[Bnomics] BD Originals: Chris Hughes ผู้จุดประกายให้ Facebook เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ความยิ่งใหญ่ของ Facebook ในทุกวันนี้ คือ การที่ Facebook มีผู้ใช้ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรโลก และเราก็จะเคยได้ยินเรื่องราวอันม

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

26 มิ.ย. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ

BD Originals: Chris Hughes ผู้จุดประกายให้ Facebook เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ความยิ่งใหญ่ของ Facebook ในทุกวันนี้ คือ การที่ Facebook มีผู้ใช้ประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรโลก และเราก็จะเคยได้ยินเรื่องราวอันมหัศจรรย์ของการก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะคุ้นเคยกับ Mark Zuckerberg ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO คนปัจจุบัน ของ Meta (Facebok)

แต่ก็อย่างที่ใครหลายคนทราบว่า Mark ไม่ได้ตั้ง Facebook มาคนเดียว แต่เขาสร้างมาพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขาอีก 3 คน คือ Dustin Moskovitz, Chris Hughes และ Eduardo Saverin

ซึ่งบุคคลที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ คุณ Chris Hughes ที่ถ้าไม่มีเขา เราอาจจะยังไม่ได้เล่น Facebook กันก็เป็นได้

📌 ชีวิตวัยเด็ก

Chris Hughes เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ปี 1983 ที่เมือง Hickory ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยชีวิตวัยเด็กเขาก็เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป มีพ่อเป็นพนักงานขายกระดาษ ส่วนแม่ก็เป็นคุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์

พออายุ 14 ปี เขาก็ได้ทุนการศึกษาจาก Philip Academy และต่อมาก็ได้รับทุนการศึกษาให้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Harvard สาขาวิชาวรรณกรรม

ซึ่งที่ Harvard นี่เองที่ทำให้เขาพบกับ Mark Zuckerberg ในฐานะรูมเมท และสร้าง Facebook มาด้วยกัน

📌 จุดประกายให้ Facebook เป็นที่รู้จักมากขึ้น

อย่างที่ทราบกันดีว่า จุดเริ่มต้นของ Facebook นั้นมาจาก Facemash เว็บไซต์ค้นหาสาวฮอตประจำมหาวิทยาลัย แต่สุดท้ายเว็บไซต์นี้ก็ต้องถูกปิดตัวลงไป เนื่องจากเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

ต่อมาในปี 2004 ทาง Mark Zuckerberg เพื่อนๆ ของเรา รวมถึง Chris Hughes ก็ได้สร้าง Facebook ขึ้นมา

ในช่วงแรก Facebook นั้นใช้กันเองแค่ในกลุ่มมหาวิทยาลัย Harvard แต่ Chris Hughes เป็นคนเสนอให้ Facebook ขยายฐานผู้ใช้ไปยังมหาวิทยาลัยอื่น ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ Facebook เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม Chris Hughes ไม่ได้เป็นแค่คนที่เสนอให้ Facebook ขยายฐานผู้ใช้งานเท่านั้น แต่เขายังรับหน้าที่เป็นโฆษก คอยสื่อสารเรื่องฟีเชอร์และเรื่องราวต่างๆ ของ Facebook ให้กับบุคคลภายนอกได้รับรู้

ในช่วงปิดเทอม Chris Hughes ก็ได้เดินทางไปยัง Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนียพร้อมกับ Zuckerberg และ Moskovitz ในช่วงปิดเทอม แต่พอเปิดเทอมเขาก็ตัดสินใจกลับมาเรียนต่อจนจบการศึกษา

ในขณะที่ Zukerberg ตัดสินใจอยู่ต่อที่แคลิฟอร์เนีย และเมื่อเรียนจบ Chris ก็กลับมาร่วมงานกับ Facebook อีกครั้ง ก่อนจะออกจากบริษัทไปในปี 2007

📌 เด็กชายผู้ที่ทำให้ โอบามาเป็นประธานาธิบดี

หลังจากที่เขาลาออกจาก Facebook เขาก็ได้ย้ายมาที่เมือง Chicago เพื่อมาร่วมงานกับ Barack Obama โดยช่วยในส่วนของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี

และผลงานที่สำคัญของเขา ก็คือ เว็บไซต์ My.BarackObama.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้ผู้สนับสนุนโอบามามาสร้างกลุ่ม วางแผนกิจกรรมต่างๆ หรือ ระดมทุน ร่วมกัน

ภายหลังจากที่ Barack Obama ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา Chris ก็ได้ขึ้นปกนิตยสาร Fast Company (นิตยสารธุรกิจ) พร้อมกับพาดหัวข่าวว่า “THE KID WHO MADE OBAMA PRESIDENT” หรือ “เด็กที่ทำให้ Obama เป็นประธานาธิบดี” นอกจากนี้เขายังเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำครั้งแรกหลังจากชัยชนะของ Obama อีกด้วย

📌 ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการ

ต่อมาในปี 2012 เขาก็ได้เข้าซื้อ เข้าซื้อหุ้นส่วนมากในนิตยสาร The New Republic และกลายเป็นประธานกรรมการบริหาร และหัวหน้าบรรณาธิการ

โดยเขาพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กร เขาต้องการที่จะทำธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น และเขาก็เชื่อว่า สื่อที่แข็งแกร่งช่วยให้สังคมทำงานได้อย่างเหมาะสม ก่อนที่จะขายธุรกิจนิตยสารนี้ให้กับ Win McCormack หัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสาร Tin House และ Tin House Books

อีก ใน 4 ปีต่อมา

และในปีเดียวนั้นเอง คุณ Chris ได้ แต่งานกับแฟนหนุ่มของเขาที่คบหากันมาอย่างยาวนาน และร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น การรณรงค์ต่อต้านการผูกขาด จัดงานระดมทุนต่างๆ หรือการสนับสนุนด้านสิทธิเกย์ด้วยการก่อตั้งกลุ่ม Freedom to Marry

ในปี 2020 ที่ผ่านมา Chis Hughes ถูกประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่ประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,000 ล้านบาท

และถึงแม้ในวันนี้ Chris Hughes จะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับ Facebook แล้ว และความสำเร็จที่เขาได้รับจาก Facebook เขาก็มองว่า มันเป็นเรื่องราวที่เหลือเชื่อ และทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกลอตเตอรี่มากกว่า

แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าที่เราได้เล่น Facebook กันอยู่ในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจาก Chris Hughes เช่นกัน…

“ในฐานะที่ผมเป็นเกย์ ผมต้องการอิสรภาพในการแต่งงาน

เพื่อที่ผมจะได้สร้างครอบครัว และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในระยะยาวได้”

(As a gay man, I want the freedom to marry Sean

so we can build a family and a life together over the long term)

Chris Hughes

ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics

ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics

▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่

Website : https://www.bnomics.co

Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co

Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics