16 มิ.ย. 2022 เวลา 15:44 • การเมือง
ปลดล็อคกัญชา โดย ธนินท์ธรณ์
ผมเคยเขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปลดล็อคใบกระท่อม ว่าปลดล็อคเมื่อไหร่ ปลูกกันได้เสรี กระท่อม ก็จะราคาไม่ต่างจากพริก กะเพรา
แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และไม่ได้เป็นแค่นั้น
เหตุที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ต้องย้อนไปดูตลาดพืชผลการเกษตร นอกจากราคาเนื้อสัตว์ ที่ขึ้นราคามาอย่างต่อเนื่อง และอย่างน่าสงสัยตั้งแต่หมูแพงก่อนตรุษจีน จนมาแพงยับในช่วงตรุษจีน
สุดท้าย ความแตกตรงที่ จนท.จับได้ว่ามีการกักตุนเนื้อหมูชำแหละในห้องเย็นชื่อดัง ลามมาถึงหน้าแล้ง ที่มะนาวขาดตลาด ราคามันก็พุ่งขึ้นเป็นปรกติในช่วงนี้ของทุกปี
จนล่าสุด ปัจจุบันพริกขี้หนูก็ปรับราคาทะลุกิโลกรัมละ 200 บาท นี่ยังไม่มีข่าวผักชีนะครับ เชื่อเถอะว่า รอฟังข่าวกันได้เลย
ซึ่งในวันนี้ กฏหมายปลดล็อคกัญชาคลอดออกมาให้ประชาชนได้ใช้กันแล้ว น่าจะกลบข่าวหมู พริก พริกแพงไปได้สักพัก ท่ามกลางเสียงค่อนขอดว่า ใช้ปุ๋ยอะไรกันนะ ต้นโตเร้วเร็ว ซึ่งผมเองก็ว่า ประเทศไทย น้ำดีดินดี ปลดล๊อคปุ๊บ เสี่ยหนูก็นำทีมแจกต้นกล้ากัญชากันอย้างหน้าชื่นตาบาน พร้อมกับหยอดคำพูดหวาน ๆ ว่านโยบายพรรคแก พูดจริง ทำได้จริง
หลังจากที่รัฐบาลไฟเขียว เราก็จะได้เห็นผลิตภัณฑ์จากกัญชาที่เคยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำขายกันมาสักพัก ออกมาวางบนสื่อให้เราเห็นอย่างโจ่งแจ้ง และฮือฮามากกว่าใบกระท่อม
เพราะใบกระท่อมนั้น ทำได้แค่ต้มน้ำดื่ม ห้ามต้มจำหน่าย หรือฉีกใบสดเคี้ยวและเหตุผลที่กระท่อมไม่ค่อยจะโดดเด่นหวือหวาเท่ากัญชา คงเป็นเพราะตัวกระท่อมเอง เป็นมวยรองบ่อน ดูราคาถูกกว่า กลุ่มคนที่ใช้ใบกระท่อม ก็เป็นกลุ่มคนตลาดล่าง ออกแนวผู้ใช้แรงงาน
เพราะแต่เดิม คนทำสวน เคี้ยวใบสด หรือต้มใบดื่ม เพื่อให้มีแรงในการทำงาน ภาษาชาวบ้านนิยมเรียกว่า"ดีด"ก็คงเอามาจากคำเดียวกับอาการของคนที่เสพยาบ้า ที่เมื่อก่อนเราเรียกว่ายาม้า อาการคนเสพ ก็มีแรง เหมือนม้าดีดทำนองนั้น
ส่วนกัญชาที่ดูเป็นของแพง เน้นนักเสพตลาดบน เรียกได้ว่า เสพเพื่อความสุข ผ่อนคลาย จนกระแดะไปเรียกว่า เสพ เอ้ยยยย ใช้เพื่อสันทนาการ มันจึงเป็นสิ่งเสพติดสำหรับคนชั้นกลางในยุคนั้นเสียมากกว่า
ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้กัญชาจากร้านเบเกอรี่ ไอศครีม น้ำดื่มผสมใบกัญชาจากผู้ผลิตเจ้าดัง จนไปถึงร้านขายอาหาร ลามลงมาจนถึงร้านแกงถุง ต่างก็มีผลิตภัณฑ์กัญชาเป็นของตนเองมาวางตลาดกันทั่วหน้า
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนไทยในประเทศ หรือลูกค้าต่างชาติ ที่ต่างฮือฮาตื่นเต้นกับกฏหมายใหม่นี้ของไทย ที่กล้าออกกฏหมายมาท้าทายสันดานดิบของมนุษย์ได้อย่างกล้าหาญ
ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฏหมายจะค่อย ๆ ทยอยเปิดตัว ก็ยังมีผลิตภัณฑ์กัญชาที่ยังผิดกฎหมาย ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นตามกันมาอย่างเงียบ ๆ ด้วยเช่นกัน
