🌟เปิดโลกของมิตรแท้ VS มิตรเทียม🌟
🌍เปิดโลกของ "มิตร" พร้อมตรวจสอบว่าตัวเราคือมิตรประเภทไหน ? 🔊
มิตรแบบไหนที่ต้องอยู่ใกล้ ? แบบไหนต้องอยู่ไกล ?
ในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนาเน้นย้ำในหลายๆ วาระว่า ชีวิตข้างหน้าของเราจะเจริญก้าวหน้าหรือล้มเหลวพังทลายนั้น ขึ้นอยู่กับการคบเพื่อนหรือการคบมิตร นับเป็น 1 ตัวแปรที่สำคัญมาก ๆ ของความสำเร็จ
เราจึงพบว่าพระพุทธศาสนาได้ชี้แจงหลักการคบมิตรไว้มากมาย เช่น การคบมิตรตามหลักมงคลสูตร 38 ประการ มีการไม่คบคนพาล และการคบแต่บัณฑิต เป็นต้น
การคบมิตรตามหลักจักร 4 มีการเลือกคบแต่บัณฑิต และการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
การคบมิตรตามหลักทิศ 6 เป็นการประพฤติปฏิบัติตนต่อมิตรด้วยความถูกต้องสมบูรณ์ตามหน้าที่ และบทบาทของตน เป็นต้น
เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า เพื่อนมีผลต่อความเจริญก้าวหน้าและความเสื่อมของชีวิตอย่างมาก ทุกท่านควรทราบหลักธรรมเกี่ยวกับเรื่องมิตรที่เป็นข้อสำคัญ ๆ ไว้ ดังนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกล่าวถึงคนที่ควรคบ คนที่ไม่ควรคบ และหลักปฏิบัติต่อกันระหว่างมิตรสหาย ดังนี้คือ
🌟มิตรแท้ 4 มิตรที่ใจดี เป็นมิตรที่มีความจริงใจ เป็นมิตรที่ควรคบหาสมาคม พระพุทธองค์ทรงสอนให้คบมิตรประเภทนี้ เพื่อความสุขความเจริญในชีวิตตน
มิตรที่จริงใจ
มี 4 ประเภทดังนี้
1. มิตรอุปการะ มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) เพื่อนประมาท ช่วยรักษาเพื่อน
2) เพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สินของเพื่อน
3) เมื่อเพื่อนมีภัย เป็นที่พึ่งพำนักได้
4) เมื่อเพื่อนมีกิจจำเป็น ช่วยออกทรัพย์ให้เกินกว่าที่ออกปาก
2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) บอกความลับแก่เพื่อน
2) รักษาความลับของเพื่อน
3) เมื่อเพื่อนมีภัยอันตรายไม่ละทิ้ง
4) แม้ชีวิตก็สละให้ได้
3. มิตรแนะนำประโยชน์ มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) เพื่อนจะทำชั่วเสียหาย คอยห้ามปรามไว้
2) แนะนำสนับสนุนให้เพื่อนตั้งอยู่ในความดี
3) ให้เพื่อนได้ฟังได้รู้สิ่งที่ไม่เคยได้รู้ได้ฟัง
4) บอกทางสุขทางสวรรค์ให้เพื่อน
4. มิตรมีน้ำใจ มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) เพื่อนมีทุกข์ พลอยไม่สบายใจ (ทุกข์ ทุกข์ด้วย)
2) เพื่อนมีสุข พลอยแช่มชื่นยินดี (สุข สุขด้วย)
3) เขาติเตียนเพื่อน ช่วยยับยั้งแก้ไขให้
4) เขาสรรเสริญเพื่อน ช่วยพูดเสริมสนับสนุน
🌟มิตรเทียม 4 ศัตรูผู้มาในร่างของมิตร เป็นมิตรที่ไม่ควรคบหาสมาคม ไม่มีความบริสุทธิ์ใจ คบกันเพื่อหวังแต่ประโยชน์ส่วนตัว ใครคบจะทำให้ตนเองไม่มีความเจริญ ทั้งยังทำให้ผู้อื่นติเตียน
มี 4 ประเภทดังนี้
1. คนปอกลอก คนที่เอาของเพื่อนไปฝ่ายเดียว มีลักษณะมีลักษณะ 4 ประการคือ
1) คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว
2) ยอมเสียน้อย โดยหวังจะเอาให้มาก
3) ตัวมีภัย จึงมาช่วยทำกิจของเพื่อน
