในรอบวันล่าสุดครับ
อย่างที่ทราบกันว่า เมื่อพันธบัตรมีความต้องการซื้อมากกว่าขายอัตราผลตอบแทน Bond Yield จะลดลง และตรงกันข้ามถ้าความต้องการขายมากกว่าความต้องการซื้อนั้น ผลตอบแทนก็จะเพิ่มขึ้น
ทีนี้ผมอยากให้ดูตัวเลขของ 3 รายการคือ ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 2 ปี, 10 ปี, และ 30 ปีครับ
https://m.investing.com/rates-bonds/u.s.-10-year-bond-yield
https://m.investing.com/rates-bonds/u.s.-30-year-bond-yield
อย่างที่เห็นตามภาพ อัตราผลตอบแทนของอายุที่มากที่สุดเรียงลงมา 30 ปี, 10 ปี, 2 ปี นั้นผลตอบแทนของ 2 ปี กลับมากที่สุด !
ในความหมายก็คือ ความต้องการของพันธบัตรอายุ 2 ปี ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด จนอัตราผลตอบแทนขึ้นไปสูงกว่า อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรที่อายุมากกว่า
ในสายตานักลงทุน ตามความคิดของผมคือ นักลงทุนส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจมีความเสี่ยงหรือน่ากังวลมากขึ้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ พันธบัตรระยะสั้นถึงโดนเทขายจนอัตราผลตอบแทนเด้งสวนทางกับพันธบัตรระยะที่ยาวกว่า
แต่ที่ผมตกใจกว่าคือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี กลับแซงหน้าพันธบัตรอายุ
30 ปี ไปด้วยนั่นเองครับ
และปัญหาอีกอย่างคือเรื่องของผู้ที่ถือพันธบัตรอายุ 2 ปี อยู่เมื่อมีความต้องการลดลง ราคา ก็จะลดลงทำให้ผู้ที่ถือพันธบัตรอาจจะขาดทุนได้นั่นเองครับ โดยที่ผมไม่รู้ว่าผู้ที่ถือนั้นเป็นนักลงทุนรายย่อยหรือนักลงทุนรายใหญ่
ผมแค่คิดไปเองว่าถ้าเกิด บริษัทประกัน ที่เน้นลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงน้อยอย่างพันธบัตรเป็นจำนวนมากนั้น ราคาพันธบัตรลดลงหละ แล้วมาพร้อมกับตอนที่ขาดสภาพคล่องพอดี จะเสียหายกับฐานะทางการเงินของบริษัทแค่ไหน ปัญหาคงตามมาจนกระทบประชาชนและบริษัทที่เป็นลูกค้าอย่างแน่นอน
ผมไม่ได้เขียนบทความนี้เพื่ออยากให้นักลงทุนตื่นตระหนกแต่อย่างใด
แต่แค่อยากให้ตระหนักว่า เงินนั้นจะไหลไปทางไหน ราคาหรือผลตอบแทนของสินทรัพย์จะขึ้นลงในทิศทางใด
ก็ขึ้นอยู่กับความนึกคิดและการกระทำของมนุษย์กันเองทั้งสิ้น
ซึ่งตอนนี้พฤติกรรมการกระทำที่เกิดกับตลาดพันธบัตรของสหรัฐนั้น ก็สื่อให้เห็นความ ระยะเวลา 1 ถึง 2 ปีนี้ จะมีโอกาสเกิดความไม่แน่นอนและความเสี่ยงมากกว่าเมื่อเทียบกับระยะยาวนั่นเองครับ
นักลงทุนอย่างเราก็แค่เตรียมตัวรับมือและเก็บประสบการณ์กับเหตุการณ์ในครั้งนี้เพื่อเป็นนักลงทุนที่เติบโตขึ้นในวันข้างหน้าต่อไปครับ
ขอบพระคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามเพจ My Invesment Diary ครับ
ปล. หุ้นที่ผมถือยังไม่มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอะไรครับ (แถมราคาก็เริ่มขยับให้ผมชื่นใจนิดนึงแล้วครับ ไว้จะมาอัพเดทอีกทีครับ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา