5. ความเชื่ออยู่ในวิญญาณของเราซึ่งได้ผสมกลมกลืนกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ได้อยู่ในความคิดของเรา; ความสงสัยต่างหากที่อยู่ในความคิดของเรา — 1กธ.6:17; รม.8:6; อฟ.4:23.
6. ความเชื่อในการเชื่อของเราได้กลายเป็นความเชื่อในการพูด; เมื่อเราหันสู่วิญญาณ เราจึงเชื่อ — 2กธ.4:13ข.
7. 2 โกรินโธ 4:10-13 บ่งชี้ว่า การที่อัครทูตดำเนินชีวิตที่ถูกตรึงตายอยู่ในการเป็นขึ้นเพื่อจะทำให้การปฏิบัติของพวกเขาสำเร็จลุล่วงได้นั้นก็โดยวิญญาณที่ผสมกลมกลืน:
(1) เรารู้ได้จากบริบทของข้อ 13 ว่าเปาโลกำลังกล่าวถึงประสบการณ์ที่เขามีต่อการตายและการเป็นขึ้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า:
ก. อัครทูตเปาโลเป็นพยานถึงการประหารให้ตายของพระเยซู เพื่อชีวิตของ พระเยซูจะได้ปรากฏในร่างกายของเรา — ข้อ 10.
ข. เขากล่าวต่อไปในข้อ 11 ว่าเราทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่นั้นต้องถูกมอบไว้แก่ความตายเสมอ เพราะเห็นแก่พระเยซู เพื่อชีวิตแห่งการเป็นขึ้นของพระเยซูจะได้ปรากฏในเนื้อหนังของเราซึ่งต้องตายนั้น.
ค. เปาโลยังกล่าวว่าความตายได้ปฏิบัติการในเราเพื่อจะทำให้ชีวิตแห่งการเป็นขึ้นของพระองค์ได้แจกจ่ายเข้าสู่ผู้อื่น — ข้อ 12.
(2) เปาโลกล่าวถึงเรื่องทั้งหมดนี้ในวิญญาณแห่งความเชื่อ — ข้อ 13.
8. ความเชื่อมาจากการได้ยิน และการได้ยินมาจากการประกาศพระคำ — รม.10:14:
(1) แหล่งกำเนิดของความเชื่อก็คือพระคำ; นี่ก็คือสาเหตุที่เราจำต้องเข้าสู่พระคำ — ข้อ 17.
(2) ยิ่งเราเข้าสู่พระคำมากขึ้น เราก็ยิ่งมีความเชื่อ และความเชื่อนี้ก็คือวิญญาณ — 2กธ.4:13.
(3) เราพูดพระคำซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแห่งความเชื่อของเราได้ก็โดยวิญญาณแห่งความเชื่อ.
(4) นี่ก็คือวัฏจักรอย่างหนึ่ง: พระคำก่อให้เกิดความเชื่อ, ความเชื่อคือวิญญาณ, และเราสามารถพูดพระคำได้ก็โดยวิญญาณนี้ — รม.10:14, 17; 2กธ.4:13.
วันพฤหัส - การบำรุงเลี้ยงแห่งการฟื้นฟูยามเช้า
โรม บทที่ 10 ข้อ 14 แต่ผู้ที่ยังไม่ได้เชื่อเข้าสู่ใน[พระองค์]เขาจะร้องเรียก[พระองค์]ได้อย่างไร? และผู้ที่ยังไม่ได้ยินถึง[พระองค์]จะเชื่อใน[พระองค์]ได้อย่างไร? และเมื่อไม่มีใครประกาศ เขาจะได้ยินถึง[พระองค์]ได้อย่างไร?
โรม บทที่ 10 ข้อ 17 เหตุฉะนั้นความเชื่อเกิดจากการได้ฟัง และการได้ฟังนั้นก็โดยอาศัยพระคำของพระคริสต์.