4) คบเพื่อน เพราะเห็นแก่ประโยชน์
2. คนดีแต่พูด มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) พูดแต่เรื่องที่พูดไปแล้ว เช่น พูดทวงบุญคุณ บอกว่าจะช่วยเหลือเพื่อน แต่ไม่ช่วยเหลือ
2) พูดแต่เรื่องที่ห่างไกล ที่ยังมาไม่ถึง
3) สงเคราะห์เพื่อนด้วยสิ่งที่ไม่มีประโยชน์
4) เมื่อเพื่อนมีกิจ อ้างแต่เหตุขัดข้อง
3. คนหัวประจบ มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) เพื่อนจะทำชั่วก็เออออหรือสนับสนุนด้วย
2) เพื่อนจะทำดีก็เออออไปด้วย
3) อยู่ต่อหน้าเพื่อนสรรเสริญเยินยอ
4) ลับหลังเพื่อนก็ติฉินนินทา
4. คนชวนให้ฉิบหาย มีลักษณะ 4 ประการคือ
1) คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา
2) คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน
3) คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการละเล่น
4) คอยเป็นเพื่อนไปเล่นการพนัน
🌟วิธีการคบมิตร
การเลือกคบคนเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต เพราะมนุษย์แต่ละคนยังเป็นผู้มีกิเลสหนาปัญญาหยาบ มีโลภะ โทษะ โมหะมากและน้อยแตกต่างกันไปตามวิธีการฝึดหัดขัดเกลาทั้งในอดีตชาติและชาติในปัจจุบัน ตั้งแต่แรกเกิดถึงปัจจุบัน จึงมีโอกาสคุ้นเคยกับการอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ย่อมติดอุปนิสัยของคนอื่นด้วย และคบหาสมาคมกับใครก็ตาม สามารถนำพาอนาคตของเรารุ่งโรจน์หรือตกต่ำได้
พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า การไม่คบหาสมาคมกับคนพาลเป็นมงคลของชีวิต เพราะคนพาลมักคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีเป็นปกติ ชอบชักนำไปในทางที่ผิด ผู้ที่เข้าใกล้จึงมักมีความคิดเห็นผิดตามไปด้วย
🌟ดังนั้น ผู้ที่ปรารถนาความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต จึงจำเป็นต้อง
1.หลีกให้ห่างไกลจากคนพาล คือคนคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีหรือห่างจากมิตรเทียมทั้ง 4 ตามลักษณะดังกล่าวมานี้ ถ้าคบคนเหล่านี้ อีกไม่นานก็จะทำให้ชีวิตมีแต่ความตกต่ำเสียหาย
2.ตรวจสอบตนเองเสมอว่าตนเองต้องไม่เป็นคนพาลหรือมิตรเทียมด้วยเสียเองด้วย
3.รู้จักเลือกคบคนเป็น คบมิตรแท้หรือกัลยาณมิตรตาม 4 ลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น หรือคบคนคิดดี พูดดี ทำดีก็จะทำให้เรามีชีวิตที่เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในชีวิต
4.ตรวจสอบตนเองเสมอว่าตนเองต้องเป็นมิตรแท้ และถ้าขาดตกบกพร่องตรงจุดไหนก็สามารถพัฒนาเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเพื่อให้ชีวิตพัฒนาไปสู่เส้นทางแห่งความสุข มีความมั่นคง มีความสำเร็จ และ สมปรารถนาในทุกสิ่งที่ดีงามทุกประการตราบถึงพระนิพพาน.
🔰ที่มา : สิงคาลกสูตร ว่าด้วยสิงคาลกมาณพ, พระไตรปิฎกเล่มที่ 11
พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 3 ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค [ฉบับมหาจุฬาฯ]
มิตรแท้ vs มิตรเทียม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
