E-Collar: ว่าด้วยปลอกคอหมาจ๋อย 🐶
“จำเป็นต้องใส่ลำโพงให้น้องจริงๆ หรอหมอ”
💬 นี่เป็นคำถามยอดฮิตที่เจ้าของมักถามในห้องตรวจเสมอ เมื่อเห็นคุณหมอกำลังเตรียมติดตั้งจานดาวเทียมให้น้องหมาน้องแมว
และคำตอบสั้นๆ ที่ได้กลับมาทุกครั้งก็คือ “ใช่ค่ะ”
- ★E-Collar หรือชื่อเต็ม Elizabethan Collar
ปลอกคอกันเลียที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันนี้ถูกตั้งชื่อและคิดค้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1962 โดย Frank L. Johnson
ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่เขาพยายามนำแผ่นพลาสติกบางๆ มาผูกรอบคอสุนัข 🐶🩹
ส่วนชื่อก็มีที่มาจาก รูปแบบการแต่งกายของชนชั้นสูงที่เป็นที่นิยมในสมัยของ Queen Elizabeth I สมัยนั้นคือยุคที่มีความรุ่งเรืองมากๆ ✨
📍เอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่คอเสื้อ ต้องยกให้สูงเด่นและพับเป็นชั้น ๆ ลักษณะนี้จะเรียกว่า “Ruff”
บางทีต่างชาติจะชอบเรียกปลอกคอแบบนี้ว่า “Collar of shame”
ในทางสัตวแพทย์ จุดประสงค์ที่ประดิษฐ์ E-Collar ขึ้นมาก็เพื่อใช้ประกอบการรักษาในสัตว์เลี้ยง ป้องกันไม่ให้พวกเขาทำร้ายตัวเองจาก:
- ●การเลียแผลหลังจากการผ่าตัด 🩹
- ●การเลียบาดแผลที่ข้างลำตัว
- ●การกัดแทะผ้าพันแผล หรือแทะเฝือกที่ขา
- ●รวมถึงป้องกันการเกาบริเวณใบหน้า🩸
มิเช่นนั้นแทนที่บาดแผลจะได้ฟื้นตัว เราก็จะได้แหล่งสะสมเชื้อโรคแห่งใหม่มาแทน ตามมาติดๆ ด้วยภาวะอักเสบและแผลติดเชื้อ
❌ ขอเตือน ณ ตรงนี้อย่าดูถูกอุ้งเท้าของหมาแมวเชียว
⚠️โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแผลบริเวณตาและหู⚠️
มีเคสไม่น้อยเลยที่น้อง “เกาอย่างเมามันส์” จนเจ้าของต้องรีบอุ้มไปหาหมอให้วุ่น (เดี๋ยวมีเรื่องเล่าให้ฟังค่ะ)
เช่น ในกรณีที่เกาหูมากๆ สามารถทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบ ส่งผลให้เกิดเลือดคั่งที่ใบหูตามมาได้ (Aural Hematoma)
📍วิธีรักษาก็ออกจะน่ากลัวสักหน่อยเพราะต้องเจาะหรือกรีดเพื่อรีดเลือดที่คั่งออกให้หมด 🩸
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับการเกาบริเวณดวงตาก็จะมีความรุนแรงหลายระดับต่างกัน 👁✨
📍ระดับอนุบาลหมีน้อย การเกาบริเวณดวงตาบ่อยๆ มักเป็นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกระจกตาอักเสบ (Keratitis)
แบบนี้ต้องระวังเพราะเนื้อเยื่อที่เสียหายสามารถเป็นช่องทางให้เชื้อโรคร้ายเข้าไปจนเกิดการติดเชื้อตามมาได้
📍 ถัดมาคือ การเกิดแผลหลุมที่กระจกตา (Corneal Ulcer) ถ้าโชคดีแผลไม่ลึกมาก ✅ หากหยอดยาอย่างสม่ำเสมอก็ใช้เวลาไม่นานในการรักษาให้หายดีค่ะ