หลังปลดล็อคกัญชา ผมเองก็มีเพื่อนฝูงในวงการแพทย์อยู่บ้าง ก็ได้คุยกันตามประสาติดตลกไว้ ว่า ระวังนะมึง ต่อไป จะมีคนไข้แดกกัญชาเกินขนาดมาโรงพยาบาลเยอะกว่าคนไข้โควิทอีกนะมึงนะ ซึ่ง มันก็เป็นเพียงบทสนทนาขบขันในวงเหล้าเท่านั้น
กลับมาโลกความเป็นจริง ในวันนี้ข่าวกับข้าวถุงที่มีส่วนผสมของใบกัญชาทำพิษ มีเรื่องราวออกสื่อให้เห็นกันแล้ว เริ่มมีกระแส ใส่กัญชาในอาหาร ต้องแจ้งลูกค้า
บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองเริ่มออกอาการร้อน ๆ หนาว ๆ ออกปากห่วง ว่าลูกหลานอาจจะไปลองขนมใส่ใบกัญชากัน เพราะแม้แต่แพทย์เอง ก็ยังเตือน ว่าแค่ขนมรสกาแฟ ที่มีส่วนผสมของกาแฟ ก็ไม่เหมาะสมกับเด็ก จนถึงผู้มีชื่อเสียง พี่สาวของน้ำพุ ที่ออกมาเตือนเยาวชน ว่าจุดเริ่มต้นของน้ำพุ ก็เริ่มที่กัญชานี่แหละ
และนี่ก็คือส่วนแรกส่วนที่รัฐอนุญาติให้ทำได้อย่างถูกกฏหมาย
แต่ในส่วนที่ยังไม่อนุญาต เช่นการแปรรูปเพื่อการเสพ จะห้ามประชาชนได้อย่างไร ในเมื่อ ประชาชน สามารถปลูกได้อย่างเสรี และเขารู้กันแค่ว่า วันนี้ ปลูกกัญชาได้ ไม่โดนจับ ไม่ต้องแอบปลูก ในส่วนอื่น อย่างการขออนุญาตเพื่อการอื่น ไม่รู้หรอก แถม ไม่น่าจะสนเสียด้วย ดังนั้น ข้อขัดแย้งระหว่าประชาชน กับเจ้าหน้าที่รัฐ มันจะสวนทางกันเสมอ คือ
ประชาชน จะอ้างว่าไม่รู้ข้อกฏหมาย
เจ้าหน้าที่ ก็จะบอกว่า ทำผิด จะอ้างว่าไม่รู้กฏหมายไม่ได้ ต้องถูกจับ ดำเนินคดี
สุดท้าย ก็กลายเป็น เจ้าหน้าที่ รังแกประชาชน(ตาดำ)
ในส่วนนี้ ผมขอหยิบยกข้อความของคุณจาตุรณต์ ฉายแสง ที่ได้โพสข้อความไว้ใน Facebook ส่วนตัวของแก มีข้อความว่า
“ช่วงนี้ขอถามอีกคำถามหนึ่งง่ายๆว่า "คุณจะห้ามการสูบกัญชาอย่างไร ในเมื่อการครอบครองกัญชาสามารถทำได้โดยเสรี ?"
.
กัญชาเสรียิ่งกว่าน้ำดื่มที่ต้องมีอย. แต่เวลานี้กัญชาสามารถผลิต ปรุงอาหาร สกัด ดองเหล้า ซื้อขาย แจกจ่ายให้กันแบบไม่มีการควบคุมใดๆเลย จะดีแน่หรือ ไม่นับเรื่องการสูบซึ่งก็ไม่มีทางควบคุมได้
.
การเตรียมออกมาตรการโรงเรียนปลอดกัญชาเป็นตัวอย่างของปัญหา "เสรีไปก่อน คิดมาตรการทีหลัง" เวลานี้มีสูตรวิธีใช้กัญชาเป็นยาสารพัดแบบอ้างสรรพคุณต่างๆนานาและใช้กันตามแต่จะเชื่อ ไม่มีใครรู้ต่อไปจะเกิดผลเสียขนาดไหน คงต้องช่วยกันกระตุกให้ทบทวนได้แล้ว
.
สธ.จ่อออกกฎคุมใช้งานกัญชาก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการเปิดเสรีไปก่อน คิดมาตรการทีหลัง ถามว่าที่จะต้องออกกฎคุมการใช้งานนี้เพราะการใช้งานอาจมีปัญหาใช่หรือไม่ ถ้ามี ทำไมจึงปล่อยใช้กันตามใจชอบมานานแล้ว
.
พรบ.ยังไม่ผ่าน มาตรการยังไม่ได้คิด แต่เปิดเสรีกัญชาไปแล้ว เป็นตัวอย่างของการทำอะไรหวังผลแต่ในทางคะแนนเสียงและผลประโยชน์ของผู้ที่มีความพร้อมในการค้าขาย มากกว่าสุขภาพของประชาชน
.
รีบกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์ได้แล้ว
#กัญชา #กัญชาเสรี
สุดท้าย เชื่อเถอะ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเปลี่ยนกฏหมายอนุญาตให้ปลูกได้ แต่ก็เปลี่ยนสันดานคนขี้เกียจไม่ได้หรอก เพราะคนรอบสวนผม ก็ยังเดินมาขโมยมะนาว มะม่วง ขนุนที่สวนผมเช่นเดิม
โฆษณา