22 มิ.ย. 2022 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
4 เคล็ดลับ บริหารทรัพยากรบุคคลให้มีความเท่าเทียมกัน
4
ในปัจจุบัน เรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศกำลังถูกพูดถึงและให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องการขาดความหลากหลายทางเพศในองค์กรที่ผู้คนเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงหรือ
2
ในบทความนี้ เราจะมาแชร์เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการบริหารงานบุคคลให้มีความเท่าเทียมกัน ทั้งในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศ และความเท่าเทียมเชิงบุคคล รวมถึงบอกข้อดีที่จะเกิดขึ้นกับองค์กรด้วย
4 เคล็ดลับบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีความเท่าเทียมทางเพศ
1. เพิ่มทางเลือกของงานให้หลากหลายและเหมาะกับแต่ละเพศ
การที่บริษัทเปิดโอกาสให้ทุกเพศเข้ามาทำงานและขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ไม่เพียงแค่จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดีขึ้นเท่านั้น ประเทศยังสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วด้วย
โดยข้อมูลดัชนีการทำงานของผู้หญิง (Women in Work Index) จาก PricewaterhouseCoopers (PwC) เผยว่า หลังจากที่สหราชอาณาจักรจำกัดช่องว่างรายได้ที่ต่างกันเพราะเพศสภาพ (Gender Pay Gap) ให้แคบลง ทำให้รายได้โดยรวมของผู้หญิงเพิ่มขึ้น 80 พันล้านปอนด์
แต่การลดช่องว่างรายได้ยังมีข้อจำกัดในกลุ่มของพนักงานเต็มเวลาอยู่ ซึ่งทำให้มีจำนวนของผู้หญิงที่มีลูก หรือครอบครัวแล้ว เข้าทำงานแบบเต็มเวลาน้อยกว่าสวีเดน ทั้ง ๆ ที่มีผู้หญิงจำนวนมากที่ต้องการเข้าทำงานเต็มเวลา
1
โดยนักเศรษฐศาสตร์ของ PwC วิเคราะห์ว่า ถ้าสหราชอาณาจักรแก้ไขเรื่องช่องว่างค่าจ้างการทำงานเต็มเวลา และเพิ่มจำนวนพนักงานเต็มเวลาของเพศหญิงให้ใกล้เคียงกับสวีเดน จะสามารถเพิ่ม GDP ของประเทศได้ถึง 9% หรือ 170 พันล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลจะต้องคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมกับสายงานจริง ๆ หมั่นจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมกันภายในองค์กร เพื่อทำให้วัฒนธรรมการเลือกปฏิบัติทางเพศในที่ทำงานหมดไป ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก
2. ความเท่าเทียมของบุคลากรคือเรื่องสำคัญ
นอกจากความเท่าเทียมทางเพศแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ ความเท่าเทียมกันของบุคลากร ทั้งในด้านเงินเดือนและการเติบโตในสายงาน ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลจะต้องมั่นใจว่า บุคลากรในองค์กรได้รับการดูแลที่เท่าเทียม และทุกคนถูกประเมินในมาตรฐานเดียวกัน มีโอกาสในการเติบโตที่เท่าเทียมกัน
3. ให้ความสมดุลระหว่างงานและครอบครัวของบุคลากร
ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลและองค์กร จะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาความสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิตกับครอบครัวของบุคลากร เช่น กำหนดระยะเวลาการทำงานที่เหมาะสม ไม่ให้พนักงานทำงานล่วงเวลาบ่อยจนเกินไป
กำหนดนโยบายไม่ให้หัวหน้างานติดต่อพนักงานในวันหยุด หรือนอกเวลาการทำงาน เพื่อช่วยให้พนักงานมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากยิ่งขึ้น หรือเพิ่มสวัสดิการที่ปรึกษาทางการเงิน หรือสวัสดิการค่าศึกษาบุตร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายบริษัทละเลย
การที่บริษัทให้ความสำคัญกับบุคลากรทั้งในเรื่องของงานและครอบครัว นอกจากจะเป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ดีขององค์กรในระยะยาวแล้ว ยังทำให้บุคลากรรับรู้ได้ว่าตนเองได้รับความสำคัญจากบริษัท ทำให้พวกเขามีทัศนคติเชิงบวกต่อบริษัท และตั้งใจทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
4. HR ต้องสร้างความเท่าเทียมทางเพศภายในองค์กร
ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล หรือ HR จะต้องเป็นผู้ที่ริเริ่มสร้างความเท่าเทียมทางเพศภายในองค์กรให้เกิดขึ้น ผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ซึ่ง HR จะต้องออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับอุปนิสัยของบุคลากรในองค์กร และไม่ควรรีบร้อนเกินไป เพื่อลดโอกาสในการเกิดความต่อต้านจากการกลัวความเปลี่ยนแปลง
การบริหารทรัพยากรบุคคลที่ต้องคำนึงถึงความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น
จะเห็นได้ว่า การที่องค์กรให้ความสำคัญในเรื่องของความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศในองค์กร จะช่วยเพิ่มโอกาสให้องค์กรได้รับพนักงานที่มีความสามารถเหมาะสมกับประเภทงาน โดยที่ไม่มีข้อจำกัดที่เพศใดเพศหนึ่ง
1
อีกทั้งการที่บริษัท หรือองค์กรให้ความเท่าเทียมกันลึกลงไปในตัวบุคคล มีการประเมินประสิทธิภาพการทำงานในมาตรฐานเดียวกัน มอบสวัสดิการการทำงานหรือผลตอบแทนการทำงานที่คุ้มค่า ก็จะช่วยให้พนักงานไม่รู้สึกว่าการตั้งใจทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่เปล่าประโยชน์
พวกเขาจะมีความรักและศรัทธาต่อองค์กร รวมถึงตั้งใจทำงานเพื่อการเติบโตในหน้าที่การงานของตนเอง ซึ่งจะส่งผลให้องค์กรเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตามไปด้วย นอกจากนี้การที่บริษัทมีความเท่าเทียมกันในทุก ๆ ด้าน ยังช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดีขึ้นด้วย
ดังนั้นฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลจึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องความเท่าเทียม จะต้องทำการบ้านและวางแผนปฏิบัติที่จะทำให้องค์กรมีความเท่าเทียมกันในทุก ๆ ด้าน อย่างแท้จริง
1
โฆษณา