23 มิ.ย. 2022 เวลา 04:12 • หนังสือ
4. #ความเชื่อก็คือตัวของพระคริสต์เอง ทรงเชื่อแทนเราอย่างเป็นทัศนะภายในอย่างยิ่ง; พระองค์ทรงนำตัวของพระองค์เองถ่ายเทให้แก่เรา, กระทำตัวของพระองค์เองเข้าสู่เรา จนกระทั่งพระองค์ผู้นี้ได้กลายเป็นองค์ประกอบแห่งความเชื่อในตัวเรา.
5. ดังนั้นจึงไม่ใช่เราที่เชื่อ แต่เป็นพระองค์ที่ทรงเชื่ออยู่ภายในเรา; เช่นนี้พระองค์จึงทรงทำให้เราเป็นผู้ที่เชื่อ (เทียบ กจ.6:5; 11:22–24ก); ถ้าดูอย่างผิวเผินแล้วเหมือนจะเป็นความเชื่อของเรา แต่แท้จริงนั้นคือความเชื่อของพระองค์; นี่คือ #ความเชื่อที่แท้จริง.
6. ความเชื่อคือความสามารถในการแปรสภาพให้เป็นแก่นสาร เป็นสัมผัสที่หก ซึ่งเป็นสัมผัสที่เราใช้มาแปรสภาพสิ่งที่มองไม่เห็นหรือสิ่งที่หวังไว้ให้เป็นแก่นสาร — ฮร.11:1:
การแปรสภาพให้เป็นแก่นสารคือความสามารถที่ให้เราสามารถทำให้แก่นสารถูกแปรสภาพเป็นจริง.
ประสาทสัมผัสทั้งห้าของคนเรามีการใช้งานในการแปรสภาพสิ่งที่อยู่ในโลกภายนอกให้เป็นแก่นสาร เพื่อให้ทุกสิ่งที่เป็นทัศนะภายนอกได้ถูกส่งผ่านเข้าสู่เราเพื่อจะกลายเป็นประสบการณ์ทางทัศนะภายในของเรา.
ตามีไว้มอง, หูมีไว้ฟัง, และจมูกมีไว้ดมกลิ่นฉันใด ความเชื่อหรือวิญญาณแห่งความเชื่อของเราก็เป็นอวัยวะที่เราใช้ทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกฝ่ายวิญญาณซึ่งไม่ประจักษ์แก่ตาถูกแปรสภาพเป็นแก่นสารแล้วนำเข้าสู่ภายในเราฉันนั้น — 2กธ.4:13.
ในขอบเขตที่ลับลึกอันศักดิ์สิทธิ์ของพระวิญญาณที่สำเร็จสุดยอดนั้น เราสามารถ #ฝึกฝนวิญญาณแห่งความเชื่อของเรา พร้อมกับ #ประสาทสัมผัสฝ่ายวิญญาณ มามองดูองค์พระผู้เป็นเจ้า (อฟ.1:18; มธ.5:8; โยบ 42:5), ฟังพระองค์ (ฆต.3:2; วว.2:7ก), สัมผัสพระองค์ (มธ.9:21; 14:36; ยฮ.4:24), ลิ้มรสพระองค์ (บพส.34:8; 1ปต.2:2–3), และสูดดมพระองค์ ทำให้เราถูกพระองค์แผ่ซ่านจนกลายเป็น “สุคนธรสอันหอมฟุ้งของพระคริสต์” (2กธ.2:15)
#การดำเนินชีวิตคริสเตียน ที่อยู่ในความรักของเราก็จะกลายเป็นสุคนธรสอันหอมหวานถวายให้แก่พระเจ้า (อฟ.5:2); ยิ่งไปกว่านั้น ในที่สุดเราซึ่งเป็นผู้แสวงหาที่รักพระองค์ก็จะสุกงอมในชีวิตจนถึงขั้นที่เรามีความรู้สึกโดยตรงและมีประสาทสัมผัสของการรับกลิ่นในการแยกแยะที่สูงและว่องไวจนสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรมาจากพระเจ้าและอะไรไม่ได้มาจากพระเจ้า (พพร.7:4ข; ฟป.1:9).
