5 ก.ค. 2022 เวลา 14:48 • ปรัชญา
ประวัติพุทธสาวก 5 นาที : พระอานนท์
พระอานนท์ เป็นโอรสของพระเจ้าสุทโกทนะ กับพระนางกีสาโคตมี และยังมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระบรมศาสดา
หลังจากเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้ และเสด็จกลับมาโปรดที่กรุงกบิลพัสดุ์ ท่านได้เป็น 1 ใน 5 เจ้าชายที่ขอบวชกับพระพุทธเจ้า และบรรลุโสดาบันได้ในไม่นาน
พระอานนท์ได้รับแต่งตั้ง ให้เป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด โดยทูลขอ 8 ข้อ เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาดังนี้
  • 1.
    อย่าประทานจีวรอันปราณีต
  • 2.
    อย่าประทานบิณฑบาตอันปราณีต
  • 3.
    ไม่ขออยู่ในที่ประทับเดียวกับพระพุทธองค์
  • 4.
    ไม่ขอตามเสด็จไปในที่นิมนต์
  • 5.
    ขอพระองค์ทรงรับทุกกิจนิมนต์ ที่พระอานนท์รับไว้
  • 6.
    สามารถพาพุทธบริษัทแดนไกลเข้าเฝ้าได้ทันที
  • 7.
    สามารถทูลถามข้อสงสัยได้ทุกเมื่อ
  • 8.
    ขอทรงแสดงธรรมซ้ำ ถ้าหากพระอานนท์ไม่อยู่ ณ ที่แห่งนั้น
หลังจากได้สดับฟังคำขอ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตในทันที สอบถามคุณและโทษจนเห็นควร และทรงประทานอนุญาต
พระอานนท์ปรนนิบัติพระองค์อย่างดีเยี่ยม ด้วยความจงรักภักดี และเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เหมือนคราวที่พระเจ้าอชาตศัตรูปล่อยช้างนาราคีรีมาทำร้ายพระองค์
ท่านขึ้นชื่อได้ว่า เป็นผู้ที่จดจำคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้มากที่สุด อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ทูลขอพระพุทธเจ้าให้บวชสตรีเป็นภิกษุณีในพุทธศาสนาอีกด้วย
และยังเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย 5 อย่าง คือ เป็นพหูสูต มีสติ มีคติ มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก
หลังจากเสด็จปรินิพพานพระมหากัสสปะ ทำหน้าที่สังคยนาพระธรรมวินัย เลือกท่านให้เป็นผู้วิสัชนาในส่วนพระสุตตันตปิฎก และอภิธรรมปิฎก
ท่านเพียรพยายามอย่างหนัก จนสามารถสำเร็จอรหันตผล ก่อนทำสังคยนาเพียง 1 วัน ในท่าที่กำลังจะล้มตัวลงนอน
เมื่อท่านพิจารณาแล้วว่า ควรแก่กาลแล้ว จึงไปสู่แม่น้ำโรหิณี สั่งสอนเป็นครั้งสุดท้ายแก่มนุษย์ และเทวดา แล้วจึงตั้งสัตยาธิษฐาน ให้ร่างกายแตกออกเป็น 2 ส่วน เพื่อไม่ให้เกิดการเบาะแว้งของศากยวงศ์ และโกลิยวงศ์
หลังจากที่ท่านนิพพานเป็นที่เรียบร้อย ทุกอย่างจึงเป็นไปตามคำสัตยาธิษฐาน
โฆษณา