- ★เพราะกระจกตาสามารถรักษาตัวเองได้หากเป็นการบาดเจ็บที่ไม่รุนแรงนัก เช่น 2-3 วันถ้าเป็นรอยข่วนเล็กน้อย ❤️🩹
⚠️ แต่สิ่งที่น้องหมอเป็นกังวลมากกว่าคือ กรณีเลวร้ายที่สุด ‼️ “การเกาจนเกิดภาวะกระจกตาทะลุ”
การรักษาจะมีความยุ่งยากมากกว่า เนื่องจากมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการรักษาทางศัลยกรรม ถ้าหากไม่ตอบสนองต่อการรักษาทางยา
และไม่รับประกันว่า เรื่องการมองเห็นจะกลับมาชัดเป็นปกติเหมือนเดิมนะคะ 😰
📍ทุกเคสที่กล่าวมามีความจำเป็นที่ต้องใส่ Elizabethan Collar ทั้งหมด แต่แทบทุกครั้งแผนที่วางไว้ก็เป็นอันต้องล่ม
เพราะเจ้าของส่วนมากมักทนความใจอ่อนไม่ไหว 😅
🟡 เมื่อชีวิตติด Collar ⁉️
1. Daily life: เจ้าของควรเตรียมพื้นที่ทางเดินของสัตว์เลี้ยงให้กว้างกว่าเดิม ช่วงแรกการเดินชนโต๊ะเก้าอี้เป็นเรื่องปกติค่ะ ต้องให้เวลาน้องปรับตัวสักพัก ❤️
2. EAT: สัตว์เลี้ยงที่ใส่ collar สามารถกินอาหารได้ตามปกติ แต่ก็สามารถเลือกได้ว่าจะถอด collar เพื่อให้กินอาหารได้สะดวกขึ้น
โดยที่เราต้องเฝ้าจนกว่าสัตว์เลี้ยงจะกินเสร็จแล้วใส่กลับตามเดิมนะคะ 🍽
3. SLEEP: สัตว์เลี้ยงสามารถนอนไปพร้อมกับ collar ได้เลย 💤 อย่าใจอ่อนเชียว เพราะเป็นเวลาสำคัญที่น้องชอบแอบเลียแผล‼️
4. HYGIENE: ความสะอาดของ collar เป็นสิ่งสำคัญ เราสามารถถอดออกมาชั่วคราว นำมาล้างแล้วเช็ดทำความสะอาดได้ค่ะ 🧽
❤️ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความค่า
🌱 ฝากกด Like กด Share และกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้กับน้องหมอนะคะ 😘
💬 เรื่องเล่าจากน้องหมอท้ายบทความ:
ที่บ้านยายเคยมีน้องหมาพันธุ์ชิสุผสมพุดเดิลอยู่ตัวนึงค่ะ (ปัจจุบันน้องกลับดาวหมาไปแล้ว)
วันหนึ่งเห็นน้องเอาเท้าหน้าคันตาจนถลอก กระจกตาข้างหนึ่งจากที่ใสๆ ก็เกิดความขุ่นและมีเส้นเลือดเข้ามา … มันดูน่ากลัวมาก 😨
น้าก็เลยรีบพาไปคลินิก สุดท้ายได้ดาวเทียมกับยาหยอดตาถุงนึงกลับมา
คุณหมอบอกว่าไม่รุนแรงมาก คิดในใจ 3-4 วันก็คงหาย แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องรีบพากลับไปอีกครั้ง
เพราะน้องกระจกตาทะลุ (เฮือก 😱)
รู้ทีหลังว่าที่บ้านลืมใส่ collar กลับตอนให้อาหารน้อง‼️
สุดท้ายหมอก็ต้องให้เย็บปิดตา
ต้องพาน้องหมาขึ้นรถไปเช็คอาการบ่อยๆ กว่าจะหายดีเป็นเดือนเลยค่ะ 🥲
- ★เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าใส่ลำโพงอย่าใจอ่อนและถ้าถอดออก ห้ามลืมใส่กลับ‼️
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