2เปโตร บทที่ 1 ข้อ 1 ซีโมนเปโตร...เขียนจดหมายมายังคนเหล่านั้นที่ #ได้รับส่วนแบ่งในความเชื่อที่ล้ำค่า ซึ่งเหมือนกันกับเราทั้งหลายในความชอบธรรมของพระเจ้าและของพระผู้ช่วยให้รอดของเราทั้งหลาย คือพระเยซูคริสต์.
ฆะลาเตีย บทที่ 2 ข้อ 20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว และไม่ใช่ข้าพเจ้าที่ยังมีชีวิตเป็นอยู่ แต่พระคริสต์ต่างหากทรงมีชีวิตเป็นอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าเป็นอยู่ในเนื้อหนังเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้า #เป็นอยู่ในความเชื่อแห่งพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้าและได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า.
เมื่อเราเพ่งพินิจที่พระเยซู พระองค์ก็จะนำตัวของพระองค์เองมาถ่ายเทเข้าสู่เรามาเป็นองค์ประกอบแห่งความเชื่อและพระองค์ก็จะกลายเป็นความเชื่อของเรา....
ความเชื่อซึ่งก็คือความสามารถในการแปรสภาพให้เป็นแก่นสารนั้นเป็นเหมือนประสาทสัมผัสที่หก. เราได้รับประสาทสัมผัสในการแปรสภาพให้เป็นแก่นสารนี้ผ่านการประกาศกิตติคุณ. การประกาศกิตติคุณที่ถูกต้องไม่เพียงเป็นเรื่องของคำสอนเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นเรื่องของการถ่ายเทด้วย....
ก่อนที่ข้าพเจ้าจะสามารถประกาศกิตติคุณให้แก่คนบาปได้ ข้าพเจ้าก็จะต้องได้รับบางสิ่งที่เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้าและมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าเสียก่อน. จากนั้นเมื่อข้าพเจ้ากำลังประกาศ สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้าก็จะเข้าสู่ผู้ที่ได้ฟังเหมือนกับกระแสไฟฟ้า...
แม้พวกเขาจะสั่นศีรษะ ไม่เห็นพ้องกับคำประกาศของข้าพเจ้า แต่ภายในส่วนลึกของพวกเขาก็ได้เชื่อในสิ่งที่ข้าพเจ้าพูดแล้ว... เนื่องจากมีองค์ประกอบบางอย่างได้ถูกถ่ายเทเข้าสู่ตัวเขา พวกเขาจึงสามารถเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าได้.
การปฏิบัติไม่ได้ขึ้นอยู่กับวาทศิลป์ของเรา แต่ขึ้นอยู่กับการพูดของเรา... การปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นเรื่องของการถูกถ่ายเทด้วยตัวของพระเจ้าเองอย่างสิ้นเชิง. ก่อนอื่นเราถูกเติมเต็มด้วยองค์ประกอบอันศักดิ์สิทธิ์ แล้วเมื่อเราทำการปฏิบัติ เราก็ได้แพร่กระจายองค์ประกอบอันศักดิ์สิทธิ์นั้นเข้าสู่ผู้อื่นอย่างน่าหลงใหล.
ถ้าเราจะมีความเชื่อ เราก็ต้องหันมาเพ่งพินิจที่พระเยซูผู้เป็นต้นกำเนิดของความเชื่อ. เมื่อเราหันออกจากสิ่งอื่นทั้งหมดมาเพ่งพินิจที่พระองค์ พระองค์ก็จะนำตัวของพระองค์เองแพร่กระจายเข้าสู่ในเรา, เติมเต็มเราด้วยตัวของพระองค์เอง.
ในที่สุดเราก็จะมีความเชื่ออย่างปกติวิสัย. ความเชื่อไม่ได้เริ่มต้นจากเรา แต่เริ่มต้นจากพระองค์. ความเชื่อก็คือตัวของพระคริสต์เองที่ทรงเชื่อแทนเราอย่างเป็นทัศนะภายในอย่างยิ่ง. พระองค์ทรงนำตัวของพระองค์เองถ่ายเทให้แก่เรา, กระทำตัวของพระองค์เองเข้าสู่เราจนกระทั่งพระองค์ผู้นี้ได้ #กลายเป็นองค์ประกอบแห่งความเชื่อในตัวเรา.
ดังนั้นจึงไม่ใช่เราที่เชื่อ แต่เป็นพระองค์ที่ทรงเชื่ออยู่ภายในเรา. เช่นนี้พระองค์จึงทรงทำให้เราเป็นผู้ที่เชื่อ. ถ้าดูอย่างผิวเผินแล้วเหมือนจะเป็นความเชื่อของเรา แต่แท้จริงนั้นคือความเชื่อของพระองค์. นี่คือความเชื่อที่แท้จริง.
ทันทีที่พระคริสต์ได้เริ่มต้นความเชื่อนี้อยู่ภายในเรา...พระองค์ก็จะทำให้ความเชื่อนี้ครบถ้วน, เสร็จสิ้น, และสำเร็จ. อย่าได้คิดว่าท่านสามารถเป็นวีรบุรุษแห่งความเชื่อด้วยตัวท่านเอง...
ความเชื่อทั้งหมดที่เรามีก็คือตัวของพระคริสต์เองที่ได้เชื่ออยู่ในเราและเชื่อแทนเรา. เราดำเนินชีวิตโดยความเชื่อของพระองค์, โดยพระองค์ผู้ทรงเป็นความเชื่อของเรา (ฆต.2:20).
#องค์ประกอบแห่งความเชื่อของพระคริสต์ ถูกเติมเต็มเข้าสู่ตัวเราผ่านกฎแห่งชีวิต. เรายิ่งยอมให้กฎแห่งชีวิตกระทำการอยู่ในตัวเรา เราก็ยิ่งสามารถเชื่อได้. ถ้าเรายอมให้ #กฎแห่งชีวิต มีโอกาสกระทำการอยู่ในความคิด, อารมณ์, และความตั้งใจของเราอย่างต่อเนื่อง การกระทำการของกฎนี้ก็จะก่อกำเนิดความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ในตัวเรา.
#การมีความเชื่อไม่เหมือนกับการใช้ความตั้งใจที่แน่วแน่ มาตัดสินใจที่จะเชื่อในบางสิ่ง. ความเชื่อที่ถูกเปิดเผยไว้ในพระคัมภีร์นั้นไม่ได้มาจากตัวเราเอง แต่เป็นสิ่งที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าทรงแบ่งส่วนให้แก่เรา (2ปต.1:1). ความเชื่อเป็นผลลัพธ์ของการถ่ายเทอันศักดิ์สิทธิ์.
พระวิญญาณของพระเจ้านั้นดำเนินควบคู่ไปกับพระคำของพระเจ้า และในพระคัมภีร์ พระวิญญาณนั้นกับพระคำก็ไม่เคยแยกจากกันเลย (ยฮ.6:63; อฟ.6:17). เมื่อพระคำของพระเจ้ามาถึงเรา พระวิญญาณนั้นก็เสด็จมาพร้อมกับพระคำ และในขณะที่พระคำตรัสแก่เรา พระวิญญาณนั้นก็ซึมซาบเราด้วยสิ่งที่พระเจ้าทรงเป็น.
พระวิญญาณนั้นไม่เพียงเปิดเผยหลักความจริงที่อยู่ในพระคำแก่เราเท่านั้น แต่ยังแจกปันธาตุแท้ของพระเจ้า, องค์ประกอบอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เข้าสู่เราด้วย. เมื่อเราอ่านพระคำ ก็จะไม่เพียงมีการรู้จักและการเปิดเผย แต่ยังมีองค์ประกอบอันศักดิ์สิทธิ์ถูกซึมซาบและการถ่ายเทเข้าสู่เราอย่างปกติวิสัยและไม่รู้สึกตัวด้วย.
ผลลัพธ์ของการถ่ายเทนี้ก็จะทำให้บางสิ่งผุดขึ้นภายในเราอย่างปกติวิสัยเพื่อจะ #กลายเป็นความสามารถในการเชื่อของเรา และเราก็จะเชื่อ... #นี่ก็คือความเชื่อ.
*/ ขอเชิญชวนทุกท่านมารับสุขพระคำของพระเจ้า ผ่าน #บทเรียนหลักความจริงออนไลน์ ของเว็บไซต์ #รู้จักหลักความจริง (https://knowttruth.com) /*
โฆษณา