28 มิ.ย. 2022 เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์
🎯ยิ่งมีเป้าหมายแบบชัดเจนเท่าไหร่ ก็จะทำให้ไปถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
💙แล้วถ้าเราเพิ่ม “ความเชื่อ” ลงไปว่าเราสามารถทำให้เป้าหมายสำเร็จได้ล่ะ มันจะส่งผลยังไงได้บ้าง ?
สังเคราะห์บทเรียนจากคลาส #Wisdomjourney ของ #ครูเงาะ
ก่อนเข้าบทเรียนของวันนี้ ขอมาประมวลผลจากการการเรียนของครูเงาะก่อนซักนิด เพราะมันกำลังจะก้าวไปสู่ขั้นตอนของการปฏิบัติอย่างเป็นเรื่องเป็นราวละ
เท่าที่เรียนมา เราเข้าใจว่าพื้นฐานทั้งหมดของการพัฒนาตัวเองอยู่ที่ “จิต” ซึ่งเป็นต้นตอที่คอยกำหนดว่าเราจะทำอะไร ยังไง ทั้งโดยรู้ตัว และไม่รู้ตัว และ “จิต” นี้ก็จะทำให้เกิดคลื่นพลังงานที่คอยดึงดูดสิ่งที่จิตคิดไว้ให้เข้าหาตัวเรา
และด้วยพื้นฐานนี้เอง ทำให้แนวทางในการพัฒนาตัวเองต้องเริ่มจากการฝึกจิตให้รับรู้ และจดจำในสิ่งที่เราต้องการจริง ๆ ยิ่งเราเห็นภาพความต้องการได้ชัดเท่าไหร่ เชื่อมั่นได้มากเท่าไหร่ มันก็จะทำให้เราก้าวเข้าสู่เป้าหมายได้จริงขึ้นเท่านั้น
🎯ดังนั้น การเป้าหมายวันนี้ จะไม่ได้เน้นว่าควรตั้งว่าเรามีเป้าหมาย “อะไร”
💡แต่จะเน้นว่าความตั้งเป้าหมาย “ยังไง” และ “ทำไม” มากกว่า
ถ้าพร้อมแล้ว ไปเข้าสู่บทเรียนกันเลย !
.
.
.
✅ อันดับแรก ต้องมาปรับ Mindset กันก่อน
หนทางที่เดินไปสู่เป้าหมาย ขอเรียกว่า “Flow”
Flow คือสภาวะที่ไหลลื่น คล่องตัว (เพิ่มเติมจากงานวิจัยอื่น คือ คนที่อยู่ในสภาวะของ flow คือ จะทำให้เกิดความคิดริเริ่มอะไรใหม่ ๆ ได้ดี … ส่วนตัวเราคิดว่า Flow ไม่ได้หมายความถึงภาวะที่ไม่มีทุกข์ แต่เป็นภาวะที่อยู่กับความทุกข์ได้แบบไม่เดือดร้อนอะไร)
คนที่ควบคุม flow ได้ดี ก็จะสามารถเดินไปหาเป้าหมายได้สบาย ๆ แต่การเดินไปสู้เป้าหมาย มันก็อุปสรรคได้เป็นเรื่องธรรมดา อาจจะมีเหนื่อยบ้าง เฟลบ้าง ไม่ได้ดั่งใจบ้าง อยากงอแงบ้างได้ เราต้องมาเตรียมใจให้พร้อมก่อนว่าเราจะ “ยอมรับ” มันผ่านการปรับ mindset 12 ข้อด้านล่าง (สรุปมาจากบทเรียนที่ผ่าน ๆ มา) เพราะถ้าเราไม่ยอมรับ และต่อต้านมันแล้ว จิตของเราจะดึงดูดสิ่งที่เราต่อต้านเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
Mindset 12 ข้อที่เราต้องคอยเตือนตัวเองว่าอย่ามี และยอมรับสิ่งที่เกิดตามความเป็นจริงให้ได้ คือ
- ต้องถูก ห้ามผิด (ผิดบ้างก็ได้)
- ต้องสงบ ไม่ขัดแย้ง (ขัดแย้งบ้างก็ได้)
- ต้องมี ไม่สูญเสีย (สูญเสียบ้างก็ได้)
- ต้องเป็นคนดี ไม่คิดลบ หรือคิดเยอะ (คิดลบบ้างก็ได้)
- ต้องเจอแต่คน หรือของที่ชอบ (เจอที่ไม่ชอบบ้างก็ได้)
- ต้องได้ทันที (รอบ้างก็ได้)
- ต้องสุข ไม่มีทุกข์ (ทุกข์บ้างก็ได้)
- ต้องเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ ไม่ร้องไห้ (อ่อนแอบ้างก็ได้)
- ต้องใจดี ไม่โกรธ ไม่อิจฉา (โกรธบ้าง อิจฉาบ้างก็ได้)
- ต้องราบรื่น ไม่มีอุปสรรค (มีอุปสรรคบ้างก็ได้)
- ต้องถูกชม ไม่ถูกตำหนิ (ถูกตำหนิบ้างก็ได้)
- ต้องแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย (ป่วยบ้างก็ได้)
ย้ำอีกทีว่า ความทุกข์ใด ๆ เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ และเราทุกคนก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดา มีอารมณ์ได้เป็นเรื่องปกติ แล้วความทุกข์กับอารมณ์ที่เกิดขึ้น ก็จะตั้งอยู่ซักพัก แล้วดับไปเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ มองเห็นและยอมรับตามความเป็นจริงให้ได้เท่านั้นเอง
ตามทฤษฎีของกฎแรงดึงดูด คือ เมื่อจิตเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงแล้ว จิตจะมีพลังเยอะมาก ตั้งเป้าหมายอะไรก็จะสำเร็จ … ถ้าเราปรับ mindset กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปขั้นตอนต่อไปกันต่อเลย
.
.
.
✅ ได้เวลามาตั้งเป้าหมายกัน !
ลงรายละเอียดเลยนะ ว่าเราจะตั้งเป้าหมายกัน “ยังไง”
🎯Clear goal : ระบุเป้าหมายให้ชัดเจนว่าอยากทำอะไรสำเร็จ
วาดภาพออกมาให้ขัดเจนที่สุดเท่าที่จะชัดได้ กำหนดขนาด จำนวน timeline ลงรายละเอียดทุกอย่างที่จะลงได้ออกมาให้ชัดเจน เช่น สิ้นปีนี้ เมื่อเปิดสมุดบัญชีมาแล้วจะเห็นว่ามีเงินในบัญชี 1 ล้านบาท
❓Why : ถามตัวเองว่าทำไมต้องมีเป้าหมายแบบนี้ มีความหมายกับเรายังไง
เช่น ทำไมต้องมี 1 ล้านบาทในบัญชี ?
ตัวนี้สำคัญมาก เพราะถ้าตอบไม่ได้ แปลว่าเป้านี้ไม่ได้มีความหมายกับเราจริง ๆ แล้ววันนึงเราจะโยนมันทิ้งไป
💙Visualize : ทำให้เห็นภาพว่าเมื่อบรรลุตามเป้าหมายแล้ว โดยแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือ
- เรามีความสุขยังไง : วาดภาพออกมาให้ชัดเจน ถึงขนาดที่ว่าสัมผัสถึงความรู้สึกถึงตอนที่เป้าหมายสำเร็จได้ด้วยเลย
- คนอื่นมีความสุข หรือได้ประโยชน์ยังไง (ตัวนี้สำคัญมาก เพราะทำให้จิตรับรู้ว่าเราไม่ได้ต้องการเป้าหมายนี้เพราะความ “ขาด” แต่เรากำลังต้องการทำอะไรให้มากกว่าตัวของเราเอง)
Recap นิดนึง :
ก่อนหน้านี้ เคยคุยกันว่า มนุษย์ธรรมดาอย่างเรายังมีความทุกข์เกิดขึ้น มีความอยากได้เป็นเรื่องปกติ
- ความอยากได้ที่เกิดขึ้นโดยรู้ตัวว่า ต้องการมาเพื่อตอบสนองความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตนี้ ถ้าได้เราก็ยินดี แต่ถ้าไม่ได้เราก็ยอมรับได้ ถือเป็นความอยากได้ตามธรรมชาติของทุกข์แท้ ไม่ใช่อยากได้เพราะความ “ขาด”
- แต่ถ้าความอยากได้เกิดขึ้นจนเกินพอดี (จะโดยรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวก็ได้) มีความยึดติด มีความร้อนรน อาจจะถึงขั้นทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถือเป็นความอยากได้เพราะความ “ขาด” และทำให้เกิดทุกข์เทียมขึ้น
กลับมาเข้าเรื่องต่อ … มาดูตัวอย่างของครูกัน
🎯ครูตั้งเป้าไว้ว่าอยากได้กระเป๋ารุ่น limited ที่หาซื้อยากอันนึง
❓อยากซื้อไว้เพื่อการลงทุน และคิดว่าเป็นของที่สามารถซื้อได้จากน้ำพักน้ำแรงที่ตัวเองทำงานมา
💙Visualize ภาพตัวเองตอนถือกระเป๋าแบบชัด ๆ
💙Visulaize ว่าได้เอาเรื่องนี้มาเล่าให้นักเรียนฟังด้วยว่า การตั้งเป้าแบบนี้สามารถสำเร็จได้จริง ๆ และนักเรียนจะได้เอาเทคนิคนี้ไปลองใช้กับตัวเองได้จริง ๆ เหมือนกัน
💟สุดท้ายก่อนจะจบเรื่องนี้ 💟
ถ้าย้อนกลับไปถึงเรื่องการตั้งเป้ามหายเรื่องความสุขในมิติต่าง ๆ เราย้ำกันทุกครั้งว่า ให้เรามีความสุขกับ “เหตุ” หรือการลงมือทำของเรา อย่าไปโฟกัสที่ “ผล” เพราะมันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไมไ่ด้ 100%
การตั้งเป้าก็เช่นเดียวกัน… มันมีหลายอย่างที่เราเองก็ไม่รู้ และ/หรือควบคุมไม่ได้อยู่
เราอาจจะตอบไม่ได้หรอกว่า เราจะสำเร็จเมื่อไหร่ ทำไมเราทำมานานแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ แต่ตอบได้แค่ว่า ถ้าไม่ทำ ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้น เมื่อเราตั้งเป้าหมายแล้วก็พยายาม Visualize ภาพเป้าหมายให้ชัดขึ้นบ่อย ๆ แล้วย้ายโฟกัสมาลงมือทำ “เหตุ” ที่จะทำให้เราเดินไปสู่เป้าหมายนั้นได้ใกล้ขึ้น ๆ แทน
เมื่อไหร่ที่เราลงมือทำ “เหตุ” ได้ถึง … เมื่อนั้น “ผล” จะปรากฏเอง
💙💙💙💙💙💙
#Wisdomjourney ของ #ครูเงาะ #ศรัทธา2

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา